Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลุงหมอขอ WRITE
•
ติดตาม
24 ต.ค. เวลา 09:00 • ท่องเที่ยว
หุบเขาจิ่วจ้ายโกว
ปฐมบท ทริปจิ่วไจ้โกว ทริปท่องเที่ยวหรือทริปฝึกจิต
จิ่วไจ้โกว ชื่อนี้ลุงหมอได้ยินมานานมากแล้ว เค้าว่ากันว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามจนกระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์บนดินอีกด้วย และถ้าถามใครก็ตามที่ไปเที่ยวเมืองจีนว่าไปเที่ยวที่ไหนมา จิ่วไจ้โกว มักจะเป็นคำตอบที่มาเป็นอันดับต้นๆ เสมอ เมื่อมีโอกาสไปสัมผัสก็จะประทับใจอย่างแน่นอน ลุงหมอเองก็เช่นกัน ถึงแม้การเดินทางครั้งนั้นจะผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นยังคงอยู่ในใจมาตลอด ถ้ามีใครถามถึงเรื่องนี้ ลุงหมอก็พร้อมที่จะเล่าให้ทุกคนฟังเสมอ
ความประทับใจของลุงหมอนั้น มีอยู่ในแทบทุกช่วงของการเดินทาง ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนกระทั่งไปถึงจุดหมายปลายทาง นอกจากนี้เพื่อนร่วมทางที่ดีบวกกับความงดงามของธรรมชาติก็ยิ่งสร้างความประทับใจให้ลุงหมอมากขึ้น และที่สำคัญคือ ไกด์ส่วนตัวของพวกเรา เค้าช่างสร้างความประทับใจได้มากกว่าสิ่งใด มาลองติดตามกันครับว่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไร
ก่อนอื่นลุงหมออยากให้ทุกท่านทำความรู้จักกับ จิ่วไจ้โกว จากวิกิพีเดียกันสักเล็กน้อย Jiǔzhàigōu มีความหมายว่า หุบเขาเก้าหมู่บ้าน เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535
จิ่วไจ้โกว ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเทือกเขาหมินซาน ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางเหนือ 330 กิโลเมตร ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทศมณฑล Nanping ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงอาป้า ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเสฉวน ใกล้เขตแดนของมณฑลกานซู
การเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการที่หนึ่งในเพื่อนร่วมทริป ออกไอเดียว่า เราไปเที่ยวจิ่วไจ้โกว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกันดีไหม ไปเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และหาไกด์คนไทยสักคนเป็นผู้ออกแบบการเดินทาง ไปกันสัก 1 สัปดาห์ ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินไม่แพงมากนัก พอได้รับข้อมูลลุงหมอกับภรรยาก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว อยากจะบอกว่าแค่ได้รู้ว่าจะไปจิ่วไจ้โกวแถมยังได้ไปในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ลุงหมอหลงใหลแค่นั้น ลุงหมอก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
เพื่อนร่วมทริปของลุงหมอ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่คุ้นเคยกัน เคยร่วมทริปกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ได้แก่ พี่สถิตย์ พี่จีภรรยาพี่สถิตย์ อาจารย์แป๋ว น้องเมย์ ลุงหมอเองกับภรรยา และที่มาเพิ่มที่เราต้องทำความรู้จักกันเพิ่มเติมคือ พี่ปูกับพี่นิด(พี่สองคนนี้เป็นเพื่อนกับพี่สถิตย์กับพี่จีอยู่แล้ว) รวมทั้งหมด 8 ชีวิต และเมื่อรวมกับไกด์ของเราก็รวมเป็น 9 ชีวิต
เราได้มีโอกาสทำความรู้จักกันเพิ่มก็คือวันนัดทำวีซ่า ซึ่งไกด์ของเราได้นัดวันให้เราแล้ว เรามีหน้าที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตามวันและเวลาที่นัดเท่านั้น เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนการไปเมืองจีนยังต้องทำวีซ่าเข้าประเทศอยู่เลย แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว และในวันนั้นหลังจากได้เจอกันวุ่นวายกับการช่วยกันกรอกเอกสารคำร้องขอวีซ่าเมืองจีนอยู่ไม่กี่ชั่วโมง เราก็ได้ทำความรู้จักกับไกด์และพี่นิดกับพี่ปู เราน่าจะเข้ากันได้ดี ถึงแม้ว่าพี่นิดจะเป็นคนพูดน้อยก็ตาม ส่วนไกด์ก็ให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทริปนี้ต้องปังปุริเย่อย่างแน่นอน
เมื่อได้รับวีซ่าเข้าประเทศจีน เราก็เหลือเพียงการเตรียมความพร้อมและรอวันออกเดินทางที่เราได้จองตั๋วเครื่องบินไว้ โดยในส่วนนี้น้องไกด์ดำเนินการจองให้ ในวงเล็บเงินเรานั่นแหละ กว่าจะถึงวันเดินทางลุงหมอก็ต้องเสียเงินจัดหาเสื้อกันหนาวเพื่อไว้สร้างความอบอุ่นให้ร่างกายช่วงเที่ยว ลุงหมอก็บอกกับภรรยาว่า อากาศไม่น่าจะหนาวมาก อุณหภูมิประมาณสิบกว่าองศาเซลเซียสคงไม่ต้องเอาฮีทเทคไปหรอก หนักกระเป๋าเปล่าๆ
ทริปนี้สิ่งที่เรากังวลกันมากๆคือ การเดินทางจากเฉิงตูไปจิ่วไจ้โกวโดยรถบัสประจำทางนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง นอกจากต้องนั่งนานจนตูดด้านแล้วการเดินทางนานๆแบบนี้สิ่งที่ต้องมาคู่กันคือ การเข้าห้องน้ำเพื่อปลดทุกข์ คุณคุณน่าจะพอรู้กิตติศัพท์อันลือเลื่องของ ห้องน้ำเมืองจีน กันมาบ้างแล้ว มันช่างน่ากลัวเสียจริง แต่ไม่เป็นไร จะเจออะไรก็ต้องอดทน อย่างร้ายสุดก็คงอ๊วกแตก กินข้าวไม่ได้แค่นั้นเอง
วันเดินทางคือวันที่ 12 ตุลาคม 2566
ผมกับภรรยาก็ออกเดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อไปสมทบกับเพื่อนร่วมทริปรวมทั้งน้องไกด์ เรานัดเจอกันที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง แต่ละคนก็พกอาหารมากินในตอนเย็นก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน มีทั้งข้าวเหนียวเนื้อทอด น้ำพริก เรากินกันสักพัก น้องโก๋ก็มาถึงพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆใบเดียว ลุงหมอก็อดสงสัยไม่ได้ว่ากระเป๋าใบเล็กนิดเดียว จะใส่อะไรได้บ้างนะ แต่คิดอีกทีอย่าลืมนะว่าเค้าเป็นไกด์คงจะชำนาญการจัดกระเป๋าแหละ อย่ากังวลแทนเค้าเลย
