6 พ.ย. เวลา 08:32 • สุขภาพ

ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี ได้อย่างไร

ประกันชีวิต คือ หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนใช้ในการสร้างความมั่นคงในชีวิต และวางแผนเกษียณอายุ ดังนั้น เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนทำประกัน จึงมีการมอบสิทธิ์ให้นำเบี้ยประกันที่จ่ายไปมา ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้สิทธิ์การลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งมีวงเงินและเงื่อนไขแตกต่างกัน ดังนี้
1. ประกันชีวิตทั่วไปและประกันสุขภาพ (รวมกัน)
นี่คือการลดหย่อนสำหรับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป (เช่น ตลอดชีพ, สะสมทรัพย์, ชั่วระยะเวลา) และเบี้ยประกันสุขภาพ (ที่ซื้อพ่วงหรือซื้อแยก)
รายละเอียด วงเงินลดหย่อนสูงสุด เงื่อนไขสำคัญ
เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป ลดหย่อนได้ตามจริง ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
เบี้ยประกันสุขภาพ (แยก) ลดหย่อนได้ตามจริง รวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้ว ไม่เกิน 100,000 บาท
วงเงินรวม สูงสุด 100,000 บาท ต้องมีการจ่ายเงินคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสม
สรุปสั้นๆ: ถ้าคุณมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทั่วไปและ/หรือประกันสุขภาพ คุณสามารถนำเบี้ยมารวมกันลดหย่อนได้ ไม่เกิน 100,000 บาท
2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity Insurance)
ประกันบำนาญเป็นประกันที่ออกแบบมาเพื่อการวางแผนชีวิตหลังเกษียณโดยเฉพาะ จึงมีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีแยกออกมาเป็นพิเศษ
รายละเอียด วงเงินลดหย่อนสูงสุด เงื่อนไขสำคัญ
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ สูงสุด 200,000 บาท ต้องไม่เกิน 15% ของรายได้ และเมื่อรวมกับกองทุน RMF/SSF/PVD/กบข. แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ข้อควรรู้สำหรับมือใหม่
1.ต้องใช้หลักฐาน: คุณต้องใช้ ใบเสร็จรับเงิน หรือ หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัย ที่ออกโดยบริษัทประกัน เพื่อยื่นลดหย่อน
2.ครบ 10 ปี: หากกรมธรรม์ของคุณมีอายุน้อยกว่า 10 ปี หรือยกเลิกก่อนกำหนด อาจถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังในส่วนที่เคยลดหย่อนไป
3.ประกันชีวิตให้คู่สมรส: สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสมาลดหย่อนได้ สูงสุด 10,000 บาท (คู่สมรสที่ไม่มีรายได้)
โฆษณา