8 พ.ย. เวลา 09:07 • ปรัชญา
จำคำผมไว้นะ
คนเราไม่ได้เหนื่อยเพราะอยากมีเยอะเกินไป หลายคนอยากหยุด แต่เพราะโลกนี้ไม่ยอมให้เรามีแค่นี้
ทุกระบบสร้างให้เราต้องแสวงหา ไม่ใช่เพื่อเติบโต แต่เพื่อเลี้ยงระบบที่ไม่อยากให้ใครหยุด แม้แต่เจ้าสัวที่ร่ำรวยระดับล้านๆก็ยังคงต้องหาเงินทำธุรกิจผูกขาดเพื่อนำเงินมาเลี้ยงคนในองค์กร ไม่เคยคิดหยุด ในขณะที่เงินมีใช้ทั้งชาติจนตายอีกหลายชาติ ก็ใช้ไม่หมด
2
โลกนี้ไม่ยอมให้เรามีแค่นี้
ในขณะที่คุณพยายามที่จะวางมือ เพื่อที่จะออกจากเกมของการสะสม โลกทั้งใบกำลังเร่งสปีดให้คุณกลับไปวิ่งได้เรื่อยๆ
1
ราคาน้ำมันขึ้น ค่าเช่าขึ้น ค่ารักษาขึ้น
และเสียงสั่งสอนจากคนที่มีมากกว่าก็จะดังขึ้นเสมอว่า
อย่าให้เงินมาบงการชีวิตนะ วลีเท่ๆนี้ ที่มักหลุดจากปากคนที่มีเงินมากพอที่จะไม่ต้องคิดเรื่องเงินอีกแล้ว
1
เราพูดถึงความมั่งคั่งภายใน
แต่ระบบภายนอกกลับบีบให้คนต้องดิ้นเพื่ออยู่รอด
คนชั้นล่างที่เหนื่อยจากการหาไม่ได้เพราะโลภ
แต่เพราะถ้าไม่หา ก็ไม่มีจะกิน
ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งเหนื่อยจากการรักษาเพราะกลัวเสียของที่มี
ทั้งสองฝั่งไม่ต่างกันเลย เพียงแต่กล่องใส่ความทุกข์ของคนรวยมันดูแพงกว่า
บางคนพูดถึง The Wealth Within
แต่ก็พูดในห้องแอร์ของโรงแรมห้าดาวพร้อมแก้วไวน์ Beaune พูดถึงการหยุดท่ามกลางเสียงพัดลม Dyson และไวน์อุณหภูมิพอดี
ในขณะที่คนอีกกลุ่มหยุดไม่ได้แม้แต่จะหายใจลึกๆ เพราะโอทีคืนนี้ยังไม่พอจ่ายค่าเช่าห้อง
เราถูกสอนให้เชื่อว่าความมั่งคั่งคือการได้เลือก
แต่ในโลกแห่งการแข่งขัน ความเลือกส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้แพงเกินไป
จนคนส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรเลย
1
หัวใจที่มั่งคั่งที่สุดคือหัวใจที่วางลงได้
คำพูดนี้ฟังดูงดงาม แต่ในโลกจริง การวางลงได้มักต้องมีเงินสำรองก้อนหนึ่งก่อนเสมอ
1
ความมั่งคั่งที่แท้จริงอาจไม่ได้อยู่ในใจอย่างเดียว
แต่มันอยู่ในความยุติธรรมของระบบ
ที่คนไม่ต้องดิ้นรนจนสูญเสียศักดิ์ศรีเพื่ออยู่รอด
อยู่ในสังคมที่คุณไม่ต้องพิสูจน์ว่าคุณมีค่า ด้วยการมีมากกว่าคนอื่น
ดังนั้นคำถามว่าเมื่อไหร่เราถึงควรหยุด
อาจไม่มีคำตอบ
เพราะตราบใดที่โลกนี้ยังหมุนด้วยอำนาจ ผลประโยชน์ และภาพลวงตาของความสำเร็จ
แม้แต่คนที่พูดเรื่องการหยุด ก็อาจแค่พักเหนื่อยระหว่างทางสู่ยอดเขาเท่านั้นเอง
และในขณะที่บางคนพูดถึงความอิ่มที่ไม่ต้องซื้อ
คนอีกฝั่งยังคงหิวในระบบที่พวกเขาไม่ได้ออกแบบ
เพราะความมั่งคั่งที่แท้จริง ไม่ใช่การเข้าใจตัวเองเท่านั้น แต่มันคือวันที่เราสร้างโลกที่ไม่บังคับให้คนอื่นต้องเหนื่อยเพื่ออยู่รอด
คุณพูดถูก ความมั่งคั่งอยู่ข้างใน
แต่อย่าลืมว่าคนจำนวนมากยังไม่มีแม้แต่ข้างนอกให้เริ่มต้นด้วย
1
หลายคนอยากหยุด อยากอยู่เงียบๆ อยากใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่โลกนี้ไม่ยอมให้เรามีแค่นี้
ทุกระบบสร้างให้เราต้องแสวงหา ไม่ใช่เพื่อเติบโต แต่เพื่อเลี้ยงระบบที่ไม่อยากให้ใครหยุด
แม้แต่เจ้าสัวที่ร่ำรวยระดับหมื่นล้านก็ยังคงต้องหา ต้องขยาย ต้องซื้อกิจการใหม่ ต้องผูกขาดตลาด ต้องทำให้คนทั้งประเทศกินใช้ของตัวเอง เพราะถ้าเขาหยุด ระบบที่เขาสร้างไว้ก็จะล้ม คนในองค์กรจะตกงาน หุ้นจะร่วง ภาพลักษณ์จะเสีย
แม้เงินที่มีอยู่แล้วจะใช้ได้อีกหลายชาติ ก็ไม่มีใครกล้าพูดคำว่า “พอ”
คนส่วนใหญ่กว่าจะอยู่พอทนได้ก็ต้องมีรถสักคันไว้ไปทำงาน มีโทรศัพท์ดีๆ สักเครื่องไว้ติดต่อกับโลก กว่าจะซื้อโทรศัพท์เครื่องหนึ่งต้องแลกกับเงินเดือนสองถึงสามเดือน ต้องผ่อน ต้องรูด ต้องใช้อนาคตล่วงหน้าเพื่อได้สิ่งที่คนอื่นมีอยู่แล้ว
ราคาข้าวหนึ่งจานกับค่าจ้างรายวันมันห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ความเหนื่อยที่ต้องแลกมากลับกินชีวิตทั้งวัน
สังคมนี้สอนให้เรารู้จักคำว่าพอ แต่ระบบกลับลงโทษคนที่หยุดไว้กลางทาง
คนที่พยายามจะอยู่แบบเรียบง่ายมักถูกมองว่า “ไม่ขวนขวาย”
คนที่ไม่อยากแข่ง ถูกบอกว่า “ไม่พัฒนา”
โลกไม่ได้ยกย่องความสงบ มันเฉลิมฉลองความวุ่นวายที่ห่อด้วยคำว่าความสำเร็จ
ในทุกเช้าที่รถติดยาวเป็นกิโล ทุกคนที่ขับรถราคาแพงต่างกำลังรีบไปหาเงิน เพื่อจ่ายค่างวดรถราคาแพงคันนั้น ในทุกมื้อกลางวันที่เรานั่งกินข้าวกล่อง 40 บาทในห้องพักแคบๆ เราเปิดโทรศัพท์ดูคนกินสเต๊ก 4 พันบาทในร้านหรู แล้วบอกตัวเองว่า วันหนึ่งเราจะต้องไปให้ถึงตรงนั้น
จนสุดท้ายทั้งชีวิตของเรากลายเป็นการตามหาความพอของคนอื่น โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าความพอของตัวเองหน้าตาเป็นแบบไหน
เราถูกหลอกให้เชื่อว่าความมั่งคั่งคืออิสระ แต่แท้จริงแล้วอิสระถูกขายอยู่ในรูปของผ่อน 0% 36 เดือน
เราถูกสอนให้เชื่อว่าการมีมากคือความมั่นคง ทั้งที่สิ่งที่มั่นคงจริงๆ คือระบบที่ดูดแรงเราไปวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อให้มันหมุนต่อไปได้อย่างราบรื่น
และตลกร้ายที่สุดคือ
แม้แต่คนที่บอกให้เราหยุด ก็ยังโพสต์ภาพความสำเร็จของตัวเองลงโซเชียลไม่หยุด
พูดถึง “ความสุขภายใน” พร้อมถ่ายรูปริมทะเลกับไวน์ดีๆสักแก้ว
เหมือนจะสอนให้เราเข้าใจชีวิต แต่จริงๆแค่โชว์ว่าเขาเข้าใจคำว่ามีมากกว่า
โลกนี้ไม่ได้หมุนเพราะคนแสวงหา
แต่เพราะคนไม่กล้าหยุด
เราไม่ได้วิ่งเพราะอยากไปต่อเสมอไป
บางทีก็แค่กลัวว่าถ้าหยุด จะไม่มีที่ยืนในโลกที่ให้ค่ากับ “ผู้ชนะ” มากกว่า “ผู้เข้าใจชีวิต”
ชีวิตที่หยุดไม่ได้ ความมั่นคงของใครบางคนคือราคาผ่อนบ้านอีก 40 ปี ทั้งๆที่อายุตัวเองอยู่ไม่ถึง
ชีวิตนี้จะหยุดยังไงได้ หากไม่ซื้อ พ่อแม่ลูกก็ไม่ได้อยู่บ้านดีๆ
บ้านหลังเดิมที่ใครๆ บอกให้พอเพียง ก็คือบ้านมุงสังกะสีร้อนจนแทบหายใจไม่ออก ไม่มีแอร์ ไม่มีความเป็นส่วนตัว
1
ไม่กู้ก็ไม่ได้อยู่ ไม่หาเพิ่มก็ไม่มีทางรอด แล้วจะให้หยุดได้อย่างไรในวันที่ทุกอย่างแพงขึ้น แต่ค่าของคนกลับถูกลงทุกวัน
ในสังคมที่ความพอเพียงกลายเป็นของหรูหรา
แม้แต่การ “หยุด” ก็ต้องมีต้นทุนสูงเกินกว่าคนธรรมดาจะจ่ายไหว...
เพราะสุดท้าย
ความมั่งคั่งที่แท้จริงอาจไม่ใช่การมีมากขึ้น
แต่คือวันที่เรากล้าบอกตัวเองว่า
“ฉันไม่อยากแข่งกับใครอีกแล้ว”
แม้จะรู้ดีว่าในสังคมนี้ คำพูดแบบนั้น...
มันแทบจะใช้ไม่ได้เลย
โฆษณา