และเหตุการณ์แรกที่ไกด์ทำให้ลุงหมออึ้งคือ น้องบอกว่าพี่ครับกระเป๋าผมใบเล็ก ผมขอฝากโลชั่นขวดนึงไว้ในกระเป๋าที่พี่โหลดได้ไหมครับ ลุงหมอก็งง และก็คิดในใจว่า เอ๋า ทำไมไม่เตรียมพร้อมวะ แล้วกูจะมั่นใจในตัวมันได้ไหมนะ มันจะพาทริปกูล่มไหมนะ แต่เสียงเล็กๆในหัวฝ่ายคนดีของลุงหมอก็บอกตัวเองว่า มันอาชีพเขานะเขาต้องทำได้ดีสิ จริงไหม แล้วลุงหมอก็ตอบน้องไปว่า ได้สิครับ ไหนดูซิขวดอยู่ไหน น้องยื่นขวดโลชั่นทาผิวขวดใหญ่มาให้ผม ขวดใหญ่ครับ ขวดใหญ่
คุณคุณฟังไม่ผิด ลุงหมอยื่นมือไปรับมายื่นให้ภรรยาเก็บในกระเป๋าของเรา พร้อมกับคิดในใจดังๆว่า เอ๋าทำไมขวดใหญ่แท้ หนักด้วย กูนึกว่านิดเดียว แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็โหลดกระเป๋าแล้วไม่ต้องถือให้หนักหรอก
แปลกๆ ละ น้องไกด์ ทำไมทำความคุ้นเคยกับลูกทัวร์โดยการฝากของให้ถือ เอิ่ม ได้ไหมนะ ลุงหมอคิดมากไปไหม แต่สิ่งที่ลุงหมอกลัวคือ สิ่งนี้มันบอกถึงความไม่รอบคอบ ไม่วางแผน และความไม่รับผิดชอบตัวเอง ซึ่งมันไม่ควรจะอยู่ในคุณสมบัติของไกด์ทัวร์ แล้วเค้าจะดูแลพวกเราอีก 8 ชีวิตได้ไหมนะ เริ่มละ ความประทับใจในตัวไกด์อย่างแรกที่มีคือ ความกังวล แต่ลุงหมอก็ไม่ได้บอกให้ใครรู้หรอกว่าแอบกังวลด้วยเกรงว่าทุกคนจะหมดสนุกเอา
ลุงหมอถามน้องไกด์ว่า รายละเอียดการเดินทางวันนี้เป็นอย่างไร น้องก็บอกว่าเราจะออกเดนทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียมุ่งหน้าไปยังเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เราจะไปถึงที่นั่นประมาณตี 1 หรือตี 2 ลุงหมอจำได้ไม่ชัดนัก และน้องบอกว่าจากนั้นเราจะเดินทางไปสถานีรถประจำทางในตัวเมืองตอน 6 โมงเช้า ระหว่างนั้นเราต้องหาที่นอนที่สนามบิน เพื่อรอรถไฟฟ้าเข้าเมืองขบวนแรกตอน 6 โมงเช้า พอไปถึงสถานีรถประจำทางเราจะซื้อตั๋วรถที่นั่น
พอได้ฟังวิธีการเดินทาง การเดินทางจากดอนเมืองไปเฉิงตูลุงหมอไม่ติด การหาที่นอนตามพื้นสนามบินหรือบนเก้าอี้ในสนามบินรอรถไฟฟ้าขบวนแรกลุงหมอก็ไม่ติดใจ แต่ที่ติดใจคือวิธีการซื้อตั๋วรถโดยสาร ลุงหมอก็แอบคิดสรุปในใจคนเดียวอีกว่า อ้าว แสดงว่าเรายังไม่มีตั๋วรถโดยสารไปจิ่วไจ้โกวสินะ ถ้าตั๋วหมดจะทำไง หรือว่ามีตั๋วไม่จำกัด ใช่ๆ ตั๋วคงมีไม่จำกัดและรถน่าจะมีตลอดวันแหละ ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวนี่นา
ต้องมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน ลุงหมอมีหน้าที่เก็บความกังวลใจนี้ไว้เพียงคนเดียว อะไรที่ยังไม่เกิดอย่าไปกังวล รู้แต่เพียงตอนนี้แค่ได้มากับภรรยาได้มาเจอเพื่อนร่วมทริปที่น่ารัก ได้ทักทายถามไถ่อัพเดตความเป็นไปของกันและกัน ได้ทำความรู้จักกับพี่ปูพี่นิดและได้ออกเดินทางด้วยกัน ลุงหมอก็มีความสุขแล้ว
Let’s go to Jiuzhaigou. Do not worry, be happy. This is only the beginning of the journey.
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย