Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Net Zero Techup
•
ติดตาม
10 พ.ย. เวลา 10:01 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🌊 กรุงเทพฯ น้ำท่วม "เพราะโลกร้อน" หรือ “ล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำ" ?
กรุงเทพมหานครกำลังเผชิญปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเกือบทุกปี ทั้งจากฝนตกหนักในฤดูฝน น้ำเหนือที่ไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา และน้ำทะเลหนุนจากภาวะโลกร้อน หลายพื้นที่จึงกลายเป็น “เมืองบาดาลชั่วคราว” ระบบคมนาคมหยุดชะงัก เศรษฐกิจและชีวิตผู้คนถูกกระทบซ้ำแล้วซ้ำอีก
🏙 นอกจากนี้ การเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็วโดยขาดการวางผังเมืองที่มีประสิทธิภาพ ทำให้พื้นที่ซึมน้ำลดลง และขยะล้นระบบระบายน้ำ ทำให้คลองอุดตัน น้ำไม่สามารถไหลออกสู่แม่น้ำได้ทัน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้กรุงเทพฯ น้ำท่วมหนักและยาวนาน
🌍 วิเคราะห์ Case Study ต่างประเทศ เทียบกับไทย
✅️ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 1–3 เมตร รับทั้งน้ำเหนือ ฝนหนัก และน้ำทะเลหนุน ฝนเฉลี่ย 1,500–1,700 มม./ปี ซึ่งสูงกว่าหลายเมืองในยุโรป น้ำท่วมจึงเกิดซ้ำซากจากทั้งธรรมชาติและการบริหารจัดการเมือง
✅️ Rotterdam, เนเธอร์แลนด์
ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง ระดับต่ำ 0–5 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่อยู่ปากแม่น้ำ Maas กับ Nieuwe Maas เมืองนี้ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนและพายุลมแรง แต่ไม่มีน้ำจากต้นน้ำใหญ่เหมือนกรุงเทพฯ ปริมาณฝนเฉลี่ยปีละ 850 มม. จึงจัดการน้ำได้ง่ายกว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์พัฒนา “ระบบเขื่อน และ Barrier Gate” ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน
✅️ Eindhoven, เนเธอร์แลนด์
อยู่ในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 18–20 เมตร มีแม่น้ำ Dommel และแม่น้ำเล็กไหลผ่าน ปริมาณน้ำจากต้นน้ำมีน้อย ไม่มีอิทธิพลจากน้ำทะเล ฝนเฉลี่ย 826 มม./ปี จึงแทบไม่มีปัญหาน้ำท่วมรุนแรง ระบบจัดการน้ำมุ่งเน้นการเก็บกักน้ำฝน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง
✅️ Copenhagen, เดนมาร์ก
ตั้งอยู่ระดับต่ำ 1–10 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีแม่น้ำเล็กหลายสาย น้ำจากต้นน้ำไม่มาก แต่มีผลจากน้ำทะเลหนุน ฝนเฉลี่ย 600–750 มม./ปี เมืองนี้ใช้กลยุทธ์ “Cloudburst Management Plan” หลังจากเหตุการณ์ฝนตกหนักปี 2011 สร้างระบบ Green Roof, Retention Park และ อุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่เพื่อรองรับฝนเฉียบพลัน
✅️ Wuhan, จีน
ตั้งอยู่ใจกลางลุ่มน้ำ Yangtze และ Han River มีระดับพื้นที่ 20–25 เมตรจากระดับน้ำทะเล รับน้ำจากต้นน้ำมหาศาลแต่ไม่มีน้ำทะเลหนุน ปริมาณฝนเฉลี่ย 1,269–1,485 มม./ปี ใช้แนวคิด “เมืองฟองน้ำ (Sponge City)” เน้นฟื้นฟูบึง หนองน้ำ และสวนรับน้ำให้สามารถกักน้ำในฤดูฝนและปล่อยในฤดูแล้ง
✅️ Guangzhou, จีน
