Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ต่าย แสนซน IPST
•
ติดตาม
8 พ.ย. เวลา 23:47 • ข่าวรอบโลก
🛰️ เมื่อ Starlink เป็น "เส้นชีวิต" ใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์: ไทยจะรับมืออย่างไรในฐานะ "ทางผ่าน"?
ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้ามชาติ โดยเฉพาะที่ตั้งฐานปฏิบัติการขนาดใหญ่อย่าง KK Park ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ได้กลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่กัดกินทรัพย์สินและความเชื่อมั่นของสังคมไทย การปราบปรามของภาครัฐไทยที่มุ่งเน้นการตัดช่องทางการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อจากฝั่งไทยไปยังพื้นที่ปฏิบัติการเหล่านี้ ได้เผยให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ที่ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม นั่นคือการเข้ามาของ อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk
➡ 'ไทย' กับมาตรการ 'สามตัด' และช่องโหว่ที่ไม่คาดคิด
เดิมทีประเทศไทยได้ใช้มาตรการเข้มงวดที่เรียกว่า "3 ตัด" คือ ตัดไฟฟ้า-ตัดอินเทอร์เน็ต-ตัดน้ำมัน เพื่อสกัดการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเน้นที่การตัดสัญญาณโทรคมนาคมและสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตที่ลากผ่านชายแดนเข้าสู่เมียนมา มาตรการนี้ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อศูนย์สแกมเมอร์ในระยะแรก
อย่างไรก็ตาม อาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์เผยว่า หลังจากการตัดสัญญาณของไทย กลุ่มอาชญากรรมในเมียวดีได้เพิ่มการใช้งาน Starlink ขึ้นกว่า สองเท่า ภายในหนึ่งปี
💡 ทำไม Starlink จึงเป็นทางรอดของแก๊ง?
เพราะว่า Starlink ไม่ต้องพึ่งโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน: Starlink ส่งสัญญาณจากกลุ่มดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit - LEO) ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาสายเคเบิลหรือเสาสัญญาณในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง หรือถูกจำกัดการเข้าถึง
อุปกรณ์ขนาดเล็กและพกพาง่าย: จานรับสัญญาณมีขนาดกะทัดรัด (ประมาณ 40x60 ซม.) น้ำหนักเบา ทำให้สามารถลักลอบนำเข้าข้ามพรมแดนจากไทยไปพม่าได้อย่างแนบเนียน
ความเร็วสูงและเสถียร: คุณภาพอินเทอร์เน็ตที่ได้เพียงพอต่อการดำเนินกิจกรรมหลอกลวงที่ต้องใช้การเชื่อมต่อตลอดเวลา
ภาพถ่ายดาวเทียมในปัจจุบันได้ยืนยันการมีอยู่ของ จานรับสัญญาณสีขาวของ Starlink ที่ปรากฏอยู่เต็มหลังคาอาคารขนาดใหญ่ใน KK Park ซึ่งชี้ให้เห็นว่า Starlink ได้กลายเป็น "ช่องทางหลัก" ในการสื่อสารสำหรับเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้
📦 บทบาทของ 'ไทย' ในฐานะ 'ทางผ่าน' ของสินค้าผิดกฎหมาย
แม้ว่า Starlink จะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ให้บริการอย่างเป็นทางการในเมียนมา แต่การที่อุปกรณ์เหล่านี้ปรากฏอยู่เกลื่อนกลาดในพื้นที่ฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย่อมสะท้อนถึงการลักลอบนำเข้าข้ามแดนอย่างเป็นระบบ
ประเทศไทย ซึ่งมีพรมแดนติดกับเมียนมาและเป็นจุดผ่านแดนสำคัญ จึงตกอยู่ในสถานะที่เป็น "ทางผ่าน" หรือจุดพักสินค้าสำคัญ (Transshipment Point) ของอุปกรณ์ Starlink ที่มักจะถูกซื้ออย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศที่อนุญาตให้ใช้งาน (เช่น ไทย หรือประเทศอื่น ๆ) แล้วลักลอบขนส่งไปยังพื้นที่เป้าหมายในเมียนมา
ความท้าทายด้านการควบคุม: การควบคุมสินค้าเทคโนโลยีที่มีขนาดเล็กและมีมูลค่าสูงนี้ทำได้ยาก โดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่มีช่องทางธรรมชาติมากมาย
การเชื่อมโยงอาชญากรรมข้ามชาติ: การลักลอบขนส่งนี้แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่แข็งแกร่ง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การหลอกลวงทางโทรศัพท์ แต่รวมถึงการจัดการซัพพลายเชนของอุปกรณ์ด้วย
🛠️ แนวทางการรับมือในอนาคต: ไม่ใช่แค่ตัดเน็ต แต่ต้องสกัดอุปกรณ์
การที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ Starlink ทำให้มาตรการปราบปรามของไทยต้องก้าวข้ามจากแค่การตัดสายเคเบิล ไปสู่การ สกัดกั้นอุปกรณ์ดาวเทียม
การควบคุมชายแดนที่เข้มข้นขึ้น: รัฐบาลไทยจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการตรวจตราและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า/ส่งออกอุปกรณ์ Starlink ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่เชื่อมต่อกับ KK Park
ความร่วมมือระหว่างประเทศและบริษัท Starlink:
ไทยควรร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมา (หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) เพื่อปราบปรามการใช้อุปกรณ์ผิดกฎหมายนี้อย่างจริงจัง
การหารือกับ SpaceX/Starlink เพื่อขอให้มีการจำกัดการให้บริการในพื้นที่ที่ถูกระบุว่าเป็นฐานของอาชญากรรมข้ามชาติ (Geo-fencing) หรือยกเลิกบัญชีผู้ใช้งานที่พบว่ามีการนำอุปกรณ์ไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน คุณๆ คิดว่า เจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองไทย จะลงมือทำอะไรจริงจังแค่ไหน หรือว่าคนไทยต้องตกเป็นเหยื่อแบบนี้ตลอดไป ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลย
ข่าว
ข่าวรอบโลก
แก๊งคอลเซ็นเตอร์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย