เมื่อวาน เวลา 04:36 • บันเทิง

อย่าไล่ผม

ในโรงพยาบาล...
คนที่เดินอยู่ตอนตีสาม
อาจไม่ใช่พยาบาลทุกคนก็ได้
เรื่องจริงจากเวรดึกของหมอคนหนึ่ง
ที่ทำให้เขา...ไม่กล้าเข้าไอซียูอีกเลย
ทุกชื่อในเรื่องจะขอใช้เป็นชื่อสมมุติทั้งหมด
ผมชื่อหมอเต้ครับ
แพทย์ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ
ที่นี่เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดกลาง ๆ
แต่รับผู้ป่วยเยอะจนแทบจะล้นทุกวัน
ผมอยู่เวรดึกเป็นประจำ
จะเรียกว่าชินกับกลิ่นยา กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ
และเสียงเครื่องวัดชีพจรที่ดัง *ปี๊บ...ปี๊บ...* อยู่ตลอดเวลาก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้น...
มีบางอย่างที่ผมไม่เคยชินเลย
คือ “ความเงียบในคืนดึกของโรงพยาบาล”
มันเงียบ...
แต่ไม่ว่างเปล่า
บางคืน...
เสียงฝีเท้าที่ได้ยิน มันไม่ใช่ของพยาบาล
เสียงลมหายใจเบา ๆ ที่ดังข้างเตียงผู้ป่วย
ก็ไม่ใช่ของคนที่ยังมีชีวิต…
คืนนั้นผมเข้าเวรในห้องฉุกเฉินตามปกติ
เวลาประมาณตีสอง
มีเคสหนึ่งถูกส่งเข้ามา — ผู้ชายวัยกลางคนประสบอุบัติเหตุรถชน
สภาพสาหัสมากครับ
หน้าอกยุบ หัวแตก เลือดออกเต็มตัว
ทีมผ่าตัดพยายามปั๊มหัวใจอยู่นาน
แต่สุดท้าย...ก็ไม่รอด
ผมเป็นคนเซ็นรับรองการเสียชีวิตของเขาเอง
ตามขั้นตอนต้องรอญาติมารับศพตอนเช้า
ศพของเขาถูกส่งไปยัง “ห้องเย็น”
ซึ่งอยู่ชั้นล่างสุดของอาคาร
ผมจำได้ดี เพราะเป็นคนเซ็นใบส่งศพเอง
หลังจากนั้นไม่นาน
ผมก็ขึ้นไปชั้น 7 เพื่อดูคนไข้ไอซียู
ซึ่งเป็นชั้นที่มักมีเรื่องเล่าหลอน ๆ มากที่สุดในโรงพยาบาลนี้
ตอนนั้นเป็นเวลาตีสามกว่า
ไฟในชั้นเปิดสลัว ๆ
เหลือเพียงหลอดไฟตามทางเดิน
ผมเดินตรวจตามเตียง
ทุกอย่างก็ปกติดี...
จนกระทั่ง...
เสียง “ลากเท้า” ดังมาจากทางเดินด้านหลัง
**...แกร่ก...แกร่ก...แกร่ก...**
ผมคิดว่าเป็นญาติคนไข้
เลยไม่ได้ใส่ใจนัก
จนเงานั้น...เดินทะลุผนังกระจกเข้ามาในห้องไอซียู
เงาร่างนั้นเป็นผู้ชาย
เสื้อเปื้อนเลือด หน้าผากแตก มีรอยแผลกลางหน้าอก
ผมจำได้ทันที
นั่นคือ “คนไข้ที่เสียชีวิตไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน”
เขาเดินเข้ามาช้า ๆ
จนมาหยุดที่ปลายเตียงของหญิงชราคนหนึ่ง
แล้วก้มแตะหน้าอกของเธอเบา ๆ
เครื่องวัดชีพจรดัง **ปี๊บ------**
ลากยาวเป็นเส้นตรงทันที
ผมวิ่งเข้าไป
แต่สายเกินไปแล้ว...
หัวใจของเธอหยุดเต้น
หลังจาก CPR เธอก็ไม่ฟื้น
และพยาบาลที่อยู่ด้วยกัน...
พูดด้วยเสียงสั่นว่า
“หมอ...คนเมื่อกี้...ใช่คนที่ตายไปตอนต้นดึกใช่มั้ยคะ?”
ผมไม่กล้าตอบ
เพราะมันคือเรื่องจริงที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยในโรงพยาบาลแบบนี้
หลังจากนั้นผมพยายามหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์
อาจเป็นอาการหลอนจากความเครียด
หรือเห็นภาพซ้อนจากแสงไฟ
แต่ทุกอย่างก็พังลง
เมื่อผมต้องอยู่เวรอีกคืนในวันต่อมา
คืนนั้น...
มีผู้ป่วยหญิงวัยสี่สิบถูกส่งเข้ามา
หมดสติระหว่างทาง
ชีพจรเบา แต่ยังมีลมหายใจ
ผมสั่งย้ายขึ้นไอซียูทันที
และตอนเปลผู้ป่วยเข็นเข้าลิฟต์
ผมเห็น “เขา” อีกครั้ง...
ในเงากระจกข้างลิฟต์
ชายเสื้อเปื้อนเลือดคนนั้น
กำลังยิ้มให้ผม
พอขึ้นไปถึงไอซียู
ผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่บนเตียงเบอร์ 3
เตียงข้าง ๆ ของเธอ...
คือเตียงของหญิงชราที่เพิ่งตายเมื่อคืน
ผมรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
พอเข้าไปตรวจชีพจร
ผมสังเกตเห็นบนข้อมือของเธอ
มี “รอยนิ้วมือเปื้อนเลือด”
รอยชัดเจนมาก
เหมือนมีใครไปจับไว้แรง ๆ ก่อนตาย
ผมถามพยาบาล
เธอส่ายหน้า — ยังไม่มีใครแตะตัวเลย
คืนนั้นผมหลีกเลี่ยงไม่อยู่ใกล้เตียงนั้น
แต่ตอนเดินตรวจรอบวอร์ด
ผมได้ยินเสียงกระซิบข้างหู
“ช่วยฉัน...ด้วย...”
เสียงนั้นใกล้มาก
จนรู้สึกถึงลมหายใจที่ข้างแก้ม
พอหันไป...กลับไม่มีใครอยู่เลย
คืนที่สาม
ผมต้องอยู่เวรอีก
เวลาตีหนึ่ง
ผู้ป่วยหญิงเตียงเบอร์ 3 เกิดอาการชักเกร็ง
ผมรีบวิ่งไปช่วย
พอถึงเตียง เธอเปิดตา
พูดประโยคหนึ่งออกมาด้วยเสียงผู้ชาย
“หมอ...อย่าไล่ผม...ผมแค่อยากอยู่ต่ออีกหน่อย...”
ผมแทบหยุดหายใจ
และไม่กี่วินาทีต่อมา
เครื่องวัดชีพจรของเธอก็ลากยาวเป็นเส้นตรง
หญิงคนนั้น...เสียชีวิต
เสียงในหัวผมดังสะท้อน
เสียงของเขา...คนที่ตายคืนแรก...
ผมเริ่มค้นประวัติของเขา
ชื่อ “วิชัย สุขสวัสดิ์”
อาชีพขับรถบรรทุก
เคยนอนไอซียูเตียงเบอร์ 3 มาก่อน
และทุกคนที่นอนเตียงนั้น
...
ก็ตายหมด
ในเวลาไล่เลี่ยกัน
ผมลงไปดูห้องไอซียูตอนกลางวัน
ตรงเตียงเบอร์ 3 มีรอยคล้ำ ๆ เหมือนรอยเลือดเก่า
แม่บ้านที่ทำความสะอาดพูดเบา ๆ ว่า
“อย่าเหยียบตรงนั้นเลยค่ะหมอ”
“เขายังอยู่ตรงนั้น...”
คืนนั้นผมอยู่เฝ้าห้องคนเดียว
เวลาตีสาม
อุณหภูมิในห้องลดลง
แสงไฟกระพริบ
ผมเห็นเขาอีกครั้ง...
นั่งอยู่บนเตียงเบอร์ 3
ผมถามออกไปด้วยเสียงสั่น
“คุณวิชัย...คุณอยากให้ผมช่วยอะไร...”
เขาไม่ตอบ
แต่ชี้ไปที่ “ลิ้นชักใต้เตียง”
ข้างในมีแฟ้มเก่า
เขียนว่า “วิชัย สุขสวัสดิ์”
พร้อมโน้ตของหมออีกคนว่า
“ปอดทะลุ ต้องผ่าด่วน”
“ญาติปฏิเสธการรักษา เพราะไม่มีเงิน”
ผมเงยหน้าขึ้น...
เขาหายไปแล้ว
เหลือแค่กลิ่นเลือดคาว ๆ ลอยอยู่ทั่วห้อง
วันรุ่งขึ้น
ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้หัวหน้าแพทย์ฟัง
พร้อมแฟ้มที่เจอ
หัวหน้าเงียบไปนาน ก่อนจะพูดว่า
“หมอ...อย่าพูดเรื่องนี้กับใครอีก”
“ญาติของเขาเคยฟ้องโรงพยาบาล แต่แพ้คดี”
เพราะไม่มีใครรับผิดชอบ
คืนนั้นผมตัดสินใจลาออกจากเวรดึก
และไม่เคยเข้าไอซียูชั้น 7 อีกเลย
แต่ทุกครั้งที่เดินผ่านอาคาร
ผมยังได้ยินเสียงลากเท้าเบา ๆ
**...แกร่ก...แกร่ก...แกร่ก...**
ดังขึ้นจากด้านล่าง —
ตรงตำแหน่ง “ห้องเย็นเก็บศพ” พอดี
และทุกครั้งที่หันไป
ผมจะเห็นเงาผู้ชายเสื้อเปื้อนเลือด...
ยืนอยู่ตรงนั้น
เขายังคงเฝ้ารอ
รอวันที่ใครสักคน...
จะช่วยเขาจาก “ความตายที่เขาไม่ได้เลือก”
...จบ…
เรื่องโดย ลานฝึกผี
ภาพโดย Copilot
วีดีโอโดย Meta Ai8k
โฆษณา