หุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติ “All Time High”-หุ้นไทยยังผันผวน
หุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติ “All Time High” หนุนด้วยหุ้นเทคฯ-คาดเฟดลดดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังผันผวนแม้ดัชนีแตะจุดสูงสุดใหม่
หุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติ “All Time High” หนุนด้วยหุ้นเทคฯ-คาดเฟดลดดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังผันผวนแม้ดัชนีแตะจุดสูงสุดใหม่
ขณะที่ NVIDIA (NVDA) ประกาศความร่วมมือด้าน เทคโนโลยีควอนตัมและ AI ซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในหุ้นเทคฯ ให้ร้อนแรงต่อเนื่อง
อีกปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดคือ ความคาดหวังว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. นี้ พร้อมแนวโน้ม “ยุติการลดขนาดงบดุล (QT)” ภายในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุม APEC ที่คาดว่าจะมีการพบกันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง ซึ่งอาจช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ผลประกอบการสหรัฐฯ แข็งแกร่ง - Visa นำทีมโตต่อเนื่อง
ผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทในดัชนี S&P500 ที่รายงานแล้ว 57 บริษัท เติบโตเฉลี่ย 13% YoY ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีต
โดยเฉพาะ Visa (NYSE:V) รายงานรายได้ไตรมาส 4 ปีงบ 2568 เพิ่มขึ้น 12% YoY แตะ 10.72 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 2.98 ดอลลาร์ สูงกว่าคาด พร้อมประกาศเพิ่มเงินปันผลเป็น 0.67 ดอลลาร์/หุ้น สะท้อนความมั่นใจในกระแสเงินสดและแนวโน้มธุรกิจ
นักวิเคราะห์มองว่า Visa ยังคงได้แรงหนุนต่อเนื่องหาก FED ลดดอกเบี้ยในคืนนี้ พร้อมแนะนำหุ้นเด่น VISA80 และ AIA23
ปัจจัยในประเทศหนุนเศรษฐกิจ — “คนละครึ่ง พลัส” เริ่มใช้วันนี้
ฝั่งไทยยังมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งการลงนาม MOU ความร่วมมือด้านแร่ Rare Earth ไทย–สหรัฐฯ ซึ่งเปิดโอกาสให้ไทยเจรจาลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จากปัจจุบัน 19%
รวมถึงโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่เริ่มใช้วันนี้ (29 ต.ค.) ถึง 31 ธ.ค. 2568 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคช่วงปลายปี
โดย 5 เฟสที่ผ่านมาใช้งบรวมกว่า 224,000 ล้านบาท กระตุ้น GDP ราว 1.15% ส่วนรอบนี้ใช้งบประมาณ 44,000 ล้านบาท คาดช่วยหนุน GDP เพิ่มอีก 0.2–0.3% และเป็นแรงพยุงไม่ให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะ Technical Recession
ตลาดหุ้นไทยผันผวน หุ้นรายตัวอ่อนแรง
แม้ดัชนี SET เดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบเดือน แต่พบว่ากว่า 41% ของหุ้นในดัชนีทำจุดต่ำสุดใหม่ ในช่วงเดียวกัน เช่นเดียวกับดัชนี SET100 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 3% แต่มีหุ้นถึง 74 ตัว ปรับลดเฉลี่ย -3.7%
นักลงทุนยังคงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโตช้า ประเด็น Scammer ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง และกรณี Insider Trading ที่สร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่น
กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้น “ทยอยสะสมหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว” ในช่วงที่เหลือของปี ได้แก่
SCGP, WHA, CPAXT, GULF, BPP, และ BLA
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 : https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube : www.youtube.com/@PPTVHD36
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
