Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
8 พ.ย. เวลา 02:00 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเงินทางทฤษฎีทำไม่ยาก แต่ทำไมหลายคนยังทำไม่ได้?
ถอดรหัส Money Scripts เปลี่ยนทัศนคติทางการเงินที่ฝังลึกไปสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืน
ทางทฤษฎีแล้วเรื่องเงินถือว่าไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่ หลายคนทราบดีว่าโดยพื้นฐานแล้วแนวทางการใช้เงิน ‘ที่ดี’ นั้นก็คือใช้น้อยกว่าที่หามาได้ แบ่งเงินเก็บออมเผื่อเหตุฉุกเฉิน วางแผนลงทุนสำหรับการเกษียณ กระจายความเสี่ยง ป้องกันความเสียหายด้วยประกันชนิดต่างๆ และคอยพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินให้กับตัวเองเสมอ
คำถามที่สำคัญและน่าสนใจกว่าคือเมื่อรู้แล้วทำไมหลายคนยังทำไม่ได้? ทำไมมันยังยากเหลือเกิน เหมือนเรารู้ว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่เราก็เลือกที่จะไม่ทำมันอยู่ดี
การรู้ว่าอะไรดีก็เรื่องหนึ่ง การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอก็อีกเรื่องหนึ่ง
แล้วเราจะขุดตัวเองให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเรื่องการเงินได้ยังไงกัน?
🧠 Money_Scripts
คำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่ความรู้ทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่นักจิตวิทยาและนักการเงินเรียกว่า "Money Scripts" หรือ "เรื่องราวทางการเงิน"
บาริ เทสสเลอร์ (Bari Tessler) นักบำบัดการเงินและผู้เขียนหนังสือ "The Art of Money" อธิบายว่า Money Scripts คือ "สิ่งที่คุณเรียนรู้เกี่ยวกับเงินจากการเลี้ยงดู วิธีที่คุณตอบสนองหรือต่อต้าน รวมถึงรูปแบบทางการเงินในปัจจุบันของคุณ" แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงจิตวิทยา แต่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในวงการวางแผนการเงินกระแสหลัก
👨👩👧👦 ดร. แบรด คลอนทซ์ (Dr.Brad Klontz) นักจิตวิทยาการเงินจาก Creighton University สหรัฐอเมริกากล่าวว่า "Money Scripts มักเกิดขึ้นในวัยเด็กและฝังรากลึกจนเรามักไม่รู้ตัวว่ามีอยู่ แต่มันส่งผลอย่างมากต่อพฤติกรรมทางการเงินของเราในวัยผู้ใหญ่" โดย “พื้นฐานทางครอบครัว ถือว่าเป็นส่วนสำคัญกับทัศนคติและมุมมองเรื่องเงินของคนเราแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การใช้จ่าย การเก็บออม การลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยง”
โดยคลอนทซ์และคณะผู้วิจัยได้สร้างแบบทดสอบชื่อ the Klontz Money Script Inventory - II (KMSI-II) ที่สามารถบ่งบอกลักษณะความเชื่อทางการเงินของแต่ละบุคคล จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปสอบถามกลุ่มตัวอย่าง โดยได้ข้อสรุป เป็นการแบ่งคนออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
🚫 1. Money Avoidance คนกลุ่มนี้มองว่า "เงิน คือ มารร้าย"
เห็นว่า คนรวยเป็นพวกโลภมาก และมักตั้งคำถามว่า คนเราจะมีเงินไปมากมายทำไม ในเมื่อคนอื่นยังขาดแคลน คนกลุ่มนี้ จึงมักใช้จ่ายโดยไม่ใส่ใจอะไร หาได้เท่าไรก็ใช้เท่านั้น ไม่เน้นเก็บออม และชอบลงทุนตามกระแส โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับกำไร-ขาดทุน
🙏 2. Money Worship คนกลุ่มนี้มองว่า "เงิน เป็น พระเจ้า"
มีกรอบความคิดว่า การมีเงินจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปได้ ยิ่งมีเงินมาก ยิ่งมีความสุข คนเหล่านี้จึงมีแนวโน้มที่จะทำงานหนัก เพื่อให้ได้เงินมากๆ แล้วนำเงินไปใช้จ่ายสร้างความสุข ชอบใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูง ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น เป็นไปได้ที่จะรับความเสี่ยงได้สูง เพราะคาดหวังผลตอบแทนสูงๆ เพื่อให้รวยเร็วๆ
👑 3. Money Status คนกลุ่มนี้มองว่า “เงิน เป็น เครื่องแสดงสถานะ”
มักใช้เงินสร้างตัวตน มักจ่ายเงินไปกับข้าวของต่างๆ เพื่อสร้างการยอมรับจึงมีโอกาสที่จะใช้เงินเกินตัว เสี่ยงเป็นหนี้ และอาจจับพลัดจับผลู เข้าสู่วงการพนัน เพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่าย สำหรับรูปแบบการลงทุนของคนกลุ่มนี้จะคล้ายกับคนกลุ่มที่แล้ว คือ พร้อมเสี่ยง เพื่อสร้างทางลัดไปสู่ความร่ำรวย
🛡️ 4. Money Vigilance คนกลุ่มมองว่า “เงิน เป็น ของรัก”
เห็นว่าเรื่องเงินๆ ทองๆ ต้องปลอดภัย เงินมีไว้เก็บ ไม่ได้มีไว้ให้ใช้ บางครั้งจึงถูกมองว่าเป็นคนขี้เหนียว เพราะมักจะคิดแล้วคิดอีกกว่าจะยอมควักกระเป๋าจ่ายแต่ละบาท ดังนั้นรูปแบบการลงทุนของคนกลุ่มนี้ คิดเน้นช้าแต่ชัวร์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่แน่นอน เพราะรับเรื่องของขาดทุนไม่ค่อยได้นั่นเอง
🧰 แก้ไข Money_Scripts
การศึกษาในสหราชอาณาจักรพบว่า ผู้ที่เติบโตมาในครอบครัวที่ปกปิดเรื่องการใช้จ่าย มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมทางการเงินที่เป็นปัญหา เช่น การสะสมเงินมากเกินไป เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ในขณะที่งานวิจัยอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่า ประสบการณ์ที่เลวร้ายในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงินหรือไม่ก็ตาม มักส่งผลเสียต่อการตัดสินใจทางการเงินในภายหลัง
รามิตร เศรษฐี (Ramit Sethi) ผู้เขียนหนังสือขายดี “ผมจะสอนให้คุณรวย” กล่าวว่า "บทบาทที่มองไม่เห็นเหล่านี้ฝังลึกในตัวเราจนเราไม่รู้ตัวว่ามันกำกับทัศนคติหรือพฤติกรรมของเรา" เขาเตือนว่าหากปล่อยให้ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก "มันอาจกลายเป็นกับดักทางจิตวิทยาที่ฉุดรั้งเราไว้"
การศึกษาในสหราชอาณาจักรพบว่า ผู้ที่เติบโตมาในครอบครัวที่ปกปิดเรื่องการใช้จ่าย มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมทางการเงินที่เป็นปัญหา เช่น การสะสมเงินมากเกินไป เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ในขณะที่งานวิจัยอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่า ประสบการณ์ที่เลวร้ายในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงินหรือไม่ก็ตาม มักส่งผลเสียต่อการตัดสินใจทางการเงินในภายหลัง
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบก่อนคือว่าเราอาจจะไม่ได้ตกอยู่ในแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งของ Money Scripts เท่านั้น แต่บางทีจะคาบเกี่ยวในหลายๆ กลุ่มได้ และการรู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยเราแก้ไขปัญหาเรื่องการเงินของเราได้โดยอัตโนมัติ
แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราจะได้รู้ (อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี) ว่าเบื้องหลังพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้มาจากไหน และการตระหนักรู้ตรงนี้ก็จะช่วยเป็นบันไดขั้นแรกของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้นได้
ข่าวดีคือ การทำความเข้าใจและแก้ไข Money Scripts ของตัวเองเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ นักจิตวิทยาพบว่าการบำบัดแบบปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (Cognitive-Behavioral Therapy) สามารถช่วยให้เราสามารถเอาชนะนิสัยทางการเงินที่เป็นปัญหาได้ ตั้งแต่ปัญหาร้ายแรงอย่างการใช้จ่ายเกินตัวแบบหยุดไม่ได้ การพนัน หรือการสะสมของมากเกินไป ไปจนถึงปัญหาทั่วไปอย่างการหลีกเลี่ยงการจ่ายบิล
ยูจีนี จอร์จ (Eugenié George) นักการศึกษาด้านการเงินและผู้เขียนหนังสือ "Our Money Stories" แนะนำวิธีการจัดการกับความเชื่อเรื่องเงินเป็นสามขั้นตอน
📝 1. เริ่มจากการสำรวจอารมณ์และความทรงจำเกี่ยวกับเงิน : ลงค้นลงไปลึกๆ ในความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องการเงิน มันเข้ามามีส่วนกับชีวิตของคุณแบบไหน คนรอบตัวสอนเราเกี่ยวกับเงินยังไง อะไรที่ทำให้รู้สึกกระวนกระวายใจ เครียด อะไรที่อยากจะเปลี่ยน เขียนสิ่งเหล่านี้ลงในสมุด ไม่ต้องมีรูปแบบใดทั้งสิ้น ปล่อยให้อารมณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวกับเงินไหลออกมา
🔍 2. วิเคราะห์ตัวเลขการเงินของตัวเองอย่างละเอียด : เมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้วว่าเรารู้สึกยังไงกับเงิน เราต้องอย่าปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ เขียนบันทึกรายรับรายจ่ายของตัวเองทุกบาทที่เข้าและออกไป ดูว่าอันไหนเป็นการเสียเงินแบบที่ไม่ตรงกับเป้าหมายในชีวิตของเราหรือที่เราให้คุณค่า
ตรงนี้เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองด้วย มันอาจจะเจ็บปวดที่จะยอมรับว่าเราไม่ได้จัดการเงินได้ดีขนาดนั้น แต่ปัญหาการเงินจะไม่หายไปหากไม่เผชิญหน้ากับมันตรงๆ
บางทีคุณอาจจะเห็นแล้วว่าตอนนี้เรามีปัญหาเรื่องการมองเงินเป็นพระเจ้า ให้คุณค่ากับของนอกกายมากเกินไป อาจจะมาจากตอนที่เป็นเด็กถูกสอนมาแบบนั้น ซึ่งไม่เป็นไร เมื่อรู้ปัญหา นี่เป็นโอกาสในการแก้ไขแล้ว
🎯 3. การวางแผนจัดการเงินในอนาคตบนพื้นฐานของสิ่งที่ค้นพบ : หลังจากเห็นตัวเลข ก็ต้องวางแผนต่อเลยว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง เริ่มเปลี่ยนจากตรงไหน ลดค่าใช้จ่ายลงตรงไหนได้บ้าง ออมเพิ่มไหม ลงทุนรึเปล่า หาหนังสือการเงินมาอ่าน ฯลฯ
🗓️ ที่สำคัญคืออย่าทำแค่ครั้งเดียว ในช่วงแรกให้ทำทุกอาทิตย์เลยก็ได้ หรือสองอาทิตย์ครั้ง ถ้ามีแฟนก็เอาแฟนมาทำ ‘Money Dates’ คุยกันเรื่องเงินเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย
⏳ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลง Money Scripts ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลา
อเรียนนา วัย 35 ปี ผู้บริหารบริษัทสตาร์ตอัปแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เล่าว่าเธอต้องใช้เวลาหลายปีในการเอาชนะความกลัวเรื่องเงินที่สั่งสมมาตั้งแต่วัยเด็ก "ฉันเคยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบยอดบัญชีและใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตเพราะกลัวว่าจะเห็นตัวเลขที่แย่" เธอกล่าว "แต่พอฉันเข้าใจว่าพฤติกรรมนี้มาจากไหน ฉันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงทีละน้อย ตอนนี้ฉันตั้งเวลาทุกสัปดาห์เพื่อตรวจสอบการเงินของตัวเอง และรู้สึกควบคุมได้มากขึ้น"
ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า การรู้จักให้อภัยตัวเองเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการนี้ เทสสเลอร์กล่าวว่า "คุณแก้ไขรูปแบบด้วยการสังเกต ให้ความสนใจ และสังเกตช่วงเวลาก่อนที่คุณจะตกหลุมพราง คุณอาจยังพลาดอยู่ แต่ครั้งต่อไปที่คุณกลับมาอยู่ตรงนั้น คุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับมันแล้ว"
🆓 ในยุคที่ความมั่นคงทางการเงินกลายเป็นความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ การเข้าใจและจัดการกับ Money Scripts ของตัวเองอาจเป็นกุญแจสำคัญสู่อิสรภาพทางการเงินและความมั่งคั่งที่ยั่งยืน แม้จะไม่ใช่ยาวิเศษที่จะแก้ปัญหาการเงินทั้งหมดได้ในทันที แต่ก็เป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่การมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับเงิน และท้ายที่สุด กับตัวเราเองด้วย
อ้างอิง :
https://www.thecut.com/.../could-understanding-your-money
...
https://shorturl.at/xCuMH
https://newprairiepress.org/jft/vol5/iss1/4/
https://baritessler.com/2016/02/money-story/
https://www.yourmentalwealthadvisors.com/.../your-money.../
https://www.researchgate.net/.../292354895_Cognitive
...
แบบทดสอบ :
https://www.yourmentalwealthadvisors.com/.../your.../form
#aomMONEY #MakeRichGeneration #การเงินส่วนบุคคล
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย