🇨🇳 แบงก์ชาติจีนเตือนลั่น! 'ภัยมืด' Stablecoin กำลังมา... หรือนี่คือจุดจบของ "ทองคำ"?
วันนี้มีเรื่องใหญ่จากจีนมาอัปเดต ต้องบอกว่านี่คือสัญญาณชัดๆ ว่า "สงครามเงินตรา" โลกกำลังเปลี่ยนสมรภูมิรบกันแล้วค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เพิ่งออกมาพูดชัดๆ ว่า จีนกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับ Stablecoins (เงินดิจิทัลที่พยายามตรึงมูลค่ากับเงินจริง เช่น ดอลลาร์)
สรุปความกังวลของจีนแบบสั้นๆ คือ เขามองว่า Stablecoin มัน "คุมไม่ได้" ค่ะ มันล้มเหลวทั้งในการตรวจสอบตัวตนลูกค้า (KYC) และการป้องกันการฟอกเงิน (AML) ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ชั้นดีของการโอนเงินผิดกฎหมาย, ฟอกเงิน, หรือแม้แต่สนับสนุนการก่อการร้าย ที่สำคัญ มันกำลังสร้างความเปราะบางให้ระบบการเงินโลก และคุกคาม "อธิปไตยทางการเงิน" ของประเทศอื่นด้วย
ดังนั้น จีนเลยสวนหมัดกลับด้วยการประกาศ "เดินหน้าเต็มสูบ" กับ e-CNY (หยวนดิจิทัล) ของตัวเองแทน นี่คือสิ่งที่เรียกว่า CBDC (Central Bank Digital Currency) ซึ่งต่างจาก Stablecoin ตรงที่มันคือ "เงินดิจิทัลที่รัฐบาลควบคุมได้ 100%" ทุกการเคลื่อนไหวอยู่ในสายตาธนาคารกลาง นี่คือแผนยุทธศาสตร์ใหญ่ของจีนเลยค่ะ
🎯 สัญญาณชัด! โลกกำลังมุ่งหน้าสู่ "สงครามเงินดิจิทัล"
ทีนี้ มาถึงจุดที่ต้องคิดกันหนักๆ ค่ะ การที่ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนออกมาพูดชัดขนาดนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่มันคือการ "ประกาศสงคราม" ชัดๆ
นี่คือการต่อสู้กันของ 2 โมเดลที่แตกต่างกันสุดขั้ว
🇺🇸 โมเดลขั้วสหรัฐฯ (หนุน Stablecoin): สหรัฐฯ กำลังเริ่มวางกฎระเบียบ ซึ่งตีความได้ว่าเป็นการ "สนับสนุน" Stablecoin ที่ผูกกับเงินดอลลาร์ทางอ้อม ทำไมล่ะ? เพราะนี่คือวิธีที่ดอลลาร์จะขยายอิทธิพลไปทั่วโลกดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วผ่านมือเอกชน โดยที่รัฐบาลไม่ต้องทำเอง แถมคนทั้งโลกเข้าถึงได้โดยง่าย
นี่คือสิ่งที่ทำให้จีน "นั่งไม่ติด" เพราะมันคือ "เงินดอลลาร์" ในรูปแบบที่รัฐบาลจีนตรวจสอบหรือสกัดกั้นได้ยากมาก
🇨🇳 โมเดลขั้วจีน (ชู CBDC): จีนเลือกทางตรงกันข้าม คือสร้าง "ระบบปิด" ของตัวเองผ่าน e-CNY ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของและควบคุมเบ็ดเสร็จ เพื่อรักษา "อำนาจอธิปไตย" ทางการเงินของตัวเองไว้ และป้องกันไม่ให้อิทธิพลของดอลลาร์ในโลกดิจิทัลทะลักเข้ามาในประเทศ
การปะทะกันครั้งนี้จึงเป็นเรื่องของ "อำนาจ" ล้วนๆ ค่ะ ว่าใครจะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน "เงิน" ในยุคดิจิทัล
และมันอาจเป็นสัญญาณว่า โลกกำลังหมุนออกจากสินทรัพย์แบบเดิมๆ อย่าง "ทองคำ" ไปสู่ยุคของ "สินทรัพย์ดิจิทัล" เต็มตัวแล้ว
แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ "เกมลับ" ที่ซ้อนอยู่
อย่าลืมนะคะว่า (ตามข้อมูลที่มีการพูดถึงกัน) รัฐบาล สหรัฐฯ คือผู้ถือ Bitcoin (BTC) รายใหญ่ที่สุดในโลก และตามมาด้วย จีนเป็นอันดับสอง
นี่มันคือหมากซ้อนหมากชัดๆ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันอย่างเปิดเผยเรื่อง "สกุลเงินดิจิทัลที่ใช้หมุนเวียน" (Stablecoin vs. CBDC) แต่ในทางลับ ทั้งสองมหาอำนาจกลับกำลัง "สะสม" สินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นเหมือน "ทองคำดิจิทัล" (อย่าง BTC) ไปด้วย
แปลว่าลึกๆ แล้ว ทั้งคู่รู้ดีว่าอนาคตคือดิจิทัลแน่ๆ แต่ศึกที่เห็นตรงหน้า คือการแย่งชิงว่า "เงิน" ที่คนจะใช้จ่ายกันทุกวัน... จะต้องอยู่ในรูปแบบที่ใครคุมเกมนั่นเองค่ะ
ปล. กาวหน่อยนะ แต่ถ้าเป็นจริง คำถามคือ จะมีทองคำเยอะแยะไว้เพื่ออะไร 🤨
เครดิต : Beauty Investor
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
