30 ต.ค. เวลา 02:36 • ธุรกิจ

Export Shift: ปรับทิศการค้าไทยสู่ “ตลาดอินเดีย”

🌪️ในวันที่ตลาดหลักอย่าง สหรัฐฯ เริ่มกลายเป็นความเสี่ยง การกระจายตลาดส่งออกจึงเป็นเรื่องที่ไทยไม่อาจรอได้อีกต่อไป
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ กลายเป็นตลาดที่ไทยพึ่งพามากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 10% เพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 2568
ขณะที่ จีน คงที่อยู่ราว 11–13%
ญี่ปุ่น ลดลงจากเกือบ 10% เหลือเพียง 7%
และแม้แต่ อาเซียน ที่เคยพุ่งถึง 27% ก็ลดลงเหลือเพียง 21% เท่านั้น
สะท้อนให้เห็นว่า ไทยจำเป็นต้องมองหาตลาดใหม่ที่มั่นคงและเติบโตได้มากกว่าเดิม 💥
 
📈 อินเดีย ดาวรุ่งที่โตเร็วจนต้องจับตา
หากพูดถึงตลาดเกิดใหม่ที่กำลังมาแรง "อินเดีย" คือชื่อที่ไม่อาจมองข้าม
ปัจจุบันอินเดียก้าวขึ้นมาเป็น ตลาดส่งออกอันดับ 4 ของไทย ด้วยสัดส่วนประมาณ 5% จากที่เมื่อ 10 ปีก่อนยังไม่ติดแม้แต่ Top 10 และมีเพียง 2% เท่านั้น
ที่สำคัญไทยยังเกินดุลการค้ากับอินเดียอย่างต่อเนื่อง และในปี 2568 เพียงแค่ 9 เดือนแรก ไทยเกินดุลถึง 7.4 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าสถิติทั้งปี 2567 ที่เคยสูงสุด (6.0 พันล้านดอลลาร์) ขณะที่มูลค่าการส่งออกไปอินเดียก็เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน
 
💎 ปัจจุบันสินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปอินเดีย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ ไขมันและน้ำมัน เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกล เหล็ก ซึ่งเป็นสินค้าที่อินเดียลดภาษีนำเข้าให้ไทย ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน
💍แต่ดาวเด่นที่สุดในปีนี้ คือ อัญมณีและเครื่องประดับ โดยเฉพาะ แพลทินัม ที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้ช่องโหว่ทางภาษีที่เอื้อให้ผู้นำเข้าหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าทองคำ (สินค้าที่มีแพลทินัมอย่างน้อย 2% ให้จัดเป็นแพลทินัมได้)
🥭🐟 นอกจากนี้ สินค้าเกษตรอย่าง ลำไย ทุเรียน มังคุด และอาหารทะเล เช่น ปลาซาร์ดีน ก็เป็นหมวดที่ไทยมีศักยภาพ และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีได้ด้วย
 
🛣️ ทำไมตลาดนี้ยังเปิดไม่สุด
แม้อินเดียมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังเป็นตลาดที่ท้าทาย เพราะ
🔸กำแพงภาษีที่สูง และกฎระเบียบซับซ้อน
🔸ปัญหาด้านโลจิสติกส์ ที่ยังไม่คล่องตัวเท่าอาเซียน จีน หรือญี่ปุ่น
🔸ผู้ผลิตท้องถิ่นมีจำนวนมาก สินค้าหลากหลาย และราคาถูก
🔸วัฒนธรรม รสนิยม ความเชื่อ รูปแบบการบริโภค ที่มีความเฉพาะตัว ต้องใช้ความเข้าใจเชิงลึก
 
🌟 โอกาสที่รออยู่ใหญ่เกินจะมองข้าม
แม้มีอุปสรรค แต่ศักยภาพของอินเดียยังมหาศาล
✔️ตลาดใหญ่ กำลังซื้อสูง ด้วยประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน โดยเฉพาะชนชั้นกลางที่ขยายตัวเร็ว
✔️โครงการทางหลวง India–Myanmar–Thailand Trilateral Highway: IMT เป็นโครงการเชื่อมโยงทางบกระหว่างสามประเทศ หากแล้วเสร็จจะสามารถเวลาขนส่งลงกว่าครึ่ง และเป็นประตูสู่ตลาดอื่นในภูมิภาค เช่น ศรีลังกา มัลดีฟส์ และบังคลาเทศ
✔️อินเดียเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นโอกาสของไทยในการส่งออก สินค้าจำพวก แบตเตอรี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางพารา
✔️อินเดียมีนโยบายลดการพึ่งพาจีน หันไปพึ่งพาประเทศอาเซียนมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีของไทย
 
💡บทสรุปที่ไทยต้องคิดให้ไกลกว่าเดิม
การพึ่งตลาดเดิมเพียงไม่กี่ประเทศคือ ความเสี่ยงที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า
การมองหาโอกาสในตลาดใหม่อย่างอินเดีย ไม่ได้เป็นเพียงการ “กระจายความเสี่ยง” แต่คือการสร้าง เส้นทางการเติบโตครั้งใหม่ ที่มีศักยภาพไม่แพ้ตลาดใหญ่ใดในโลก
หากไทยปรับกลยุทธ์ เข้าถึงผู้บริโภค และใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีอย่างเต็มที่
อินเดียอาจกลายเป็น ขุมทองการส่งออกแห่งอนาคต ที่จะพลิกสมการการค้าไทยไปอย่างสิ้นเชิง 🇹🇭🤝🇮🇳✨
เรื่องและภาพ: กุสุมา ธะนะวงศ์ Economist, Bnomics
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economist, Bnomics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
 
#การส่งออก #ตลาดใหม่ #อินเดีย #กระจายการส่งออก #ธนาคารกรุงเทพ #Bnomics #BBL #BangkokBank
โฆษณา