13 พ.ย. เวลา 01:27 • หนังสือ

Life Begins at Forty.

สักหมื่นปีก่อน อายุของมนุษย์คือราว 25-30 ปี ใครอยู่ถึง 30 ถือว่าเก่ง
ในนิยายรักสมัยวิคทอเรียน ตัวละครหญิงคุยกัน ชายอายุ 40 ถือว่าเป็นวัยชรา ไม่มีหญิงใดอยากแต่งงานด้วย
และไม่มีใครคาดว่าวันหนึ่ง จะมีคนบอกว่า "Life Begins at Forty."
Life Begins at Forty เป็นชื่อหนังสือปี 1932 ของ วอลเทอร์ บี. พิตกิน ในเวลานั้นอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์คือ 60 ตอนนั้นอายุ 40 ถือว่าเป็นวัยชรา แต่เมื่อวิทยาการการแพทย์ดีขึ้น คุณภาพชีวิตคนดีขึ้น อายุเฉลี่ยสูงขึ้น ดังนั้น 40 จึงไม่ใช่วัยชราอีกต่อไป มันเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก
ตัวเลข 40 กลายเป็น ‘new normal’ ของชีวิต
แต่ความหมายที่เราใช้กันตอนนี้คือ คนเราเมื่ออายุถึงเลข 4 ชีวิตของเขาหรือเธอจะดีขึ้น เพราะมีเงินมากขึ้น มีประสบการณ์ชีวิตดีขึ้น
1
เราเกิดมาเป็นทารก เติบโตเป็นเด็ก วิ่งเล่น เรียนหนังสือ จนโตเป็นหนุ่มสาว และเริ่มทำงาน ในวัยหนุ่มสาว สามารถตั้งครอบครัวมีลูกได้ แต่อาจไม่ทุกคนที่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร หรือไม่แน่ใจว่าเกิดมาทำไม
1
ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่ต้องโตจนถึงวัยหนึ่ง มีประสบการณ์ชีวิตมากพอ จึงเริ่มรู้ว่าจะไปทางไหน ในความหมายนี้ อายุ 40 น่าจะเป็นวัยดังกล่าว
forty จึงมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์มากกว่าความหมายตรงคำเป๊ะว่า พออายุ 40 ก็เข้าใจโลกเลย
1
forty ของบางคนอาจมาก่อน ของบางคนอาจมาหลัง 40
และ forty ของบางคนอาจไม่เคยมาถึงเลย
ในจุด forty เราเริ่มรู้ว่าชีวิตคืออะไร ทำไมโลกเลื่อนไหลไปอย่างที่เป็น เรากำลังทำอะไรอยู่ มีความหมายมากกว่าที่เรากำลังทำอยู่หรือไม่ มันเป็นจุดที่ทำให้เราเริ่มครุ่นคิด และเมื่อรู้ว่าจะไปทางไหน ก็อาจมีความสุขในชีวิตมากขึ้น
1
พูดง่าย ๆ คือเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ
ประสบการณ์ชีวิต ณ จุด forty ชี้ให้เราเห็นว่า อย่าซีเรียสกับชีวิตนัก ชีวิตมีทางไปมากกว่าหนึ่งทางเสมอ และไม่มีสูตรสำเร็จ ชีวิตเต็มไปด้วยการพลิกแพลงเสมอ
1
แต่เราจะคิดอย่างนี้ได้ ก็ต้องผ่านประสบการณ์หลากหลาย
ชีวิตก็คือการห่วงโซ่ของเหตุการณ์ บางคนใช้มันเป็นประสบการณ์ บางคนไม่ได้เรียนรู้อะไร
ถ้าเรียนรู้ เปลี่ยนประสบการณ์เป็นปัญญา อายุ 40 ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น
ท่อนหนึ่งจาก กอดหนาม
51 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 260 บาท = บทความละ 5 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
โฆษณา