4 พ.ย. เวลา 06:00 • ข่าวรอบโลก

เปิดใจครั้งแรก ผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียวจากเหตุโศกนาฏกรรม “แอร์อินเดีย”

ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์เครื่องบินแอร์อินเดียตกเผย เขาเหมือนคนโชคดีที่สุดซึ่งกำลังเผชิญกับความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เชื่อหลายคนคงจำกันได้สำหรับเหตุการณ์เครื่องบินสายการบินแอร์อินเดีย (Air India) เที่ยวบินที่ AI171 ซึ่งกำลังมุ่งหน้าจากอาห์เมดาบัดไปยังลอนดอน ประสบเหตุตกหลังขึ้นบินไม่กี่นาทีเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2025 เป็นเหตุผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิต 241 ราย และมีผู้รอดชีวิตเพียง 1 คน
“วิสวัสกุมาร์ ราเมช” วัย 39 ปี คือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในขณะที่เขาเป็น “คนที่โชคดีที่สุด” ผลกระทบที่ตามมาทำให้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ซากเครื่องบินสายการบินแอร์อินเดีย
หลังจากผ่านไปนานเกือบ 5 เดือน วิสวัสกุมาร์เปิดใจเป็นครั้งแรกกับสำนักข่าวบีบีซีว่า การรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็น “ปาฏิหาริย์” แต่เขาต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป เนื่องจาก อาเจย์ น้องชายของเขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ที่นั่งบนเครื่องบิน ได้เสียชีวิต
ที่ปรึกษาของเขากล่าวว่า หลังจากกลับมาถึงบ้านในเมืองเลสเตอร์ วิสวัสกุมาร์ต้องเผชิญกับภาวะผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD) และไม่สามารถพูดคุยกับภรรยาและลูกชายวัย 4 ขวบได้เลย
วิสวัสกุมาร์กล่าวด้วยความรู้สึกสะเทือนใจว่า “ผมเป็นเพียงผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่อยากเชื่อ มันคือปาฏิหาริย์ ผมก็สูญเสียน้องชายไปเช่นกัน น้องชายคือกระดูกสันหลังของผม ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาคอยสนับสนุนผมมาตลอด”
เขาเล่าถึงผลกระทบอันเลวร้ายที่เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวของเขา “ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว ผมนั่งอยู่ในห้องคนเดียว ไม่ได้พูดคุยกับภรรยาและลูกชายของผมเลย ผมแค่ชอบอยู่บ้านคนเดียว”
นี่เป็นครั้งแรกที่วิสวัสกุมาร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนับตั้งแต่เขากลับมาถึงสหราชอาณาจักร
รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับอุบัติเหตุเครื่องบินตก ซึ่งเผยแพร่โดยสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยานของอินเดียในเดือน ก.ค. ระบุว่า การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ถูกตัดเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากเครื่องขึ้นบิน โดยการสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่สายการบินกล่าวว่า การดูแลวิสวัสกุมาร์และครอบครัวทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรม “ยังคงเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุด”
ก่อนการสัมภาษณ์ บีบีซีได้หารืออย่างละเอียดกับตัวของวิสวัสกุมาร์เอง รวมถึงที่ปรึกษา
เมื่อถูกถามถึงความทรงจำในวันที่เกิดอุบัติเหตุ เขากล่าวว่า “จนถึงตอนนี้ผมยังพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้เลย”
วิสวัสกุมาร์กล่าวว่า เขารู้สึกเจ็บปวดเกินกว่าจะนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น และอธิบายถึงความทุกข์ทรมานที่เขาและครอบครัวกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ “สำหรับผม หลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น มันยากมาก ทั้งทางร่างกาย จิตใจ รวมถึงครอบครัวของผมด้วย แม่ของผมก็เป็นอย่างนั้นมา 4 เดือนแล้ว เธอนั่งอยู่หน้าประตูทุกวัน ไม่พูดอะไรเลย ผมไม่ได้คุยกับใครเลย ผมไม่ชอบคุยกับใคร ผมพูดอะไรมากไม่ได้ ผมคิดอยู่ทั้งคืน ผมกำลังทุกข์ทรมานทางจิตใจ ทุกวันเป็นวันที่เจ็บปวดสำหรับทุกคนในครอบครัว”
วิสวัสกุมาร์ยังพูดถึงอาการบาดเจ็บทางร่างกายที่เขาได้รับจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ซึ่งทำให้เขาหลุดออกจากที่นั่งหมายเลข 11A โดยมีอาการปวดที่ขา ไหล่ เข่า และหลัง และไม่สามารถทำงานหรือขับรถได้เลยนับตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรม
“เมื่อผมเดิน มันไม่ใช่เดินอย่างถูกต้อง มันต้องช้า ๆ ค่อย ๆ ภรรยาของผมต้องเข้ามาช่วย” เขากล่าวเสริม
ที่ปรึกษาของเขากล่าวว่า วิสวัสกุมาร์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะ PTSD ขณะที่เขากำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลในอินเดีย แต่ยังไม่ได้รับการรักษาพยาบาลใด ๆ เลยนับตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน
ที่ปรึกษาอธิบายว่า เขารู้สึกหลงทางและแตกสลาย ต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกนาน และเรียกร้องให้มีการประชุมกับผู้บริหารของแอร์อินเดีย โดยอ้างว่าเขาได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ดีจากสายการบินนับตั้งแต่เกิดเหตุ พวกเขากำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งทางจิตใจ ร่างกาย และการเงิน มันทำให้ครอบครัวของเขาเสียใจมาก”
ที่ปรึกษาเสริมว่า “ใครก็ตามที่รับผิดชอบในระดับสูงสุดควรลงพื้นที่เพื่อพบปะกับเหยื่อของเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เข้าใจความต้องการของพวกเขา และรับฟัง”
แอร์อินเดียได้เสนอเงินชดเชยชั่วคราวให้แก่วิสวัสกุมาร์เป็นจำนวน 21,500 ปอนด์ (ราว 915,000 บาท) ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ที่ปรึกษาของเขากล่าวว่า เงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการเร่งด่วนของเขา
ที่ปรึกษาของเขากล่าวว่า ธุรกิจประมงของครอบครัวในเมืองดิอู ประเทศอินเดีย ซึ่งวิสวัสกุมาร์บริหารร่วมกับน้องชายก่อนเกิดเหตุเครื่องบินตก ได้ล้มละลายไปแล้ว
ไซเกอร์ โฆษกของครอบครัว กล่าวว่า พวกเขาได้เชิญแอร์อินเดียมาประชุม 3 ครั้ง และทั้ง 3 ครั้งก็ถูกเพิกเฉยหรือปฏิเสธ
เขากล่าวว่า การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นวิธีการของทีมช่วยเหลือวิสวัสกุมาร์ในการออกคำอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นครั้งที่ 4
ไซเกอร์กล่าวเสริมว่า “เป็นเรื่องน่าตกใจที่เราต้องมานั่งอยู่ที่นี่ในวันนี้และทำให้วิสวัสกุมาร์ต้องเจอกับเรื่องนี้ คนที่ควรจะมานั่งอยู่ที่นี่ในวันนี้คือผู้บริหารของแอร์อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการพยายามแก้ไขสถานการณ์ โปรดมานั่งกับเรา เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันฝ่าฟันเรื่องนี้ไป และพยายามบรรเทาความทุกข์ทรมานนี้”
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา