“จัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร” ทางเลือกสำหรับผู้มีความผิดปกติของโครงหน้า : พบหมอ โรงพยาบาลเจ้าพระยา
ให้ความรู้โดย ทพญ.จุฑารัตน์ ฉันท์เรืองวณิชย์
ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมจัดฟัน โรงพยาบาลเจ้าพระยา
การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร เป็นกระบวนการรักษาทางการแพทย์ที่ผสมผสานระหว่างงานทันตกรรมจัดฟันและศัลยกรรมช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล เพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติของตำแหน่งขากรรไกรและฟันที่ไม่สามารถรักษาให้สมบูรณ์ได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว [00:11] การรักษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวยงามและมีการสบฟันที่เหมาะสม แต่ยังส่งผลต่อการปรับสมดุลของโครงสร้างใบหน้าโดยรวมอีกด้วย
ใครบ้างที่อาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ ?
ทันตแพทย์จัดฟันและศัลยแพทย์จะพิจารณาการรักษานี้ในผู้ป่วยที่มีลักษณะจำเพาะของโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกรที่ซับซ้อน ได้แก่
ผู้ที่มีขากรรไกรล่างยื่นเด่นชัด (คางยื่น): ทำให้ฟันล่างคร่อมฟันบนมากผิดปกติ
ผู้ที่มีขากรรไกรล่างสั้นหรือเล็กมาก (คางสั้น): ส่งผลให้ใบหน้าดูสั้นกว่าปกติ
ผู้ป่วยที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่: ซึ่งมักมีความผิดปกติของขากรรไกรร่วมด้วย
ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive Sleep Apnea): ซึ่งมีสาเหตุจากโครงสร้างทางเดินหายใจส่วนต้นตีบแคบ
กระบวนการรักษาต้องอาศัยการวางแผนร่วมกันระหว่างทีมแพทย์ โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้
การตรวจและวางแผน: ศัลยแพทย์และทันตแพทย์จัดฟันจะทำการตรวจอย่างละเอียด ทั้งการเอกซเรย์โครงสร้างใบหน้าและขากรรไกร เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ว่าจำเป็นต้องผ่าตัดที่ขากรรไกรบน-ล่าง หรือส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าร่วมด้วย
การจัดฟันเพื่อเตรียมผ่าตัด: ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ทันตแพทย์จัดฟันจะต้องทำการปรับตำแหน่งฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก่อน เพื่อให้เมื่อผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรแล้ว ฟันจะสามารถสบกันได้พอดี ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี สำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีการเรียงตัวของฟันค่อนข้างดี อาจสามารถทำการผ่าตัดก่อนแล้วจึงจัดฟันภายหลังได้ (Surgery-First Approach)
การผ่าตัดขากรรไกร: เมื่อฟันอยู่ในตำแหน่งที่พร้อม ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรตามแผนที่วางไว้ หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 3-5 วัน
การจัดฟันระยะสุดท้าย: หลังจากขากรรไกรเข้าที่แล้ว ทันตแพทย์จะทำการจัดฟันในรายละเอียดขั้นสุดท้ายเพื่อให้การสบฟันสมบูรณ์ที่สุด
โดยเฉลี่ยแล้ว ระยะเวลาทั้งหมดของการรักษานี้จะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปี การตัดสินใจเข้ารับการรักษาจำเป็นต้องได้รับการปรึกษาและประเมินจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย