8 พ.ย. เวลา 11:50 • ความคิดเห็น

กระแสหมอนทอง...

เอาเป็นว่าปกติไม่ดูบอลค่ะ บอลไทย บอลเทศไม่สนใจ ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น จนไม่กี่วันก่อน ชื่อของหมอทองวิทยาก็ผ่านหูผ่านตา เอ็นดูชื่อก่อน นึกว่าล้อกันเล่น แต่พอตามๆไป วีรกรรมทำให้สนใจในเกมฟุตบอล
ในที่สุดนัดวันชิงแชมป์กับอบจ.ชัยนาทเลยตามดูค่ะ ....
แต่ระหว่างนี้ ก่อนวันแข่งก็ห่วงเด็กทั้งสองทีม ฝั่งหนึ่ง ถูกปั่นขึ้นให้ฟูในกระแสสื่อ ทีมหน้าใหม่ที่ไม่มีดาวรุ่งมาก่อน ความสามารถของเด็กๆทุกคน ฝีเท้าวิ่งสู้ตาย ความใหม่ ความสดของผู้เล่น และเริ่มมีดาวรุ่งเปล่งประกายเป็นช้างเผือกให้เห็น ตกเป็นกระแสสนใจของสังคมทั้งประเทศ.....
เด็กๆน่าจะตื่นเต้นเต็มไปด้วยความฝัน ความสำเร็จเหมือนแค่ปลายเท้า.....เด็กๆอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น เป็นทีม มีโค้ชที่นำพาตามล่าหาความฝัน
ส่วนอีกทีมมีเรื่องเล่ากล่าวขานตามสื่อมีน้อยกว่า เหมือนความสนใจจากสังคมต่างกันมากเด็กๆละห้อย ซ้อมเงียบๆ แต่ดีที่โค้ชคอยปกป้องและซัพพอร์ต...และชอบมากตรง ก่อนลงแข่ง โค้ชเก็บมือถือทุกคนไม่ให้ตามสื่อ ซ้อมอย่างเดียว ....มิน่าปล่อยลงสนามวิ่งแบบกระทิงป่าเลย
ก่อนที่จะแข่ง ห่วงเด็กทั้งสองทีมไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ ต้องมีฝ่ายได้ลิ้มรสความผิดหวัง และอีกฝ่ายสมหวังสะใจ ....
สองทีมนี้มาถึงจุดนี้ ฝีเท้าคงไม่มีใครเป็นมวยรอง ...ฝีมือ ส่วนตัวให้เท่ากันไว้ก่อนค่ะ
เป็นครั้งแรกในชีวิตค่ะที่นั่งรอดูบอล อยากเห็นเด็กเล่นบอล อยากรู้ว่าเขาจะเล่นกันยังไง
ดูแบบคนไม่ดูบอลนะคะ ดูแบบหมอเด็กดูเด็ก
.... ดูบอลน้ำตารื้อค่ะ .... เห็นเด็กตั้งใจ วิ่งไป วิ่งตามลูกไม่คิดชีวิต ล้มลุกคลุกคลาน เจ็บเนื้อเจ็บตัว ถ้าเป็นแม่เห็นลูกล้มแบบนี้ก็คงเจ็บด้วย แต่เขาลุกขึ้น วิ่งต่อ และสู้...คนเป็นแม่ต้องทนดูลูกเจ็บในสนามให้ได้นะ อย่าเข้าไปยุ่งในเกม อย่าเข้าไปห้าม อย่าเข้าไปช่วย เมื่อเขาหันมาต้องการค่อยเข้าไปโอบกอด ไม่ว่าแพ้หรือชนะคนเป็นแม่ต้องพร้อมเคียงข้าง
เท่าที่เห็น เกมรุกเป็นของโรงเรียนอบจ.ชัยนาทเป็นส่วนใหญ่ชัดเจน พยายามทำประตูครั้งแล้วครั้งเล่า วิ่งลืมเหนื่อย ลืมตาย เอาบอลเข้าเท้าตัวเองให้มากที่สุด จนวันนี้ หมอนทองวิทยาเหมือนจะรุกไม่ขึ้น รับเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าตั้งรับอย่างเดียว โดนยิงประตูบ่อยโอกาสพลาดเสียประตูมันก็เป็นไปได้มากเป็นธรรมดา
สิ่งที่เห็น เด็กสองทีม สู้ถวายชีวิต ยอมใบเหลืองรักษาพื้นที่ ยอมใบเหลืองให้เสียเกมรุกอีกฝ่าย ยอมเจ็บเพื่อทำลายเกมรุก หรือรุกเพื่อทำประตู ....สนามเล็กแต่หัวใจเด็กทั้งสองทีมยิ่งใหญ่มากค่ะ
สิ่งที่เห็นโรงเรียนอบจ.ชัยนาท เขา stress แต่ไล่บี้แบบไม่สนอินทร์สนพรหม สายตากร้าวกล้า
สิ่งที่เห็น.....เห็นจริงๆ ...หมอนทองเขา stress ตัวเล็กๆ บางๆลูก เขาแบกรับความหวัง ความฝันของผู้ใหญ่ที่เชียร์เขาไว้เยอะมาก เขาตัวเล็กแบกไว้จนเกินกำลัง เขาวิ่งไม่เป็นอิสระ ไม่เบา เขาหนักอึ้ง เด็กวิ่งไม่ออก เด็กไม่สนุกไม่มีความสุขค่ะ ...และส่วนตัว มีเคืองค่ะ จะเตะมุมไม่มีที่ให้ถอยออกไปวิ่งกลับมาเตะลูกเลย ถอยได้สองสามก้าวก็ชนคนดูนั่งชิดสนามซะจนจะขี่คอนักเตะได้ ...
อยากจะบอกว่าหนูเก่งมากเอาชนะบททดสอบต่างๆมาได้จนสุดทางแล้วค่ะ บททดสอบสุดท้ายพวกหนูไม่เคยเจอการแบกรับ ความหวังของคนอื่น.....
1
รู้สึกว่าคนมาล้อมเขาใกล้และมากเกินไป น่าอึดอัด เขาขาดพื้นที่ความสงบรอบสนาม ขาดพื้นที่วิ่งตามขอบสนามที่ควรต้องใช้ เตะบอลในโรงเรียน เพื่อนยังนั่งห่างไปหลายเมตร ...เห็นแล้วอึดอัดแทนเด็กค่ะ
สำหรับหมอนทองเป็นสนามที่น่าตื่นกลัว สำหรับเด็กที่มาจากตำบลเล็กๆ มาที่นี่ครั้งแรก ....สนามที่คนเชียร์ชิดเส้นขอบสนาม
ดูแล้วรักและเชียร์ทั้งสองทีมค่ะ ทีมหนึ่งก็มีบาดแผลจากความพ่ายแพ้ในรอบชิงมาก่อน แพ้อีกก็จะเจ็บซ้ำ อีกทีมก็ออกตามไล่ล่าความฝัน บินขึ้นมาสูง ถ้าตกเขาก็จะเจ็บ
เอ็นดูเด็กๆค่ะ
อยากให้เด็กๆได้มีพื้นที่ในสังคมแสดงศักยภาพแบบนี้ในหลายๆรูปแบบ
อยากให้ผู้ใหญ่ให้โอกาส สร้างพื้นที่ปลอดภัย สนับสนุนกิจกรรมที่หลากหลาย
ไม่อยากให้การกีฬาเป็นการพนัน รางวัลการอัดฉีดให้ทีม ให้นักกีฬาคือกำลังใจ ไม่อยากตีคุณค่าเด็กๆเป็นเพียงเกมที่ทำเงิน
ความกดดัน ทำได้ทั้งระเบิดศักยภาพ หรือทำให้วิ่งไม่ออก
กีฬา แพ้ชนะบางครั้งไม่ใช่แค่ฝีมือ แต่ในช่วงเวลานั้นใครตั้งสติ มีสมาธิ และคุมเกมได้ คนนั้นมีแต้มต่อที่จะชนะ ...
ส่วนตัวไม่ชอบเล่นกีฬาที่ต้องแข่งขัน ไม่ชอบดูการแข่งกีฬาใดๆ เพราะไม่ชอบการมีคนแพ้ คนชนะค่ะ ...แค่ลงสนามก็ชนะตัวเองแล้ว
#อบจ.ชัยนาทพวกหนูเอาชนะฝันร้ายของตัวเองได้ พวกหนูคู่ควรกับแชมป์คับ
#หมอนทองพวกหนูสร้างตำนานลูก เต็มที่มาก.... ภูมิใจนะ
ไม่มีใครแพ้ค่ะคนเก่ง
โฆษณา