9 ชั่วโมงที่แล้ว
โกเธนเบิร์ก
อยากใช้อยู่เรื่อย อยากได้ไปหมด — แทนที่จะเอาแต่หักห้ามใจหรือกดทับบิดเบือนความต้องการ
ลองใช้วิธี ‟เปลี่ยนดีมานด์ให้เป็นแรงผลัก″ ค่ะ บวกกับการตั้งกรอบเวลา (time frame) เพราะสำหรับคนที่ไม่ได้มีวินัยเข้มแข็งเป็นทุนเดิม ไม่ได้มีไฟท์บังคับในการเก็บเงินออมเงิน การกำหนดกรอบเวลาไว้ในใจ จะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณอยู่กับเป้าหมาย(ที่เป็นเพียงตัวเลขจำนวนเงิน)ได้นิ่งขึ้น
จริงอยู่ที่..การออมต้องเริ่มที่การตั้งเป้าหมาย แต่การตั้งเป้าหมายเพียงอย่างเดียวไม่เวิร์คสำหรับคนที่วินัยต่ำค่ะ
เพราะสมองคนเรามีความสามารถในต้านทานต่อสิ่งเร้าไม่เท่ากัน ความสามารถในการจับยึดที่เป้าหมายจึงต่างกัน แถมมักตีความ&หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้เสมอ คนเราจึงมักหยวนๆกับตัวเองตลอดนั่นแล
ดังนั้นจึงต้องเพิ่มตัวช่วยอื่นๆอาทิ การตั้งกรอบเวลา รวมถึงการให้รางวัลหรือการคาดโทษ ลงโทษ ฯลฯ เรียกรวมๆว่า brain hack ค่ะ
จากนั้นจึงค่อยมากำหนดวิธีว่าจะแบ่งสัดส่วนอย่างไร ใช้เท่าไหร่-เก็บเท่าไหร่ เก็บอย่างไร จะแยกบัญชีหรือโดยเอาไปลงทุนอะไรก็ว่าไป ลงรายละเอียดให้ชัดไปเลย
การมีทั้งตัวเลขและกรอบเวลาที่ชัดเจน ก็เพื่อให้คุณประเมินผลงานของตัวเองได้อย่างซื่อสัตย์ ซึ่งแบบนี้จะดีกว่าแค่เก็บไปเรื่อย แล้วพอเห็นเงินก้อนโตอาจเกิดอาการโยโย่ตบะแตก ที่นี้ล่ะเปย์แหลกเลย!!
ถ้าทำได้ดีก็ให้รางวัลตัวเองบ้าง ถ้าพลาดเป้าก็ปรับปรุงแก้ไข แต่อย่าแก้ตัวหรือหาข้ออ้างเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด ไม่งั้นจะติดเป็นนิสัย
ส่วนใหญ่คนเราไม่ใช่จะเปลี่ยนกันได้ปุบปับ โดยแค่การตั้งเป้าหมายหรือกดปุ่มสั่งให้ตัวเองมีวินัย สั่งใจให้พอเพียง บลาๆๆ ถึงทำได้ก็แค่ประเดี๋ยวประด๋าวไม่ยั่งยืนค่ะ ลองคิดหา brain hack ที่เหมาะกับตัวเอง เมื่อทำสำเร็จไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่แล้วเกิดความภูมิใจ นั่นจะยั่งยืนกว่า
ค่อยๆปรับพฤติกรรมโดยทดลองกำหนดเป็นช่วงเวลาสั้นๆก่อนก็ได้ (สัก 3-6 เดือนหรือ 1 ปี) ผลเป็นอย่างไร ตัวเลขยอดเงินในบัญชีไม่โกหกเราอยู่แล้วค่ะ
โฆษณา