มีระดับต่ำ 1–10 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Pearl River และรับน้ำจากต้นน้ำขนาดใหญ่ มีผลจากน้ำทะเลหนุน และฝนเฉลี่ยสูงถึง 1,682 มม./ปี ใกล้เคียงกรุงเทพฯ เมืองนี้จึงพัฒนา “ระบบระบายน้ำบูรณาการ” รวม Green Infrastructure กับ Smart Drainage และ Digital Twin เพื่อควบคุมการระบายน้ำแบบเรียลไทม์ พร้อมฟื้นฟูคลองและแม่น้ำให้ทำหน้าที่ทั้งกักเก็บและระบายน้ำ
💦 เบื้องต้น จะพบว่า Guangzhou มีลักษณะภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกรุงเทพฯ ที่สุดเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ และพิสูจน์แล้วว่า “การจัดการน้ำแบบครบวงจร” สามารถลดความเสียหายจากน้ำท่วมในเมืองใหญ่ได้จริง
🎯 แนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมของ Guangzhou
1️⃣กำหนดเป้าหมายชัดเจน + Green & Gray Infrastructure
● Guangzhou ตั้งเป้าหมายควบคุมน้ำฝน ราว 70% ของปริมาณน้ำฝนประจำปี และในเขตเมืองกลางควบคุมได้ประมาณ 60% ของการออกแบบ
● ใช้โครงสร้าง “Gray” เช่น ท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ อ่างเก็บน้ำใต้ดิน ร่วมกับ “Green” เช่น ถนนซึมน้ำ, หลังคาเขียว, สวนรับน้ำ เป็นต้น
2️⃣ การวางผังเมืองโดยใช้ข้อมูลภูมิศาสตร์และระบบเตือนภัย
● ใช้ระบบ GIS / Remote Sensing เพื่อจำแนกพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมตามลุ่มน้ำและพิกัดภูมิประเทศ เป็นฐานในการวางผังและควบคุมพื้นที่
● ตั้งเป้าว่าในบางพื้นที่ของเมืองจะต้องรองรับสถานการณ์ฝนตกหนัก เช่น เกาะ Xiaoguwei ใน Guangzhou
3️⃣ พื้นที่เก็บน้ำและระบบชะลอน้ำ (Storage & Retention)
● ฟื้นฟูแม่น้ำ/คลองและพื้นที่เชิงธรรมชาติให้ทำงานเป็น “บ่อพัก” น้ำฝน & น้ำหลาก
● ใช้พื้นที่ใต้ดินและโครงสร้างกักเก็บน้ำให้สามารถรองรับน้ำหลากได้
4️⃣ การจัดการพื้นผิวเมืองและลดพื้นที่ไม่ซึมน้ำ
● ลดพื้นที่คอนกรีตและเพิ่มพื้นที่ซึมน้ำ เช่น หลังคาเขียว ถนนซึมน้ำ ซึ่งช่วยลดการไหลบ่าของน้ำทันที
● แนวคิด “เมืองฟองน้ำ (Sponge City)" ที่สามารถ ดูดซับ กักเก็บ กรอง และปล่อยน้ำฝนอย่างเป็นธรรมชาติ
5️⃣ บูรณาการระบบระบายน้ำอัจฉริยะ
● ใช้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจฝน/ระดับน้ำแบบเรียลไทม์ และควบคุมท่อ/ประตูระบายน้ำให้เป็นระบบตอบสนองเร็ว
● ต่อยอดด้วยการวางแผนพื้นฐานให้รองรับ “เหตุการณ์ฝนตกหนัก” และ “น้ำทะเลหนุน” ได้พร้อมกัน
💡 ดังนั้น ตัวอย่าง Guangzhou แสดงให้เห็นว่า การบริหารน้ำอย่างครบวงจรสามารถลดผลกระทบและปรับปรุงคุณภาพชีวิตคนเมืองได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่กรุงเทพฯ สามารถปรับใช้ได้จริง
🇹🇭 กรุงเทพฯ ไม่จำเป็นต้องสร้างเขื่อนสูงขึ้น แต่ต้องสร้างระบบที่ชาญฉลาดขึ้น “อยู่กับน้ำ ไม่ใช่สู้กับน้ำ” คือแนวทางที่ทำให้เมืองใหญ่รอดจากโลกร้อนและความล้มเหลวของการบริหารจัดการน้ำ
🚩 แหล่งที่มา:
●
https://link.springer.com/article/10.1007/s13753-024-00566-6
●
https://www.preventionweb.net/publication/urban-flood-mitigation-strategies-coupled-gray-green-measures-case-study-guangzhou-city
●
https://www.eea.europa.eu/en/analysis/publications/urban-adaptation-in-europe
●
https://documents1.worldbank.org/curated/en/099103024104538193/pdf/P1795931fefb19013187fa16db0b0d5cc3b.pdf
#NetZeroTechup #NetZero #GlobalWarming #SpongeCity #Bangkok #Flooding
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย