Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Physioupskill
•
ติดตาม
25 พ.ย. เวลา 11:00 • การศึกษา
## Episode144: Kinesiology of Ankle and Foot #4
Joints of the Ankle ##
บทความที่ผ่านมาผมได้พูดถึงกระดูกของเท้าไปแล้ว ในบทความนี้ผมจะพูดถึงข้อต่อของข้อเท้า (Ankle joints) ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวและการรับน้ำหนักของร่างกายครับ
ข้อต่อในส่วนของข้อเท้าประกอบด้วยข้อต่อหลัก 2 ข้อต่อ คือ "Talocrural joint" และ "Subtalar joint" โดยทั้งสองข้อต่อนี้ทำงานร่วมกันเป็น "Ankle complex" ที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่หลากหลายของเท้าครับ
เริ่มจากข้อต่อแรกคือ "Talocrural joint" หรือที่เรามักเรียกกันทั่วไปว่า "ข้อเท้า" นั่นเอง ข้อต่อนี้เป็นข้อต่อแบบบานพับ (hinge joint) ที่เกิดจากการเชื่อมต่อกันระหว่าง distal end ของกระดูก tibia และ fibula กับส่วน trochlea ของกระดูก talus
ลักษณะของ distal tibia และ fibula (malleoli) จะโอบรอบด้านบนและด้านข้างของ talus คล้ายกับบานพับประตูหรือรูกุญแจ โดย medial malleolus ของ tibia จะอยู่ด้านใน ส่วน lateral malleolus ของ fibula จะอยู่ด้านนอก และ tibial plafond จะอยู่ด้านบน ร่วมกันสร้างเป็นโครงสร้างคล้ายส้อมที่โอบล้อม trochlea ของ talus ไว้ครับ
Articular surface ของ talus มีลักษณะเป็นรูปโค้งจากด้านหน้าไปด้านหลัง โดยส่วนด้านหน้าจะกว้างกว่าส่วนด้านหลังประมาณ 5-6 มิลลิเมตร ลักษณะนี้ทำให้เกิดความมั่นคงของข้อเท้าในท่า dorsiflexion เพราะส่วนที่กว้างกว่าของ talus จะถูกดันเข้าไปในช่องที่แคบกว่าระหว่าง tibia และ fibula ทำให้เกิดความแน่นพอดี ในทางตรงกันข้าม ในท่า plantarflexion ส่วนที่แคบกว่าของ talus จะเลื่อนมาอยู่ระหว่าง tibia และ fibula ทำให้ข้อเท้ามีความมั่นคงน้อยกว่า ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่การบาดเจ็บข้อเท้ามักเกิดในท่า plantarflexion ครับ
ถ้าเราดูจากด้านบน จะพบว่าแกนการเคลื่อนไหวของ talocrural joint ไม่ได้ตั้งฉากกับแนวการวางตัวของเท้าพอดี แต่จะเอียงออกด้านนอกประมาณ 20-30 องศาจากแนวเฉียงหน้า-หลัง (anteroposterior axis) ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อเท้าในแนวระนาบ sagittal ไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวในแนวระนาบล้วนๆ แต่จะมีการเคลื่อนไหวในแนวระนาบอื่นร่วมด้วยเล็กน้อยครับ
การเคลื่อนไหวหลักของ talocrural joint คือ "Dorsiflexion" และ "Plantarflexion" .
- "Dorsiflexion" คือการกระดกปลายเท้าขึ้น ทำให้มุมระหว่างหลังเท้ากับขาลดลง โดยปกติจะทำได้ประมาณ 20 องศา
- "Plantarflexion" คือการกระดกปลายเท้าลง ทำให้มุมระหว่างหลังเท้ากับขาเพิ่มขึ้น โดยปกติจะทำได้ประมาณ 50 องศา
โดย arthrokinematics (การเคลื่อนไหวของพื้นผิวข้อต่อ) ของ talocrural joint จะเป็นลักษณะของ rolling และ sliding ของ trochlea ของ talus ไปบน tibial plafond ในทิศทางตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหว เช่น เมื่อเกิด dorsiflexion, trochlea ของ talus จะ roll ไปทางด้านหน้าแต่จะ slide ไปทางด้านหลังครับ
ต่อมาคือข้อต่อ "Subtalar joint" หรือชื่อเต็มคือ "Talocalcaneal joint" เป็นข้อต่อระหว่างกระดูก talus กับ calcaneus เป็นข้อต่อแบบ tri-axial (มีแกนการเคลื่อนไหว 3 แกน) ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบ gliding ได้ในหลายทิศทาง . Subtalar joint แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ posterior part และ anterior part
- Posterior part เกิดจากการเชื่อมต่อกันระหว่าง posterior facet ของ calcaneus กับ posterior facet ของ talus มีลักษณะเป็นข้อต่อแยกต่างหากที่มี joint capsule เป็นของตัวเอง
- Anterior part เกิดจากการเชื่อมต่อกันระหว่าง anterior และ middle facets ของ calcaneus กับ anterior และ middle facets ของ talus ข้อต่อนี้จะรวมอยู่ใน joint capsule เดียวกันกับ talonavicular joint เป็นส่วนหนึ่งของ talocalcaneonavicular joint (หรือที่เรียกว่า chopart's joint)
ระหว่าง posterior และ anterior part ของ subtalar joint จะมีช่องว่างที่เรียกว่า "Sinus tarsi" และ "Tarsal canal" ซึ่งเป็นทางผ่านของเส้นเอ็นที่สำคัญคือ "Talocalcaneal interosseous ligament" ซึ่งเป็นเอ็นยึดข้อที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับ subtalar joint ครับ
การเคลื่อนไหวหลักของ subtalar joint คือ "Inversion" และ "Eversion" .
- "Inversion" คือการบิดส้นเท้าเข้าด้านใน ทำให้ฝ่าเท้าหันเข้าหากัน โดยปกติจะทำได้ประมาณ 20-30 องศา
- "Eversion" คือการบิดส้นเท้าออกด้านนอก ทำให้ฝ่าเท้าหันออกจากกัน โดยปกติจะทำได้ประมาณ 5-15 องศา
แต่ในความเป็นจริง การเคลื่อนไหวของ subtalar joint จะเป็นการเคลื่อนไหวแบบผสมผสานใน 3 ระนาบพร้อมกัน ที่เรียกว่า "Pronation" และ "Supination"
- "Pronation" ประกอบด้วย dorsiflexion, eversion และ abduction
- "Supination" ประกอบด้วย plantarflexion, inversion และ adduction
การเคลื่อนไหวแบบผสมผสานนี้เกิดขึ้นเพราะแกนการเคลื่อนไหวของ subtalar joint มีลักษณะเอียงเฉียงในทั้ง 3 ระนาบ โดยจะวางตัวทำมุมประมาณ 42 องศากับแนวนอน และทำมุมประมาณ 16 องศากับแนวกลางของเท้า (midline) เปรียบเสมือนแกนหมุนที่วางตัวจากด้านหลัง-บน-นอกของส้นเท้า ไปยังด้านหน้า-ล่าง-ในของเท้าครับ
Subtalar joint มีความสำคัญมากในการปรับตัวของเท้าให้เข้ากับพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และในการเปลี่ยนการหมุน (rotation) ระหว่างขาและเท้า เช่น ในช่วงเริ่มต้นของการเดิน (initial contact) เท้าจะ pronate เพื่อช่วยดูดซับแรงกระแทกและปรับตัวให้เข้ากับพื้นผิว แต่ในช่วงส่งแรง (push-off) เท้าจะ supinate เพื่อให้เกิดความมั่นคงและสามารถส่งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
ท่าที่ข้อต่อชิดกันมากที่สุด (close pack position) ของ talocrural joint คือท่า dorsiflexion สุด ส่วน loose pack position คือท่า plantarflexion ประมาณ 10 องศา สำหรับ subtalar joint, close pack position คือท่า inversion สุด ส่วน loose pack position คือท่า neutral หรือเอียง eversion เล็กน้อยครับ
โดยสรุป ข้อต่อของข้อเท้าทั้ง talocrural joint และ subtalar joint ทำงานร่วมกันเป็น ankle complex ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่หลากหลายของเท้า ซึ่งมีความสำคัญต่อการรับน้ำหนัก การปรับตัวกับพื้นผิว และการเคลื่อนไหวของร่างกาย ในบทความต่อไป ผมจะพูดถึงข้อต่อในส่วนของเท้าส่วนกลาง (Midfoot) ต่อไปครับ
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
PhysioUpskill
#Physioupskill
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่
https://physioupskill.com/บทความ/
หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่
https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/
ได้เลยครับ
Ref.
Neumann, D. A. (2017). Kinesiology of the musculoskeletal system: Foundations for Rehabilitation. Mosby.
Drake, R., Vogl, A. W., & Mitchell, A. W. M. (2019). Gray's Anatomy for Students.
Moore, K. L., Dalley, A. F., & Agur, A. M. R. (2018). Clinically Oriented Anatomy. Wolters Kluwer.
Oatis, C. A. (2016). Kinesiology: The Mechanics and Pathomechanics of Human Movement. Lippincott Williams & Wilkins.
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย