พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบรมราชินีนาถใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า “สิริกิติ์” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้เป็นศรี แห่งกิติยากร”
ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2475 ที่บ้านพลเอก เจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) ผู้เป็นบิดาของหม่อมหลวงบัว ณ บ้านเลขที่ 1808 ถนนพระรามหก ตำบลวังใหม่ อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ขณะนั้นเป็นระยะที่ประเทศเพิ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย ก่อนหน้านั้นพระบิดาของพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก มียศเป็นพันเอก หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร
เมื่อทรงพระเยาว์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเริ่มการศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนราชินี ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีชั้นนำของประเทศไทย จากนั้นได้ทรงตามเสด็จพระบิดาไปประจำการในต่างประเทศ และได้ทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศฝรั่งเศส โดยทรงมีพระปรีชาสามารถเป็นเลิศทางด้านภาษา ดนตรี และศิลปะ ทรงโปรดการขับร้องและดนตรีคลาสสิกเป็นอย่างยิ่ง
ในระหว่างที่ทรงพำนัก ณ ประเทศฝรั่งเศส ได้ทรงรู้จักกับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ 9) ซึ่งขณะนั้นทรงศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองพระองค์ทรงมีความสนิทสนมและเข้าใจกันเป็นอย่างดี จนต่อมาได้ทรงหมั้นหมายกันเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พุทธศักราช 2492 ณ เมืองโลซานน์
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เมษายน พุทธศักราช 2493 ได้มีพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ณ พระที่นั่งอภิเนาว์นิเวศน์ ในพระบรมมหาราชวัง หลังจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 และทรงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 4 พระองค์ คือ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10)
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
พระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตร
ภายหลังจากเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรและทรงรับทราบปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนด้วยพระองค์เอง ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการช่วยเหลือประชาชนมากมาย โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมไทย
เมื่อปี พุทธศักราช 2519 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” เพื่อส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โดยทรงให้ราษฎรได้ฝึกหัดงานหัตถกรรม เช่น การทอผ้าไหม การปักผ้า การจักสาน การทำเครื่องเงิน และศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านอื่น ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้แล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดิน
นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ยังทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรงส่งเสริมการปลูกป่า การอนุรักษ์สัตว์ป่า และการดูแลระบบนิเวศทางทะเล พระราชกรณียกิจเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้
พระเกียรติคุณและพระราชสมัญญา
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถอันเปี่ยมล้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ รัฐบาลไทยได้พร้อมใจกันทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา
“สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2562 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 87 พรรษา และเพื่อเฉลิมพระเกียรติในฐานะ “พระมารดาแห่งแผ่นดิน” ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ต่อชาติบ้านเมืองและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า
พระราชปณิธานและพระมหากรุณาธิคุณ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงมีพระราชปณิธานมั่นคงในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย และทรงมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ทรงเป็นแบบอย่างของความเสียสละ ความอดทน และความเมตตาอย่างยิ่ง ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรมต่อผู้ยากไร้ ทรงห่วงใยประชาชนเสมอมา ทั้งในยามปกติและยามเกิดภัยพิบัติ พระราชกรณียกิจทุกประการล้วนสะท้อนให้เห็นถึงพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยความรักและความปรารถนาดีต่อปวงชนชาวไทย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ทั้งในฐานะที่ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีของไทย และในฐานะคู่พระราชหฤทัยแห่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กล่าวคือทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจทั้งหลายไปได้เป็นอันมาก ทั้งยังมีพระราชดำริเริ่มใหม่เพื่อช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศอย่างอเนกอนันต์ ซึ่งโครงการพระราชดำริเหล่านั้นได้ยังประโยชน์มหาศาลแก่ประชาชนสืบมาจนทุกวันนี้
สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ขอถวายความอาลัยและส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
ข้าพระพุทธเจ้า
คณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท โตโยต้านครพิงค์เชียงใหม่ จำกัด และบริษัท โตโยต้าชัวร์ นครพิงค์เชียงใหม่ จำกัด
บริษัทในเครือ และผู้แทนจำหน่าย
รถยนต์โตโยต้า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
