11 พ.ย. เวลา 11:00 • การศึกษา

## Episode142: Kinesiology of Ankle and Foot #2

Bony Structure of the Ankle ##
ในบทความที่แล้วผมได้แนะนำภาพรวมของข้อเท้าและเท้าไปแล้ว ในบทความนี้ผมจะพูดถึงโครงสร้างกระดูกของข้อเท้า (Ankle) โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีความสำคัญมากต่อการรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหวของร่างกายครับ
ข้อเท้าหรือที่เรียกว่า "Ankle complex" ประกอบด้วยกระดูกหลักๆ 3 ชิ้น คือ tibia, fibula และ talus โดยกระดูก tibia และ fibula จะเชื่อมต่อกับกระดูก talus เป็นข้อต่อที่เรียกว่า "Talocrural joint" หรือที่เรารู้จักกันทั่วไปว่าเป็นข้อเท้านั่นเองครับ
ก่อนที่จะพูดถึงรายละเอียดของแต่ละกระดูก ผมขอพูดถึงแนวการวางตัวก่อนนะครับ ข้อเท้าของเราจะวางตัวในลักษณะที่ทำมุมประมาณ 90 องศากับขา โดยแกนการเคลื่อนไหวของข้อเท้าไม่ได้ตั้งฉากกับพื้นพอดี แต่จะเอียงออกด้านนอกเล็กน้อย ประมาณ 20-30 องศาจากแนวตั้งฉาก ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อเท้าจะไม่ได้เกิดในแนวระนาบล้วนๆ แต่จะเป็นการเคลื่อนไหวแบบ oblique plane ครับ
เริ่มจากกระดูกชิ้นแรกคือ "Tibia" หรือกระดูกหน้าแข้ง เป็นกระดูกที่รับน้ำหนักหลักของร่างกายที่ลงมาจากข้อเข่า ส่วนปลายล่างของ tibia จะขยายออกทางด้านใน เรียกว่า "Medial malleolus" ซึ่งเป็นปุ่มกระดูกที่เราสามารถคลำได้ที่ข้อเท้าด้านใน ด้านล่างของ tibia จะมีพื้นผิวข้อต่อรูปเกือกม้า (horseshoe-shaped) ที่เรียกว่า "Tibial mortise" เป็นส่วนที่รองรับด้านบนของกระดูก talus
ถ้ามองจากด้านล่าง จะเห็นว่า tibial plafond(ผิวด้านล่างของ tibia) มีความกว้างด้านหน้ามากกว่าด้านหลังประมาณ 5-6 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นลักษณะที่ช่วยให้เกิดความมั่นคงของข้อเท้าในท่า dorsiflexion ที่ talus จะถูกดันเข้าไปในช่องที่แคบกว่า ทำให้ข้อเท้ามีความมั่นคงมากขึ้นในท่ายืนปกติครับ
นอกจากนี้ ด้านข้างของ tibia ยังมีร่องเว้าที่เรียกว่า "Fibular notch" สำหรับรองรับกระดูก fibula อีกด้วย ทั้งสองกระดูกนี้ถูกยึดเข้าด้วยกันด้วย "Tibiofibular ligaments" ทำให้เกิดเป็นโครงสร้างที่มั่นคงคล้ายส้อมที่รองรับกระดูก talus ไว้ครับ
กระดูกชิ้นที่สองคือ "Fibula"เป็นกระดูกเล็กๆ ที่อยู่ด้านนอกของขา ส่วนปลายล่างของ fibula จะขยายออกเป็น "Lateral malleolus" เป็นปุ่มกระดูกที่เราสามารถคลำได้ที่ข้อเท้าด้านนอก โดย lateral malleolus จะยื่นลงมาต่ำกว่า medial malleolus ประมาณ 1 เซนติเมตร ด้านในของ lateral malleolus มีพื้นผิวข้อต่อสำหรับเชื่อมต่อกับด้านข้างของ talus
จากลักษณะทางกายวิภาคนี้ ทำให้ lateral malleolus ทำหน้าที่สำคัญในการป้องกันการเคลื่อนไหวของ talus ในทิศทาง lateral และป้องกันการเกิด excessive eversion ของเท้า แต่ด้วยความที่ lateral malleolus ยื่นลงมาต่ำกว่า จึงเป็นโครงสร้างที่มีโอกาสได้รับบาดเจ็บได้ง่ายในกรณีที่เกิดการบิดเท้า (ankle sprain) ครับ
กระดูกชิ้นที่สามคือ "Talus" เป็นกระดูกรูปคล้ายเต่าที่วางตัวอยู่ระหว่าง tibia, fibula ด้านบนและ calcaneus ด้านล่าง talus เป็นกระดูกที่ไม่มีกล้ามเนื้อมาเกาะโดยตรง แต่มีเอ็นข้อต่อจำนวนมากมาเกาะที่กระดูกชิ้นนี้ การได้รับเลือดมาเลี้ยงของ talus มาจากหลอดเลือดที่เข้ามาทางด้าน posterior และ lateral เป็นส่วนใหญ่ ทำให้กระดูกชิ้นนี้มีโอกาสเกิดภาวะ avascular necrosis ได้ง่ายหากเกิดการบาดเจ็บครับ
talus แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ "Body" ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ด้านหลัง, "Neck" เป็นส่วนคอคอดตรงกลาง และ "Head" เป็นส่วนด้านหน้า ด้านบนของ body of talus มีพื้นผิวข้อต่อรูปโค้งคล้ายลูกกลิ้ง (trochlear surface) เชื่อมต่อกับ tibial plafond ด้านข้างมีพื้นผิวข้อต่อสำหรับเชื่อมต่อกับ medial malleolus และ lateral malleolus
ส่วนด้านล่างของ body of talus มีพื้นผิวข้อต่อ 3 แห่งสำหรับเชื่อมต่อกับ calcaneus เรียกว่า "Posterior, middle และ anterior facets" โดย posterior facet จะเป็นพื้นผิวข้อต่อที่ใหญ่ที่สุด และเป็นส่วนสำคัญของข้อต่อ subtalar joint ส่วน head of talus มีพื้นผิวข้อต่อทรงกลมสำหรับเชื่อมต่อกับกระดูก navicular ด้านหน้า เป็นส่วนหนึ่งของข้อต่อ talonavicular joint ครับ
ระหว่าง body และ head of talus มีร่องที่เรียกว่า "Sulcus tali" ซึ่งรวมกับร่องที่คล้ายกันบน calcaneus เป็นช่องว่างที่เรียกว่า "Sinus tarsi" เป็นทางผ่านของเอ็นยึดข้อต่างๆ รวมถึง "Talocalcaneal interosseous ligament" ซึ่งเป็นเอ็นยึดข้อที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับ subtalar joint ครับ
กระดูก talus มีลักษณะพิเศษตรงที่พื้นผิวด้านบนกว้างกว่าด้านหลัง ทำให้เวลาที่เกิด dorsiflexion ของข้อเท้า ส่วนที่กว้างกว่าจะถูกดันเข้าไปในช่องระหว่าง tibia และ fibula ทำให้เกิดความมั่นคงของข้อเท้ามากขึ้นในท่ายืนครับ
โดยสรุป กระดูกของข้อเท้าทั้ง 3 ชิ้นนี้ - tibia, fibula และ talus - รวมตัวกันเป็นโครงสร้างที่มั่นคงแต่ก็มีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหว ทำหน้าที่รับน้ำหนักของร่างกายทั้งหมด และยังต้องรองรับแรงกระแทกจากการเดิน การวิ่ง และการกระโดดอีกด้วย
ในบทความต่อไป ผมจะพูดถึงโครงสร้างกระดูกของเท้า ซึ่งเชื่อมต่อจากข้อเท้าลงไปครับ
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
PhysioUpskill
#Physioupskill
#Ankle
#Anklebones
#Anatomy
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่ https://physioupskill.com/บทความ/ หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่ https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/ ได้เลยครับ
Ref.
Neumann, D. A. (2017). Kinesiology of the musculoskeletal system: Foundations for Rehabilitation. Mosby.
Drake, R., Vogl, A. W., & Mitchell, A. W. M. (2019). Gray's Anatomy for Students.
Moore, K. L., Dalley, A. F., & Agur, A. M. R. (2018). Clinically Oriented Anatomy. Wolters Kluwer.
Oatis, C. A. (2016). Kinesiology: The Mechanics and Pathomechanics of Human Movement. Lippincott Williams & Wilkins.
โฆษณา