11 พ.ย. เวลา 03:31 • หุ้น & เศรษฐกิจ

บทบาทของงานวิจัยเพื่อการพัฒนานโยบายสาธารณะในตลาดทุนไทย

โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารที่มีจำนวนมากและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจในเชิงนโยบายจำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมากกว่าแค่ประสบการณ์หรืออารมณ์ความรู้สึก งานวิจัยจึงเป็นเครื่องมือสำคัญทำให้สามารถเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ และเป็นจุดตั้งต้นในการวิเคราะห์คาดการณ์แนวโน้มใน
อนาคตได้อย่างสมเหตุสมผล นำไปสู่การตัดสินใจกำหนดนโยบายโดยมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจนรองรับ
ในฐานะผู้กำหนดนโยบายในตลาดทุน ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับการใช้งานวิจัยเพื่อประกอบการทำนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ของตลาดทุนในปัจจุบันมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งยังมีความซับซ้อนมากขึ้น รวมทั้งตลาดทุนมีผู้เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนที่อาจต้องการได้รับการตอบสนองแตกต่างกัน เช่น ผู้ลงทุน
ผู้ประกอบธุรกิจ บริษัทที่ระดมทุน เป็นต้น
การกำหนดนโยบายจึงต้องอาศัยข้อมูลและการศึกษาวิจัยรองรับเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ฉากทัศน์ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถขับเคลื่อนนโยบายตามที่คาดการณ์ล่วงหน้า ได้อย่างสมเหตุสมผล สอดคล้องกับสถานการณ์จริง มีประสิทธิภาพและโปร่งใส ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนและผู้ร่วมตลาด
นอกจากนี้ การส่งเสริมการทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนยังช่วยสร้างนวัตกรรมหรือองค์ความรู้ที่ทำให้เข้าใจปรากฎการณ์และพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล และวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายทั้งในด้านบวกและด้านลบของกฎเกณฑ์และนโยบายต่าง ๆ ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นกลไกสำคัญที่จะนำไปต่อ
ยอดพัฒนาและผลักดันให้ตลาดทุนเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
ก.ล.ต. จึงได้จัดงานสัมมนาวิชาการ SEC Capital Market Symposium อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผลิตและเผยแพร่ผลงานวิจัยด้านตลาดทุนไปสู่ภาคสาธารณะในวงกว้าง โดยในปี2568 มีผู้ส่งผลงานวิจัยเข้ามาเป็นจำนวนมากจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจในการใช้ฐานข้อมูลตลาดทุน
ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ใหม่ๆ เพื่อสร้างงานวิจัยที่ทันสถานการณ์และตอบโจทย์ตลาดทุนยุคดิจิทัล
งานสัมมนาวิชาการด้านตลาดทุนประจำปี 2568 “SEC Capital Market Symposium 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 จึงมุ่งให้ความสำคัญกับประเด็นในการนำเสนองานวิจัยที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เข้มข้นทั้งด้านการกำกับดูแลและการพัฒนาส่งเสริมความยั่งยืน โดยมีการนำเสนองานวิจัยใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) ด้าน SupTech for Enhancing Governance and Risk-based Supervision
งานวิจัยที่สะท้อนบทบาท Supervisory Technology และการวิเคราะห์ปัจจัยความเสี่ยงจากข้อมูลเชิงคุณภาพของกิจการในการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล รวมถึงการใช้ AI ช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบงานวิจัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการตัดสินใจเชิงนโยบาย 2) ด้าน Sustainability: From Compliance to Competitive Advantage งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็น New Normal ของตลาดทุนทั่วโลก
และ 3) ด้าน Policy Design toward Fair Market งานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่จะช่วยลดต้นทุนสำหรับผู้ลงทุน และการศึกษาตัวชี้วัดด้านความเป็นธรรมของตลาดทุนไทย ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย
นอกจากนี้ในงานสัมมนายังมีการเสวนาในหัวข้อ “Tokenization and the Next Wave of Capital Market Innovation” เพื่อรับฟังมุมมองจากผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับความพร้อมของตลาดทุนไทยต่อเทคโนโลยี Tokenization ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจทั่วโลก เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง ก.ล.ต. สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดทุน เพื่อเป็นการรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยที่น่าสนใจซึ่งได้เคยมีการนำเสนอในแต่ละปีที่ผ่านมา รวมถึงรายละเอียดหัวข้องานวิจัยในงานสัมมนาวิชาการด้านตลาดทุนประจำปี 2568 สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ก.ล.ต. หัวข้อ SEC Working Paper https://www.sec.or.th/TH/Pages/MarketData/sec_wpf.aspx
และสามารถติดตามชมงานสัมมนาผ่าน Facebook Live ได้ที่เพจ สำนักงาน กลต.
โฆษณา