10 พ.ย. เวลา 10:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รายงานภาวะตลาดประจำสัปดาห์ 3 - 7 พ.ย. 2568

ภาพรวม
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง จากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่ม AI
  • Morgan Stanley, Goldman Sachs และ JP Morgan เตือนตลาดสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงพักฐาน แต่ไม่ใช่สัญญาณวิกฤติ
  • ผลประกอบการบริษัทใน S&P 500 ยังแข็งแรง กำไรเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน
  • ตลาดแรงงานเริ่มผันผวน มีการปลดพนักงานสูงสุดในรอบ 20 ปี แต่ยังเห็นการ
  • ฟื้นตัวในการจ้างงานบางส่วน
  • หุ้นกลุ่ม Health Care ได้แรงหนุนจากข้อตกลงลดราคายาลดน้ำหนัก
  • ประเด็นกฎหมายภาษีนำเข้าของทรัมป์ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ที่ราคาขึ้นมาสูงมากก่อนหน้านี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นที่แพงเกินจริง โดยดัชนี Nasdaq -3%, S&P 500 -1.6% และ Dow Jones -1.2%
  • มุมมองจากผู้บริหารธนาคารใหญ่ อย่างเช่น Morgan Stanley, Goldman Sachs และ JP Morgan ต่างเห็นตรงกันว่าตลาดหุ้นอาจมีการปรับฐานลงราว 10–20% ภายใน 1–2 ปีข้างหน้า โดยมองว่าเป็นการปรับตัวตามรอบของตลาด ไม่ใช่สัญญาณของวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน นักลงทุนชื่อดังอย่าง Michael Burry ก็ได้เปิดสถานะ Short หุ้นเทคโนโลยีบางตัว เช่น Nvidia และ Palantir สะท้อนความกังวลเรื่องราคาหุ้นที่สูงเกินจริง
  • ตลาดมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัว โดยหุ้นขนาดใหญ่เพียง 10 บริษัทของ S&P 500 คิดเป็นกว่า 40% ของมูลค่ารวมในดัชนี ทำให้ตลาดมีความเสี่ยง หากหุ้นใหญ่เหล่านี้เริ่มปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม บริษัทเหล่านี้ยังมีกำไรแข็งแกร่ง และได้รับแรงหนุนจากกระแสลงทุนใน AI รวมถึงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ Fed
  • ผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทกว่า 91% ของดัชนี ได้รายงานผลออกมาแล้ว พบว่า 82% มีกำไรดีกว่าคาด และโดยรวมมีกำไรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13% YOY สะท้อนว่าพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนยังแข็งแรง การปรับฐานของตลาดในรอบนี้จึงเป็นเพียงการปรับความคาดหวังและมูลค่าหุ้น มากกว่าการสะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจจริง
  • ตลาดแรงงานสหรัฐฯ
- ข้อมูลจาก Challenger, Gray & Christmas Inc ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางาน และให้คำปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างองค์กร บ่งชี้ว่ามีการเลิกจ้างงานกว่า 153,000 ตำแหน่ง ในเดือน ต.ค. สูงสุดในรอบ 20 ปี ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับการนำ AI มาใช้แทนแรงงาน แต่คิดเป็นเพียง 6% ของการเลิกจ้างงานทั้งหมด
- การจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่ง สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังทรงตัว แม้มีแรงกดดันบางส่วนจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี
  • บริษัท Eli Lilly และ Novo Nordisk บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ลดราคายาลดน้ำหนักเหลือ 245 ดอลลาร์ต่อเดือน และให้ผู้ใช้สิทธิ Medicare จ่ายเพียง 50 ดอลลาร์ แลกกับสิทธิลดภาษีนำเข้าและการเร่งรัดอนุมัติยาใหม่ ซึ่งจะเปิดทางให้ประชาชนกว่า 40 ล้านคนเข้าถึงยาได้มากขึ้น ถือเป็นข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งบริษัทและผู้บริโภค
  • ประเด็นกฎหมายการค้าของทรัมป์ ศาลสูงสหรัฐฯ มีแนวโน้มไม่เห็นด้วยกับการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจเก็บภาษีนำเข้าภายใต้กฎหมาย IEEPA แต่หากทรัมป์แพ้คดีก็ยังสามารถใช้ช่องทางอื่นตามกฎหมายการค้าได้ แม้จะมีข้อจำกัดมากกว่า จึงยังต้องติดตามผลการตัดสินอย่างเป็นทางการต่อไป
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2% จากสัปดาห์ก่อน หลัง OPEC+ มีมติเพิ่มการผลิตเล็กน้อยในเดือน ธ.ค. แต่จะชะลอการเพิ่มเพิ่มเติมในช่วงต้นปีหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำมันล้นตลาด
คำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา