Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฐานเศรษฐกิจ_Thansettakij
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
วันนี้ เวลา 10:00 • ข่าวรอบโลก
ย้อนรอย 6 ปีหลังโอซากา ทรัมป์–สี จิ้นผิง หวนคืนโต๊ะเจรจาในเอเปค 2025
●
โดนัลด์ ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง เตรียมกลับมาพบกันอีกครั้งบนเวทีเอเปค 2025 นับเป็นการหวนคืนสู่โต๊ะเจรจาในรอบ 6 ปีหลังการประชุมที่โอซากา
●
การพบกันครั้งก่อนที่โอซากาในปี 2019 เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามการค้า และส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายตกลงพักรบชั่วคราวเพื่อกลับมาเจรจาอีกครั้ง
●
ผลจากการเจรจาครั้งนั้นคือสหรัฐฯ ชะลอการขึ้นภาษีและผ่อนปรนข้อจำกัดต่อหัวเหว่ย ขณะที่จีนตกลงจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม
●
การกลับมาพบกันครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นในขณะที่การแข่งขันทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสองมหาอำนาจทวีความเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
6 ปีผ่านไปหลังการพบกันที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น โลกกลับมาจับตาการเผชิญหน้าครั้งใหม่ระหว่างสองผู้นำมหาอำนาจ “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “สี จิ้นผิง” ในเวทีเอเปค 2025 การกลับมานั่งโต๊ะเดียวกันอีกครั้งไม่เพียงสะท้อนการฟื้นคืนบทสนทนาทางการทูตระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง แต่ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การแข่งขันทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ทวีความเข้มข้นกว่าครั้งใด
การพบปะครั้งล่าสุดระหว่างทรัมป์ และสี จิ้นผิง เกิดขึ้นระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรกของทรัมป์ ในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G20 ที่เมืองโอซากา เมื่อปี 2019
การประชุมครั้งนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งทั้งสองประเทศต่างเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของอีกฝ่าย
หลังการประชุม สหรัฐฯ และจีนตกลงที่จะเริ่มเจรจาการค้าอีกครั้ง หลังจากทรัมป์เสนอผ่อนปรน โดยไม่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม และผ่อนคลายข้อจำกัดต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีนอย่างหัวเหว่ย เพื่อบรรเทาความตึงเครียดกับปักกิ่ง
ในแถลงการณ์ฉบับยาวเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสองฝ่าย กระทรวงการต่างประเทศของจีนอ้างคำกล่าวของสีที่บอกกับทรัมป์ว่า เขาหวังว่าสหรัฐฯ จะปฏิบัติต่อบริษัทจีนอย่างเป็นธรรม
สหรัฐฯ และจีนตกลงจะกลับมาเจรจาทางการค้าอีกครั้ง หลังจากทรัมป์เสนอเงื่อนไขผ่อนปรน ไม่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม และผ่อนคลายข้อจำกัดต่อบริษัทเทคโนโลยีหัวเหว่ย เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดกับปักกิ่ง
ขณะเดียวกัน จีนตกลงจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม (โดยยังไม่ระบุรายละเอียด) และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง โดยไม่มีการกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลง ทั้งนี้ สองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกยังคงมีความเห็นต่างในประเด็นสำคัญหลายด้าน การเจรจารอบใหญ่ครั้งสุดท้ายล้มเหลวในเดือนพฤษภาคม
ตลาดการเงินที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ดำเนินมากว่าหนึ่งปี
มีแนวโน้มตอบรับเชิงบวกต่อการพักรบครั้งนั้น ทั้งนี้ ภาษีศุลกากรที่ทั้งสองฝ่ายเก็บต่อกันยังคงมีผลบังคับใช้ระหว่างที่การเจรจาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
เรากลับมาอยู่บนเส้นทางเดิมแล้ว
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุม 80 นาที กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 20 ประเทศ (G20) ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
เราจะชะลอการเก็บภาษี และพวกเขาจะซื้อสินค้าเกษตร
ทรัมป์กล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อ เเละต่อมาไม่กี่ชั่วโมง ทรัมป์ทวีตว่า การพบปะกับสีนั้น ดีกว่าที่คาดไว้มาก คุณภาพของข้อตกลงสำคัญกว่าความเร็ว
ผมไม่รีบร้อน แต่ทุกอย่างดูดีมาก
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์เคยขู่ว่าจะเก็บภาษีใหม่ต่อสินค้าจีนเพิ่มเติมมูล่าประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าบริโภคยอดนิยม หากการประชุมที่ญี่ปุ่นไม่ประสบผลสำเร็จ มาตรการดังกล่าวจะทำให้สินค้านำเข้าจากจีนเกือบทั้งหมดต้องเสียภาษี
เสียงตอบรับจากผู้ผลิตชิป
ทรัมป์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะพิจารณาภายในไม่กี่วันข้างหน้าว่าจะถอดหัวเหว่ยออกจากรายชื่อบริษัทที่ถูกห้ามซื้อส่วนประกอบและเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลหรือไม่
หวัง เสี่ยวหลง ทูตพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศจีนประจำ G20 กล่าวว่า จีนแสดงท่าทีต้อนรับต่อท่าทีดังกล่าว หากสหรัฐฯ ทำตามที่พูดไว้ แน่นอนว่ายินดีต้อนรับ
จอห์น นอยเฟอร์ ประธานสมาคมเซมิคอนดักเตอร์แห่งสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ผู้ผลิตไมโครชิปของสหรัฐฯ ก็ยินดีเช่นกัน
เรารู้สึกมีกำลังใจที่การเจรจากลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง และภาษีเพิ่มเติมถูกชะลอไว้ เราหวังว่าจะได้รับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีเกี่ยวกับหัวเหว่ย
อย่างไรก็ตาม มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ ทวีตว่า การยกเลิกมาตรการลงโทษหัวเหว่ยจะเป็นความผิดพลาดร้ายแรง และหากเกิดขึ้นจริง รัฐสภาจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อรื้อฟื้นข้อจำกัดดังกล่าวกลับมาอีกครั้ง
ขณะนั้นหัวเหว่ยตกเป็นเป้าการตรวจสอบเข้มงวดมากว่าหนึ่งปี โดยสหรัฐฯ กล่าวหาว่าช่องทางลับในเราเตอร์และอุปกรณ์อื่นของบริษัทอาจเปิดโอกาสให้จีนสอดแนมการสื่อสารของสหรัฐฯ บริษัทปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ล่าสุด
ปัญหาของหัวเหว่ยส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิปโดยรวม โดยบริษัทบรอดคอมออกคำเตือนถึงภาวะชะลอตัวในความต้องการและปรับลดคาดการณ์รายได้
ทรัมป์กล่าวว่า เขาและสีไม่ได้หารือเกี่ยวกับกระบวนการส่งตัว “เมิ่ง หว่านโจว” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเหว่ย ซึ่งถูกจับกุมในแคนาดาเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในข้อหาหลอกลวงธนาคารระหว่างประเทศเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหัวเหว่ยกับบริษัทในอิหร่าน
ตามจดหมายเปิดผนึกฉบับร่างที่รอยเตอร์ตรวจสอบ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียหลายสิบคน รวมถึงอดีตนักการทูตและเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ทรัมป์ทบทวนนโยบายที่มองว่าจีนเป็นศัตรู โดยเตือนว่าวิธีการเช่นนั้นอาจเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก
ขณะนั้น นักลงทุน ภาคธุรกิจ และผู้นำทางการเงินเตือนมานานหลายเดือนว่า สงครามภาษีตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจทำลายห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและผลักเศรษฐกิจโลกให้ตกอยู่ในภาวะถดถอย
ด้าน คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายของ G20 ลดภาษีและอุปสรรคทางการค้าอื่น ๆ โดยเตือนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังสะดุดจากความขัดแย้งทางการค้า
แม้นักวิเคราะห์จะยินดีกับการกลับมาเจรจาระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง แต่หลายคนตั้งคำถามว่าสองฝ่ายจะสามารถสร้างแรงขับเคลื่อนเพียงพอเพื่อข้ามความแตกต่างและบรรลุข้อตกลงที่ยั่งยืนได้หรือไม่เนื่องจาก สหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทอเมริกันมานานหลายปี บังคับให้บริษัทสหรัฐฯ ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นเงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจในจีน และอุดหนุนรัฐวิสาหกิจเพื่อครองอุตสาหกรรมหลัก ด้านจีนระบุว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายเรียกร้องเกินเหตุและต้องยอมผ่อนปรนเช่นกัน
การเจรจาระหว่างสองประเทศชะงักงันเมื่อเดือนพฤษภาคม หลังจากสหรัฐกล่าวหาว่าจีนว่าไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาการปฏิรูปที่ให้ไว้ตลอดหลายเดือนของการเจรจา ทรัมป์จึงปรับขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25% ต่อสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในรายการต่าง ๆ
thansettakij.com
ย้อนรอย 6 ปีหลังโอซากา ทรัมป์–สี จิ้นผิง หวนคืนโต๊ะเจรจาในเอเปค 2025
ย้อนรอยครั้งสุดท้ายที่ ทรัมป์และสี จิ้นผิง พบกันคือ G20 โอซากา ปี 2019 ท่ามกลางสงครามการค้าโลก ก่อนจะกลับมานั่งโต๊ะเดียวกันอีกครั้งในเอเปค 2025
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย