ลงทุนเชิงรุก (Active) vs. เชิงรับ (Passive) กลยุทธ์ไหนที่ใช่สำหรับคุณ
เมื่อพูดถึงกองทุนรวม เรามักได้ยินคำว่า “Active” และ “Passive” อยู่เสมอ ทั้งสองแนวทางต่างมีจุดเด่นและเหมาะกับนักลงทุนที่ต่างกัน มาดูกันว่าคุณเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากันค่ะ 💡
🏆 การลงทุนเชิงรุก (Active Investing)
เป้าหมาย: เอาชนะตลาด
มีผู้จัดการกองทุนและทีมวิเคราะห์คอยเลือกหุ้นหรือตราสารที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าดัชนี เช่น SET50 และมีการปรับพอร์ตตลอดเวลา
ข้อดี
✅ มีโอกาสทำกำไรสูงกว่าตลาด
✅ ปรับกลยุทธ์ได้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์
ข้อเสีย
❌ ค่าธรรมเนียมสูง
❌ ผลลัพธ์ขึ้นกับความสามารถของผู้จัดการ ซึ่งไม่การันตีว่าจะชนะตลาดเสมอไป
🚶♂️ การลงทุนเชิงรับ (Passive Investing)
เป้าหมาย: ไปพร้อมกับตลาด
ลงทุนให้ผลตอบแทน “ล้อไปกับ” ดัชนีอ้างอิง เช่น SET50 หรือ S&P 500 ผ่าน Index Fund หรือ ETF
ข้อดี
✅ ค่าธรรมเนียมต่ำ
✅ โปร่งใส เข้าใจง่าย
✅ ผลตอบแทนใกล้เคียงตลาด
ข้อเสีย
❌ ไม่สามารถเอาชนะตลาดได้
❌ เมื่อตลาดตก พอร์ตก็ร่วงตาม
แล้วแบบไหนดีกว่า ?
ไม่มีคำตอบตายตัว!
🔹 มือใหม่หรือคนไม่มีเวลา → Passive เหมาะสุด เพราะต้นทุนต่ำและผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว
🔹 นักลงทุนมีประสบการณ์ → อาจเลือก Active ในตลาดเฉพาะที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม
กลยุทธ์ที่หลายคนใช้คือ “Core-Satellite” — ใช้กองทุน Passive เป็นแกนหลัก และเสริมด้วย Active เพื่อเพิ่มโอกาสผลตอบแทนส่วนเกิน
สุดท้าย ขึ้นอยู่กับว่า “คุณอยากเอาชนะตลาด หรือไปพร้อมกับตลาด” 😊
#ActiveInvesting #PassiveInvesting #IndexFund #การลงทุน #AvengerPlanner
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
