Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
10 พ.ย. เวลา 05:01 • การเมือง
ใครสั่งพี่กุ้งหยุดยิง
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน เมื่อวานนี้มีข่าวใหญ่ที่ชวนคนไทยทั้งประเทศสงสัย นั่นคือใครออกคำสั่งให้พี่กุ้ง พลโท บุญสิน พาดกลาง อดีต แม่ทัพภาคที่ 2 หยุดยิง แม้จะยังไม่รู้ว่าคนที่ออกคำสั่งนั้นเป็นใคร แต่เราจะขอนำทุกท่านมาดูเรื่องราวอันชวนสงสัยต่อไปนี้ ว่าคนๆนั้นเป็นใคร ทำไมจึงต้องพูดออกไปแบบนี้ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ไปติดตามกันครับ
เมื่อวานนี้ (9 พฤศจิกายนพ.ศ.2568) พลโท บุญสิน พาดกลาง หรือ "พี่กุ้ง" อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สร้างความสั่นสะเทือนในสังคมด้วยการเปิดเผยเหตุการณ์ที่ตนเองได้รับคำสั่งให้ "หยุดยิง" จากผู้มีอำนาจหลังจากที่การปะทะกับกัมพูชาเริ่มต้นขึ้นได้เพียง 6 ชั่วโมง ในวันแรกของการโจมตีคือ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นประเด็นที่คนไทยจำนวนมากยังคงติดตามและคาใจอย่างต่อเนื่องว่าผู้สั่งการคนนั้นเป็นใคร
พลโท บุญสิน ได้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเชิดชูนักสู้ผู้กล้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 43 ของกลุ่มสันติอโศก และได้กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อกัมพูชาโจมตีฝ่ายไทยก่อน ภายหลังการตอบโต้กลับไปของฝ่ายไทยได้ 6 ชั่วโมง คำสั่งให้หยุดยิงก็ถูกส่งมาถึง อย่างไรก็ตาม พี่กุ้งยืนยันว่า ตนเองไม่ยอมหยุดยิงทันที โดยให้เหตุผลว่า หากตนเองหยุดยิง จะต้องออกมาพูดว่าใครสั่งให้หยุด และผู้สั่งการคนนั้นจะอยู่ไม่ได้ สุดท้าย ผู้มีอำนาจคนนั้นต้องยอมให้พี่กุ้งเปิดฉากรบต่อไป เพราะกลัวจะถูกเปิดเผยชื่อ
สาเหตุที่ท่านไม่ทำตามคำสั่งหยุดยิงนั้น เนื่องจากท่านมองว่าคำสั่งดังกล่าว น่าจะผิดแผนของกัมพูชา กัมพูชามีแผนที่จะทำให้ไทยบุก เพื่อนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลโลก และหวังจะทวงคืน 3 ปราสาทกับ 1 พื้นที่ เช่นช่องบก หรือ มุมเบย พี่กุ้งรู้สไตล์และวิธีเดินเกมของกัมพูชา จึงต้องตอบโต้กลับไป พลโท บุญสินยังเปิดเผยถึงแผนการรบในขณะนั้นว่า หากไม่ถูกสั่งให้หยุดยิง ปราสาทตาควายจะถูกยึดคืนมาได้ โดยมีเป้าหมายคือยึดภูมะเขือก่อน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และกำลังจะโยกกำลังไปเอาปราสาทตาควาย
พี่กุ้งขณะเป็นแม่ทัพภาคที่ 2
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ก็ต้องยุติลงชั่วคราว เนื่องจากผู้ใหญ่เกรงว่าเรื่องการปะทะอาจถูกนำเข้าที่ประชุมสหประชาชาติ (UNITED NATION : UN) ซึ่งอาจทำให้ไทยถูกตำหนิว่ารังแกประเทศเล็ก
หลังจากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ประชาชนและสื่อได้พุ่งเป้าไปที่ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ "บิ๊กเล็ก" ซึ่งในขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พลเอก ณัฐพล ได้ออกมาปฏิเสธอย่างชัดเจน โดยชี้แจงผ่านผู้สื่อข่าวสายทหารและที่ปรึกษาของท่านคือ ผศ. ดร. วันวิชิต บุญโปร่ง ท่านยืนยันว่า ไม่ใช่ท่านแน่นอน ไม่เคยโทรไปสั่งแม่ทัพกุ้งให้หยุดยิง ตรงกันข้าม ท่านมีแต่ให้การสนับสนุนในฐานะแนวหลัง ให้แม่ทัพกุ้งจัดการอย่างเต็มที่และเด็ดขาด พลเอก ณัฐพลถึงขั้นกล่าวสาบานต่ออาจารย์วันวิชิตว่า "พี่ไม่เคยโทรไปหรือสั่งการใด ๆ กับแม่ทัพกุ้ง หรือแม้แต่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)"
เมื่อถูกถามว่าใช่ "คุณ..." หรือไม่ พลเอก ณัฐพลตอบว่า "ไม่ก้าวล่วงและพี่เข้าไม่ถึง" บุคคลนั้น ทำให้ที่ปรึกษาพอจะทราบโดยตนเองว่าผู้สั่งการน่าจะเป็นใคร ที่ปรึกษาของบิ๊กเล็กยังได้ชี้แจงด้วยว่า "พี่ห่วงใยว่าหากอาจารย์เข้ามาทำงานตรงนี้ ชีวิตอาจจะไม่เหมือนเดิม เนื่องจากมีแรงกระแทก และมีขบวนการพยายามเสี้ยมให้พี่ขัดแย้งกับแม่ทัพกุ้ง"
ประเด็น "ใครสั่งพี่กุ้งหยุดยิง" นี้ได้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ชาวบ้านหลายคนในศรีสะเกษและสุรินทร์ต่างอยากให้แม่ทัพกุ้งเปิดเผยชื่อผู้สั่งการออกมาเลย พวกเขามองว่าคนสั่งหยุดยิงในขณะที่กัมพูชาโจมตีและมีคนบาดเจ็บล้มตายนั้น "เลวระยำมาก" และเป็นการ "ขายชาติ" ชาวบ้านเชื่อว่าทหารทุกคนพร้อมที่จะสู้และตอบโต้ตามคำสั่ง
พี่กุ้งขณะร่วมทำบุญ
ชาวบ้านยังแสดงความชื่นชมพี่กุ้งที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งหยุดยิง เนื่องจากพวกเขาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสูญเสียและบ้านเรือนที่เสียหาย และเรียกร้องให้พี่กุ้งเปิดชื่อออกมาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและยุติธรรมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ทางด้านเพจ Thaiarmedforce กล่าวถึงเรื่องร้อนนี้ว่า ไม่รู้ว่าพลโท บุญสินพูดแบบนี้ต้องการอะไร จริง ๆ ถ้าแมน ๆ อยากจะแฉหรืออยากจะเปิดเผยความจริง ก็ควรจะพูดชื่อมาเลย หรืออย่างน้อยก็ส่งข้อมูลให้กับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เปิดเผยให้แทน แล้วจะได้ดำเนินการกันต่อ
แบบนี้จะดูจริงใจมากกว่า หรือไม่ก็ไม่ต้องพูดเลย ไปเคลียร์กันข้างหลัง
แต่พอพูดแบบนี้ นอกจากจะทำให้สังคมปั่นป่วน แถมมีผู้ใหญ่หลายคนต้องออกมาปฏิเสธแล้ว มันยังไม่ได้ช่วยให้ภาพลักษณ์ของกองทัพดีขึ้นเลย เพราะแทนที่มันจะแสดงให้เห็นว่ากองทัพไม่สนใจใครยึดมั่นการปฏิบัติการทางทหารอย่างเดียว มันกลับแสดงให้เห็นว่ากองทัพปฏิบัติงานเป็นเอกเทศ ไม่สนใจคำสั่งหรือแม้แต่ไม่สนใจความเห็นจากใคร
เอาจริง ๆ ถ้าเป็นคำสั่งจากผู้มีอำนาจบังคับบัญชาแล้วพลโท บุญสินไม่ปฏิบัติตาม อาจถือว่าพลโท บุญสิน ละเมิดวินัยทหารด้วยซ้ำ กลับกันเลยคนที่สั่งก็ไม่ผิดฐานกบฎแน่นอน มันไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานเป็นกบฎแน่ ๆ เป็นการตีความกฎหมายเกินเลยหลักการไปมาก
พลโท บุญสิน พาดกลางบนภูมะเขือ
อันนี้พูดได้เลยว่า TAF คุยกับผู้ใหญ่หลายคน หลายคนที่คุยนั้นไม่อยู่ในลิสต์ของคนสั่งที่พลโท บุญสิน พูดแน่ ๆ แต่แทบไม่มีใครสักคนที่เห็นด้วยกับการพูดแบบนี้ของท่าน เพราะไม่รู้ว่าต้องการอะไร บางคนคอมเมนต์ด้วยซ้ำว่าท่าน หาแสงมากเกินไปแล้ว
จากนั้นมีการกล่าวเพิ่มเติมถึงพี่กุ้งว่าเราคิดว่าช่วงหลัง พลโท บุญสิน มีปัญหาโดยไม่รู้ตัวว่าตนเองเริ่มจัดการกับชื่อเสียงที่โด่งดังไม่ค่อยได้
ตามประสาคนแก่ที่เพิ่งมาดังตอนอายุ 60 ในโลกยุคโซเชียลมีเดียและ AI การรับมือกับชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ยาก และเราคิดว่าช่วงหลังพลโท บุญสิน ทำได้ไม่ดี
แน่นอนที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าจะแย้งหรือเตือน เพราะกระแสความนิยมในตัว ท่านสูงมาก และเมื่อพูดน้อยก็พลาดน้อย แต่ในทางกลับกัน มันก็ทำให้ท่านไม่รู้ว่าบางอย่างควรพูด บางอย่างไม่ควรพูด บางอย่างไม่รู้จะพูดทำไม และพอพูดมากขึ้น ก็พลาดมากขึ้น
อย่างเรื่องนี้ ถามกลับเลยว่า มันช่วยให้กองทัพบกดูดีขึ้นมาหรือไม่ แม้ว่าเราจะ Romanticize ได้ว่าเห็นไหมอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนหยัดทำการรบกับกัมพูชาโดยไม่สนใจ แต่ในทางกลับกัน มันแสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่าการทำงานไม่เป็นระบบ ไม่เป็นเอกภาพ หรือกัมพูชาอาจจะเอาไปตีได้เลยด้วยซ้ำว่า กองทัพไทยไม่ลงรอยกับฝ่ายอื่นในประเทศไทย ทำให้สถานการณ์แย่ลงในตอนนั้น แล้วโยนความผิดมารัว ๆ
พลโท บุญสินกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก
ที่สำคัญ มันไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่าประเทศไทยสามัคคีกันในยามวิกฤต กลับกันมันแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยตัวใครตัวมันมาก ๆ จริง ๆ
ก็ไม่น่าแปลกที่ตอนแรกเราคิดว่าศึก ชายแดนไทยกัมพูชา เหมือนเราชนะใส ๆ แต่เวลาผ่านไปพอข้อเท็จจริงเริ่มปรากฎ กลายเป็นถ้าผลงานแบบนี้ไม่อยากเรียกว่าชนะด้วยซ้ำ
จากนนั้นมีการฝากไปถึงพี่กุ้ง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าพูดอะไรควรวางแผนก่อน หาคนร่างสุนทรพจน์ให้ก่อนก็ได้ อย่าเพิ่งคิดอะไรแล้วพูดออกไปโดยไม่ทันตระหนักว่าสิ่งที่พูดจะกระทบกับใครหรือองค์กรใดบ้าง
เพราะไม่งั้น กองทัพบกก็จะเสียเอง และจากที่ท่านมีแต่คนชื่นชมทั้งประเทศ จะกลายเป็นเริ่มมีศัตรูหรือมีคนไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่จำเป็น
ทางเว็บไซต์ AMARIN TV รายงานว่าพลเอกรังษี ชื่นชม “บิ๊กกุ้ง” ยังไม่ลืมคนสั่งหยุดยิง “คนขายชาติ” แย้มคนสั่งหยุดยิงคือใครคำถามอยู่ในคำตอบ บอกพูดไป จะโดนฟ้อง
พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สนง.ปลัดกลาโหม ได้กล่าวถึงกรณี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง หรือพี่กุ้ง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ไปร่วมกิจกรรม "สานต่อความดี : รับมอบรางวัลเชิดชูเกียรติอันทรงเกียรติ พลังขับเคลื่อนการบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่" ที่พุทธสถานปฐมอโศก อ.เมือง จ.นครปฐม บางช่วง
พลโท บุญสิน พาดกลางขณะเป็นประธานในพิธีเปิดประติมากรรมรูปปั้นม้าและปลูกต้นไม้ สวนกีฬากองทัพภาคที่ 2
ซึ่งบางช่วงของการบรรยาย พลโทบุญสิน ได้เผยถึงเหตุการณ์รบกับกัมพูชาใน 6 ชม.แรก แต่โดนสั่งให้หยุด แต่ไม่หยุดเพราะต้องเอาแผ่นดินคืน ใครสั่งหยุดจะโดนโทษประหาร ส่งเสียง วิพากษ์วิจารณ์และการตั้งคำถามว่าใครคือคนที่สั่งให้หยุดยิง
พลเอกรังษี บอกว่า สืบเนื่องจากพี่กุ้งเป็นทหารอาชีพ และเป็นทหารตัวอย่างของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งจะเห็นได้จากศึกสงครามที่ผ่านมา แต่กลับกันกองทัพบกยังตั้งท่านเป็นที่ปรึกษา ซึ่งแสดงว่าเป็นคนที่กองทัพยอมรับ
อีกทั้งผลงานที่ผ่านมา ของพลโท บุญสิน เป็นที่ประจักษ์ของคนไทยทั้งประเทศ แต่ระบบราชการไทย มีการยอมรับกติกาว่า “การเมืองนำการทหาร” เพราะการเมืองคุมนโยบาย โดยตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเพื่อคุมทั้ง 3 เหล่าทัพ รวมทั้งหน่วยงานความมั่นคงอีกด้วย
พลเอกรังษี บอกว่า กรณีนี้แม่ทัพกุ้งเป็นคนที่รู้ดีที่สุดในสถานการณ์การสู้รบ เพราะเป็นคนรับผิดชอบโดยตรง วันนี้ก็ขอชื่นชมท่าน ที่ท่านไม่ลืมเรื่องนี้ และเอาความจริงมาให้คนไทยได้หูตาสว่าง ว่า “ มีการสมคบคิดกันจริงๆ ระหว่างไอ้คนขายชาติกับคนที่จะมาฮุบหรือแบ่งสมบัติทรัพยากรของชาติไทย ”
รอยยิ้มของพี่กุ้ง (ขวา) ในเครื่องแบบทหารบก
ซึ่งการพูดถึงคนขายชาติ ตลอดจนสิ่งที่เกิดขึ้นตนมองว่าพี่กุ้งทำคุณประโยชน์ แม้แต่ไม่ได้รับราชการแล้ว แต่สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และทำให้คนไทยได้รู้ว่า ภัยคุกคามจริงไม่ได้มีเฉพาะนอกประเทศแต่มีคนในประเทศด้วย
ส่วนใครคือคนขายชาติ คำถามอยู่ในคำตอบในตัวเอง เพราะหากไม่ใช่คนในรัฐบาลที่ผ่านมา ใครจะสั่งหยุดยิงได้อย่างไร ยกตัวอย่าง นาย ก. นาย ข. ใครจะมาโทรฯสั่ง พลโท บุญสิน ได้
“ก็ต้องเป็นคนที่มีอำนาจ แต่เราเอาแบบนี้ เป็นการให้ความรู้กับประชาชนเสียดีกว่า เพราะต้องเข้าใจว่าคนพวกนี้ชอบฟ้องปิดปากและถ้าผมโดนฟ้อง ผมจะไม่สามารถเอาข้อมูล เด็ด ๆมาให้ เพราะจริง ๆ แล้วหลังแม่ทัพกุ้ง เปิดประเด็นนี้แล้วเป็นหน้าที่ที่ต้องไปตามหา ซึ่งมันไม่ยาก วงมันแคบ และถ้าดู พฤติกรรมที่เขาแสดงมาตลอด ก็จะอ่านออกว่าคนไหนที่มันขายชาติ” พลเอกรังษี บอกไว้แบบนี้ หลังทีมข่าว AMARIN TV ถามถึงอักษรย่อ
ท่านให้ความรู้ว่า หากวันนั้นหยุดยิงตามคำสั่ง มองได้ว่ากัมพูชาก็จะยึดพื้นที่ไทย และเข้าสู่โต๊ะเจรจาต่อรอง ซึ่งสุดท้ายกัมพูชาจะลากเส้นไปถึงอ่าวไทย เพราะกัมพูชาต้องการเบี่ยงแผนที่ และการดำรงมาตราส่วน 1:200,000 ก็เพราะกัมพูชาต้องการทรัพยากรในอ่าวไทย กัมพูชาถึงมีความพยายามสร้างพื้นที่ทับซ้อน
ดังนั้นคำที่แม่ทัพกุ้งบอกว่าถ้าหยุดยิงและใครจะสั่งหยุดยิงต้องมีโทษประหารนั้น ก็เพราะตามกระบวนการหากมีการสู้รบผิดพลาดก็ต้องมีการสอบสวน แต่การที่แม่ทัพกุ้งไม่ยอม เพราะรู้ว่าถ้าหยุดจะเท่ากับเปิดทางให้กัมพูชาเข้ามารุกล้ำอธิปไตยไทย
พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์
อย่างก็ไรตามเชื่อว่า พลโทบุญสิน คิดคล้ายตนว่า ภัยคุกคามเรายังไม่หมด ต้องกำจัดให้สิ้น ตลอดจนรัฐบาลชุดหน้าหากเอาคนที่ไม่ได้ซื้อเสียงนั้น มองว่ากับ ฮุน เซน ก็จัดการไม่ยาก เพราะอดีต ฮุน เซน ไม่เคยกล้ายุ่งกับเราแบบนี้ แต่วันนี้ที่กัมพูชามั่นใจว่าเราทำอะไรไม่ได้และเราก็ทำอะไรกับกัมพูชามากไม่ได้จริง ๆ ก็เพราะมีคนสมคบคิด ซึ่งเป็นคนอยู่ในประเทศไทยเป็นคนอยู่ในวงจรอำนาจด้วย
ท่านให้สัมภาษณ์เพื่มเติมว่า "มีคนที่อยู่ในวงการการเมือง สมรู้ร่วมคิด แต่ถ้าเรารับเงินแล้วกาให้คนพวกนี้เท่ากับคุณทำร้ายประเทศ ทำร้ายครอบครัว และทำร้ายตัวเอง ย้ำต้องลุกขึ้นมา อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำสอง จึงเชื่อว่าการเลือกตั้งของไทยรอบนี้มีผลให้ ฮุน เซน เข้ามามีบทบาทเต็มเหนี่ยวแน่ ยกตัวอย่างวันนี้ ฮุน เซน กำลังแย่ ทั้ง เศรษฐกิจพัง ,ด่านถูกปิด ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากได้รัฐบาลที่ตรงไปตรงมาได้รัฐบาลเสียงข้างมากมองว่า ฮุน เซน ตายยังเขียด"
แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีใครทราบว่าผู้ที่สั่งพี่กุ้งหยุดยิงเป็นใคร แล้วมีเจตนาดีหรือไม่ในการพูดแบบนี้ หรืออาจมีการตั้งคำถามจากคนบางกลุ่มว่าท่านกำลังหิวแสงหรือไม่ ไม่ว่าใดๆก็แล้วแต่ ท่านก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไปในการบรรยายสิ่งที่เป็นสาระแก่พี่น้องประชาชนชาวไทย แม้แต่การพูดยกย่องถึงการเครื่องบินขับไล่ F-16 ท่านก็แสดงให้เห็นว่าการรบในครั้งนั้นท่านเป็นทหารอาชีพ เพราะในการรบกองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้รบโดดเดี่ยว เรายังมีการใช้กำลังทางอากาศร่วมสนับสนุน ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่มีทหารกัมพูชา ตายหลักพันมาจนถึงวันนี้
เรื่องราวของท่านหากจะเรียกว่ามีมารผจญย่อมไม่แปลก เพราะใครที่ทำบุญไว้มากๆ มีบารมีสูงติดตัวมา มารย่อมจะขัดขวางให้บุคคลผู้นั้นล้มเลิกการสร้างบุญสร้างกุศลไป อย่างไรก็ตาม พี่กุ้งก็ยังคงมีที่พึ่งทางใจ มีศรัทธาในใจและเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา ท่านจึงแยกแยะออกว่าสิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว
"บิ๊กเล็ก" พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์
แม้จะเป็นที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็ยังคงยึดมั่นในการต่อสู้กับความอยุติธรรม ด้วยบุญญาบารมีที่ท่านได้ทำไว้ควบคู่ไปกับการใช้เหตุผลในการอธิบายเพื่อสังคมคลายความสงสัย นี่คือเรื่องราวที่นำมาเล่าสู่กันฟันในวันนี้ ขณะนี้ผู้เขียนขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
Spring News
thaiarmedforce.com
Thairath TV
AMRIN TV
รด.21 ศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 2
มณฑลทหารบกที่ 24
Sompong Nondhasa
Kaewkao Keng Chuchat
ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา
pimthaionline
เรียบเรียงโดย : แดง ภูมะเขือ
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย