1 พ.ย. เวลา 04:00 • สุขภาพ

ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ : ไปตรวจตากัน

จริงๆก็คือรักษาตาน่ะเพราะยังต้องฉีดยาประคองอาการไม่ให้แย่ไปกว่านี้
แต่ผมดูแล้วอาการเหมือนแย่ลงเพราะตาซ้ายเริ่มอ่านหนังสือได้ไม่ดีเท่าเดิม โคตรเซ็ง
ทำใจครับเพราะทำอะไรไม่ได้จริงๆ
อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีการรักษาที่ดีขึ้นซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีจริงไหม
ช่างมัน
ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก
วลีที่ว่าโผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
พบหมอตามปกติ
หมอว่าอาการที่บวมดีขึ้น หมอเปลี่ยนสลับยาให้ด้วยเพื่อป้องกันการดื้อยา อาการโดยรวมดีขึ้นนะครับ ส่วนอาการอื่นที่คุณว่ามาหมอคิดว่าเกิดจากการขยายม่านตาบ่อย มุมตาแคบลง อาจต้องเลเซอร์ช่วยซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่นะครับ ปกติ มันจะช่วยป้องกันต้อหินด้วย
หมอว่าไป ผมก็อึ้งไป
นี่กูเจออะไรอีกแล้วหรือวะเนี่ย
สำหรับหมอน่ะเรื่องปกติ แต่กับผมมันอปกตินิ
อย่างว่า เอาเหอะ มาถึงขั้นนี้แล้ว
เฮ้อ...
นี่ถ้าย้อนเวลากลับได้ รู้ว่าต้องใช้ยาตัวไหน อาการผมอาจไม่ถึงขั้นนี้
อันนี้นึกเอาเอง
ความเป็นจริงคือช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดก็เกิด
วลีพวกนี้โผล่ขึ้นมาอีกแล้ว
ผมว่าผมหันมาดูเรื่องที่ต้องการรู้อีกเรื่องดีกว่ามั้ง
ถามนักทัศนมาตรเรื่องแว่นสายตาของผมน่าจะเวิร์คกว่าว่ะ
ช่วงก่อนจะหนีเที่ยว ผมจะใช้แว่นสายตาสลับกันไปมาทั้งตัวหลักและสำรอง ไม่งั้นจะตัดมาสำรองทำไม ราคาแพงนะ
แรกๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่ใช้ไปใช้มาเกิดเรื่องแปลกๆ
แว่นที่ผมใส่เหมือนๆเกิดใช้งานไม่ได้ตามปกติ เวลามองลอดแว่นหรือไม่ใส่แว่นเลยดันเห็นชัดกว่าใส่เมื่อมองในระยะไกลๆ ส่วนในระยะใกล้ยังเดิมๆอยู่
อะไรวะนั่น?
ผมเลยสลับแว่นมาใช้งานเพื่อดูสภาพว่าชะรอยกูต้องตัดแว่นใหม่หรือไรด้วยค่าสายตาในระยะไกลเปลี่ยน?
ยังครับ ยังไม่ตัดสินใจ
จนกระทั่งตอนหนีเที่ยวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
คราวนี้ชัดเจนมาก มองในระยะไกลไม่ใส่แว่นดีกว่าใส่เยอะด้วยเพราะใส่แล้วเห็นภาพซ้อนจนผมหงุดหงิด
แ-งเอ๊ย เอาไงดีวะ?
หรือกูต้องไปตัดแว่นใหม่จริงๆ?
สิ่งแรกที่คิดออกคือไปร้านเพื่อตรวจวัดสายตาก่อนเลยสิมึง จะรออะไร?
ชั่วแวบก่อนเดินออกจากบ้าน สติดึงกลับมาว่าเดี๋ยวก่อนโยม โยมยังไม่ได้ทดสอบอย่างจริงจังเลยนะว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่โยมคิดก็ได้นะเว้ย
อะจิงดิ
เมื่อสติมาปัญญาก็มีมาด้วย พ่วงมาเลย
สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือทดสอบว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้องไหม เอาให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยเดินหน้าอย่างอื่นต่อไป
ถ้าจะใช้เงินแก้ปัญหามันก็ควรให้คุ้มค่าสิ ไม่ใช่ดันทุรังจะใช้แก้ปัญหาแบบตื้นๆ
พยักหน้ารับกับปัญญาที่ว่ามา
...
ผมบอกก่อนว่าผมใส่แว่นสายตาแบบโปรเกรสซีฟที่มีค่าสายตาหลายค่าสำหรับคนขี้เกียจพกแว่นเยอะ ที่ใส่เพราะสายตาเปลี่ยนตามอายุเพราะเดิมๆผมสายตาปกติ ไม่สั้นไม่ยาว
หมอตาที่เคยไปตรวจด้วยบอกว่าคนเราพอ40++(ปัจจุบันเห็นว่า30ปลายแล้ว)ค่าสายตาก็จะเริ่มเปลี่ยน(ที่เร็วขึ้นน่าจะเพราะเรื่องจอต่างๆนี่ล่ะ)
ในคนสายตาปกติ ค่าสายตายาวในระยะใกล้จะเพิ่มขึ้นทำให้มองทุกอย่างในระยะใกล้ไม่ชัดเจน มีภาพซ้อนหรือเบลอ จึงจำเป็นต้องใส่แว่นช่วย สามารถเลือกแว่นสายตาได้ตั้งแต่เลนส์เดี่ยว เลนส์2ชั้น หรือโปรเกรสซีฟ ไม่ก็แว่นตาตามตลาดนัดถ้าใส่ได้
cr. orra-od, 39 eyewear
ส่วนในคนสายตาสั้นยังต้องใช้แว่นสายตาแบบเดิมควบไปกับการใช้แว่นเพื่อมองในระยะไกลเพิ่ม แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่บุคคลด้วยเพราะบางคนก็ไม่จำเป็น อันนี้เคยเห็นมาแล้วหลายคน
...
ผมเลยกลับมาทดสอบสายตากับแว่นดูก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง จำเป็นต้องทำอะไรไหม?
ทดสอบอยู่หลายวันเพื่อความแน่ใจ
ผลที่ได้คือแว่นหลักกลับมาใช้งานได้ตามปกติเมื่อสวมแว่นตามที่เคยเซ็ทไว้ตั้งแต่แรกซึ่งกว่าจะเจอก็ใช้เวลาพอตัว แว่นสำรองเหมือนจะใช้ได้แต่ก็แปลก คล้ายว่าไม่ตรงกับเซ็นเตอร์ของตา ทำให้มีอาการเหลื่อมๆภาพไม่คมชัด
ไหงเป็นงี้วะ?
ผมได้แต่แปลกใจเพราะตอนแรกที่ใช้แว่นสำรองก็ไม่ได้สังเกตเห็นปัญหานี้มาก่อน ใส่แล้วไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก
ลำดับต่อมาที่นึกได้คือเอาแว่นหลักมาใช้ตลอดก่อนดีกว่า แว่นสำรองก็เก็บไว้เฉยๆ ทั้งที่จริงแล้วแว่นสำรองที่ใช้มันใส่กระชับกว่าแว่นหลัก ไม่ลื่น แถมแว่นหลักคือเปลี่ยนสะพานแว่นมาด้วย ใส่แล้วกดดั้งจมูกกว่าเดิมทำให้ใส่ไม่สบายนัก
ตัวแว่นหลักน่ะช่างที่เคยดูอาการให้บอกว่าถ้าไม่ดัดดั้งจมูกก็ควรรอตัดใหม่ไปเลยเพื่อตั้งค่าดั้งจมูกให้ได้ระดับเดิมที่เคยใส่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของช่างแต่ละคนด้วยนะ
เอาน่า เพื่อรักษาค่าสายตาไว้ ผมเลยเอาแว่นหลักมาใช้ก่อน
ใช้ไปบ่นไป
ใช้แล้วก็เริ่มชิน
แล้วก็ใช้แล้วลืมเรื่องนี้ไปสนิทจนกระทั่งได้เวลาหมอนัดครั้งล่าสุดนี้เลยนึกได้
คราวนี้โทรไปถามทางโรงพยาบาลเรื่องวัดสายตา ทางนั้นว่าวัดกับนักทัศนมาตรก็ได้มีค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่ง เลยตกลงใจว่าจะวัดค่าสายตาก่อน ถ้าค่าสายตาเปลี่ยนค่อยไปตัดแว่นเอา และผมยังมีการถามไถ่ร้านเดิมเรื่องโปรไว้ก่อนด้วยกันเหนียว
...
วันที่ไปหาหมอก็ต้องเจอนักทัศนมาตรก่อนเพื่อสแกนจอประสาทตาแล้วคุยไปถึงเรื่องวัดค่าสายตา
น้องคนนี้(คงจะอายุน้อยกว่าผมแน่ๆล่ะ)เอาผลจากการสแกนมาดูแล้วบอกผมว่าผลการสแกนจะเห็นอาการดีขึ้นจากครั้งที่แล้ว
แต่ถ้าคุณจะเอาค่าสายตาตอนนี้ไปทำแว่นผมไม่แนะนำนะครับ ควรจะมาตรวจครั้งหน้าอีกรอบหนึ่งก่อนเพื่อดูผลการสแกน เพราะถ้าผลการตรวจดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าการเอาค่าสายตาตอนที่ตรวจตอนนี้ไปทำแว่นก็จะไม่มีประโยชน์ ใช้ได้แค่ครั้งเดียวก็เปลี่ยนค่าแล้ว
อ้าว งั้นหรือครับ?
น้องเขาพยักหน้ารับแล้วบอกต่อ
ขอย้ำนะครับว่าถ้าเอาค่าสายตาตอนนี้ไปทำแว่นผมไม่แนะนำเลย ควรมาตรวจครั้งหน้าอีกทีครับเพื่อดูผลสแกนอีกครั้งแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะตัดแว่นใหม่หรือไม่จะดีกว่าครับ
ผมพยักหน้ารับแล้วเอาแว่นสายตาทั้ง2ตัวมาให้ดูแล้วบอกว่างั้นน้องช่วยตรวจค่าสายตาของแว่นคู่นี้ได้ไหม ผมมีเรื่องสงสัยหน่อย
แล้วผมก็ร่ายยาวเรื่องที่ผมสงสัยให้ฟังพร้อมบอกถึงสิ่งที่ผมพิสูจน์มาด้วย
น้องเขาพยักหน้ารับแล้วเดินเอาไปตรวจให้ตามผมที่ขอ
นั่งรอสักพักก็เดินกลับมา
แว่นคู่นี้ค่าสายตาตรงกันหมดทุกค่า แต่ผมขอเช็คว่ามันตรงกับเซ็นเตอร์ของตาพี่หรือเปล่านะครับ
ว่าแล้วก็ให้ผมใส่แว่นแล้วตรวจเซ็นเตอร์ของแว่นทั้ง2ตัวพร้อมทั้งจุดระยะลงบนแว่นเพื่ออธิบาย
แว่นตัวนี้(แว่นหลัก)ค่าสายตาถูกต้อง เซ็นเตอร์ก็ถูกต้อง ใช้งานได้ตามปกติครับ ส่วนอีกตัวค่าสายตัวเหมือนกันเป๊ะ แต่เซ็นเตอร์เพี้ยนครับ เพี้ยนตั้งแต่แรกเลยครับไม่ใช่เพิ่งจะเพี้ยน
มิน่าล่ะผมใส่หลังๆมันดูไม่คมชัด ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตอะไรเพราะตอนนั้นดูแล้วก็ชัดนะ
วิธีแก้คือถ้าอยู่ในระยะประกันให้ตัดใหม่ครับ
เลยไปแล้วล่ะน้อง
งั้นก็ปล่อยไปอย่างนี้ก่อนครับ ไว้งวดหน้าสแกนตาแล้วผลเป็นยังไงค่อยมาว่ากันครับ
ขอบคุณมากครับน้อง
แว่นสายตาสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาทางสายตาแค่ฟังดูเรื่องนี้ก็อาจจะบอกว่ามันมีเรื่องเยอะแยะขนาดนี้เลยหรือ ไม่ใช่ว่าตรวจวัดค่าเสร็จแล้วทำแว่นก็เรียบร้อย
ผมก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน มันจะอะไรนักหนากับอีแค่แว่นสายตา ตัดๆฝนๆก็ใส่ได้ ไม่ยาก
พอมาเจอเข้ากับตัวเองช่วงสายตาเริ่มเปลี่ยน ผมลองถามหาข้อมูลทั้งถามเพื่อนฝูงที่อายุไล่เลี่ยกันและเริ่มใส่แว่น ฟังคำแนะนำทั้งร้านทั้งยี่ห้อกรอบแว่นรวมถึงค้นลึกไปเรื่อยๆจากเน็ตก่อนตัดสินใจจะตัดแว่นแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเพื่อให้ตรงเป้าประสงค์การใช้งานและในสภาพใช้งานจริง ต้องยอมรับเลยว่าข้อมูลที่รับรู้มันมากกว่าที่ผมเคยคิดไว้มาก ไม่ใช่แค่ตัดๆฝนๆแล้วเอาไปใช้งาน
แถมลงทุนตัดแว่นทีก็เหงื่อแตกซิก ราคาไม่ใช่น้อยๆนะครับ เล่นเอาเบลอไปพักใหญ่ตอนบิลมา
จะใส่ใช้งานทั้งทีก็ต้องใส่ให้สม่ำเสมอ นอกจากช่วยเรื่องสายตาแล้วยังต้องมองถึงเรื่องความคุ้มค่าของราคาต่อการใช้งานด้วย
ใส่มานานก็ต้องวัดค่าสายตาใหม่เรื่อยๆ แถมผมยังมีเรื่องตาซ้ายเข้ามาประกอบด้วยจึงจำเป็นที่จะต้องถามไถ่ปรึกษาหมอกับนักทัศนมาตรของโรงพยาบาลเพื่อให้ได้ค่าที่เหมาะสม
เหนื่อยใจนะครับ ไม่ใช่เหนื่อยกาย
ยังดีที่ตาขวายังเป็นปกติอยู่ แต่ยังไงก็ต้องระวังไว้ให้ดีด้วย
สู้ๆกับทำใจกันไป
ก่อนหมอจะมาผมเลยเดินเล่นที่ร้านแว่นในโรงพยาบาล สนใจอยู่ตัวหนึ่ง สวยดี
พอจะถามราคา นักทัศนมาตรที่ตรวจให้ผมก็เดินมาพอดี ผมเลยถามถึงกรอบแว่นตัวที่ผมสนใจ
ราคาลดได้เท่านี้นะครับ ไม่แพงแล้วพี่ คุณหมอนำเข้ามาเองราคาเลยไม่แรงเท่าข้างนอก
ผมพยักหน้ารับแล้วขอให้ถ่ายรูปผมใส่แว่นรุ่นนี้แล้วบอกว่าจะไปคุยกับผบ.ก่อน
เขาเป็นคนอนุมัติครับ ไม่ใช่ผม
น้องกับคนขายก็หัวเราะแล้วบอกว่าตามสะดวกพี่ เข้าใจครับ
แล้วเราก็หัวเราะกันครืนอีกรอบ
สบายใจกันไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา