7 พ.ย. เวลา 11:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

5 คำคม 5 หลักคิดของเซียนหุ้นที่ ดร.นิเวศน์ชื่นชอบ

➡ 1. “กฎข้อแรกของการลงทุนก็คือ อย่าขาดทุน และกฎข้อสองของการลงทุนก็คือ อย่าลืมกฎข้อแรก และนั่นก็คือกฎทั้งหมดที่มี” - วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
ดร.นิเวศน์บอกว่าแม้กฎข้อนี้ดูไม่ได้มีอะไรโดดเด่น มันดูเป็นการเล่นคำ แต่กลับเป็นหลักการเขายึดถือ “มากที่สุด” เลยทีเดียว เพราะการลงทุนทุกครั้งของบัฟเฟตต์นั้นมาจากการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งแล้ว ดูไปในอนาคตว่ามันสามารถสร้างความผิดพลาดได้ในระยะยาวหรือไหม ถ้ามีก็จะเลี่ยง “แม้ว่าโอกาสจะกำไรมหาศาลจะสูงกว่า” ก็ตาม
เหตุผลอีกอย่างที่ดร.นิเวศน์เชื่อหลักคิดนี้ของบัฟเฟตต์คือสถิติการลงทุนตลอดช่วง 70 ปีที่ผ่านมานั้นมีการขาดทุนน้อยมาก แม้มีหลายตัวที่ไม่ดีแล้วต้องขายออกไป แต่ก็ไม่ได้เยอะมาก
➡ 2. “มันไม่ใช่เรื่องที่คุณจะถูกหรือผิดในการเลือกหลักทรัพย์ลงทุน แต่เป็นเรื่องว่าคุณจะกำไรเท่าไรถ้าคุณถูก และจะขาดทุนเท่าไรเมื่อคุณเลือกผิด” - จอร์จ โซรอส (George Soros)
สำหรับโซรอสแล้วการขาดทุนหรือกำไรหุ้นกี่ตัวนั้นไม่สำคัญ เพียงแต่ถ้าขาดทุนอย่าขาดทุนมาก โดย ดร.นิเวศน์หยิบเรื่องหนึ่งของโซรอสมาเล่าบอกว่า เวลาที่ลูกน้องขแงเขาเสนอซื้อหุ้นอะไรสักอย่าง จะทดสอบโดยการชอร์ตหุ้นตัวนั้นก่อนหนึ่งล็อต ถ้าหุ้นตกเพราะไม่มีคนรับก็จะถอย ปิดชอร์ตและทำกำไรเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ตกและปรับตัวขึ้นก็จะยอมขาดทุน ซื้อหุ้นกลับแบบจัดเต็ม เพื่อทำกำไร
ดร.นิเวศน์กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ “โซรอสไม่ได้ “เล่นทุกวัน” และ “เล่นน้อย ๆ” อย่างที่นักลงทุนแบบ “แมงเม่า” ทำ เขาเลือกเล่นและ “กินคำโต” ที่มั่นใจมาก เพราะวิเคราะห์มาแล้วอย่างดี”
➡ 3. “เขา (เบน เกรแฮม) ทำเงินได้หลายต่อหลายล้านเหรียญจากการลงทุนเน้นมูลค่า ในบริษัทห่วย ๆ ซึ่งราคาถูกมาก ๆ .. แต่การเฝ้ามองบริษัทห่วย ๆ ที่คุณไม่ชอบ มันไม่น่าอภิรมย์เอาซะเลย .. สู้มองบริษัทที่คุณชื่นชมประสบความสำเร็จขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หรอก มันสนุกกว่ากันตั้งเยอะเมื่อเทียบกับการมองคนทุเรศ ๆ บริหารบริษัทราคาถูก ๆ แบบ ผิด ๆ ถูก ๆ” - ชาลี มังเกอร์ (Charlie Munger)
มังเกอร์เป็นคู่หูนักลงทุนของบัฟเฟตต์ และเป็นหนึ่งในบุคคลที่โน้มน้าวให้บัฟเฟตต์เปลี่ยนแนวทางการลงทุนหุ้นถูกๆ มาเป็น ‘ซูเปอร์สต็อก’ บริษัทที่ดีเยี่ยม อย่างในปัจจุบัน เขาจะดูหุ้นของบริษัทที่ดี มีสินค้าที่ดี มากกว่าเน้นแค่เรื่องของราคา
➡ 4. “ถ้าคุณเป็นคนขับรถบรรทุก คุณก็มีความได้เปรียบในฐานะนักลงทุนที่สุดแล้ว” - ปีเตอร์ ลินช์ (Peter Lynch)
หลักคิดนี้ ดร.นิเวศน์เรียกมันว่าเป็น “ภูมิปัญญาชาวบ้าน” ในการเลือกหุ้นหรือบริษัทสำหรับลงทุนเลย คนที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นหรือการลงทุน แต่เป็นลูกค้าหรือผู้บริโภคที่ใช้งานอยู่เป็นประจำทุกวัน มีข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเหล่านั้นเป็นอย่างดี
อาจจะเป็นคนที่เรารู้จักที่ชอบเสื้อผ้าจากร้านไหน เครื่องสำอาง ขนม หรือร้านอาหารที่กำลังเติบโต คนกลุ่มนี้จะช่วยคัดกรองหุ้นได้มากเลยว่าตัวไหนกำลังดีหรือแย่
➡ 5. หลักคิดข้อนี้เป็นของ เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio) ดร.นิเวศน์กล่าวว่า “เขาพูดว่าระเบียบของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากการที่อเมริกาเป็นผู้กำหนดจะกลายเป็นโลกที่อเมริกาก็เป็นแค่ผู้เล่นหนึ่ง ดังนั้น การหาหุ้นลงทุนนั้นก็จะต้องมองไปในภาพใหญ่และต้องดูว่าที่ไหนหรือประเทศไหนจะเป็นแหล่งลงทุนที่ดีในอนาคต”
สิ่งที่ดร.นิเวศน์ พยายามสื่อก็คือว่า ดาลิโอนั้นมองภาพใหญ่ของโลกว่าอเมริกากำลังจะเสื่อมลงและจีนกำลังจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น ต่อไปในอนาคตเองอเมริกาก็จะเป็นเพียงผู้เล่นคนหนึ่งเท่านั้น การอยู่ใน “ตลาดที่ถูกต้อง” เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับดาลิโอแล้วอาจจะเป็นจีน แต่ส่วนตัวของดร.นิเวศน์ก็ยังมองคงมองว่าเป็นเวียดนาม
ซึ่งการตั้งคำถามกับเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี ทำให้เราไม่ติดกับอยู่กับสิ่งที่คุ้นเคย บางทีโลกเปลี่ยนไปแล้วเรามารู้ทีหลังก็สายเกินไปแล้วนั่นเอง
#aomMONEY #MakeRichGeneration
โฆษณา