13 พ.ย. เวลา 15:45 • ยานยนต์

เปิดตัว Toayota Hilux Travo ใหม่:พลิกโฉมดีไซน์ "Cyber Sumo"พร้อมเปิดตัว"Hilux Travo-e"กระบะไฟฟ้า100%

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญให้ตลาดรถกระบะอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "Toyota Hilux Travo" อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568
การมาถึงของ Hilux Travo ในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ (Big Facelift) ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้แนวคิดการออกแบบใหม่ "Cyber Sumo" พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัว "Hilux Travo-e" ซึ่งนับเป็นรถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) รุ่นแรกของ Toyota ที่จะจำหน่ายในประเทศไทย
บทความนี้จะสรุปประเด็นสำคัญและไฮไลท์ที่น่าสนใจของ Toyota Hilux Travo ที่เพิ่งเปิดตัว
1. ดีไซน์ภายนอก "Cyber Sumo"
จุดที่เห็นชัดที่สุดคือดีไซน์ภายนอกครับ Toyota เรียกแนวคิดนี้ว่า "Cyber Sumo" ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด
• ไฟหน้า: เป็นแบบ Bi-LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟ DRL (Daytime Running Light) ที่ดูดุดันและทันสมัย
• กระจังหน้า: ดีไซน์ใหม่เป็นทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ ลวดลายแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย (เช่น รุ่น Overland จะเป็นแบบรังผึ้งสีเข้ม)
• กันชนและแก้มข้าง: ออกแบบใหม่ทั้งหมด ให้มิติที่ดูกว้างและบึกบึนขึ้น
• ไฟท้าย: เป็นแบบ LED Signature ดีไซน์ใหม่
• ล้ออัลลอยด์: ลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว และ 18 นิ้ว (ในรุ่น Overland)
2. ภายในห้องโดยสาร อัปเกรดใหญ่
ภายในคือการ "ปฏิวัติ" ที่ยกระดับความพรีเมียมและความสะดวกสบายขึ้นมาก
• หน้าจอคนขับ: แบบ Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว (TFT) (ในรุ่น Premium และ Overland)
• หน้าจอสัมผัสกลาง: ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
• เบรกมือไฟฟ้า (EPB): ไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย มาพร้อมฟังก์ชัน Auto Brake Hold
• ระบบปรับอากาศ: เป็นแบบอัตโนมัติ Dual Zone (แยกซ้าย-ขวา)
• พวงมาลัยและคันเกียร์: ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด (ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)
• ระบบความปลอดภัย: Toyota Safety Sense (TSS 3.0) ในรุ่นท็อป (Overland Plus) ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมความเร็วแปรผัน (ACC) และระบบ
ควบคุมความเร็วแปรผัน (ACC) และระบบช่วยเตือนก่อนชน (PCS)
3. ไฮไลท์เด็ด: "Hilux Travo-e" กระบะไฟฟ้า 100%
นี่คือก้าวที่สำคัญที่สุดของ Toyota ในตลาดกระบะไทย โดยมีรายละเอียดสเปคดังนี้:
• ระบบขับเคลื่อน: เป็นแบบ 4 ล้อ (AWD) ใช้ชื่อรุ่นว่า "4TREX"
• แบตเตอรี่: ชนิด Lithium-ion ขนาด 59.2 kWh
• ระยะทางวิ่ง: 315 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเน้นการใช้งานในเมืองและการขนส่งระยะสั้น
• การชาร์จ AC (ไฟบ้าน): หัวชาร์จ Type 2
• การชาร์จ DC (ชาร์จเร็ว): หัวชาร์จ CCS2 รองรับสูงสุด 125 kW (คาดว่าชาร์จ 10-80% ในเวลาประมาณ 30 นาที)
4. ขุมพลังดีเซล 2.8L (1GD-FTV)
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปทั้งหมด จะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในเรื่องความทนทาน
• รหัสเครื่องยนต์: 1GD-FTV (High)
• ความจุ: 2,755 ซีซี
• ระบบอัดอากาศ: VNT Turbo (เทอร์โบแปรผัน) พร้อม Intercooler
• กำลังสูงสุด: 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที
• แรงบิดสูงสุด (เกียร์อัตโนมัติ): 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที
• แรงบิดสูงสุด (เกียร์ธรรมดา): 420 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 3,400 รอบ/นาที
• ระบบส่งกำลัง: มีทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
• มาตรฐานไอเสีย: ผ่านมาตรฐาน EURO 5
5. สรุปราคาจำหน่าย Toyota Hilux Travo (เครื่องยนต์ดีเซล)
Toyota Hilux Travo เปิดตัวมาทั้งหมด 17 รุ่นย่อย โดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (1GD-FTV) ทั้งหมด โดยมีรายละเอียดราคาดังนี้
Standard Cab (ตอนเดียว)
• Standard Cab 2.8 4TREX 6MT 4WD: 767,000 บาท
• Standard Cab 2.8 4TREX 6AT 4WD: 819,000 บาท
Smart Cab (แค็บเปิดได้)
• Prerunner 2.8 Smart 6MT: 789,000 บาท
• Prerunner 2.8 Smart 6AT: 839,000 บาท
• Prerunner 2.8 Premium 6MT: 859,000 บาท
• Prerunner 2.8 Premium 6AT: 909,000 บาท
• 4TREX 2.8 Premium 6MT 4WD: 984,000 บาท
• 4TREX 2.8 Premium 6AT 4WD: 1,029,000 บาท
Double Cab (4 ประตู)
• Prerunner 2.8 Smart 6MT: 895,000 บาท
• Prerunner 2.8 Smart 6AT: 945,000 บาท
• Prerunner 2.8 Premium 6MT: 949,000 บาท
• Prerunner 2.8 Premium 6AT: 999,000 บาท
• 4TREX 2.8 Premium 6MT 4WD: 1,090,000 บาท
Double Cab (รุ่น Overland ตกแต่งพิเศษ)
• Prerunner 2.8 Overland 6AT: 1,102,000 บาท
• Prerunner 2.8 Overland Plus 6AT: 1,176,000 บาท
• 4TREX 2.8 Overland 6AT 4WD: 1,292,000 บาท
• 4TREX 2.8 Overland Plus 6AT 4WD: 1,366,000 บาท
สรุปราคา Hilux Travo-e (รุ่นไฟฟ้า)
สำหรับรุ่นกระบะไฟฟ้า 100% จะมีเพียง 1 รุ่นย่อยในตัวถัง Double Cab
• Hilux Travo-e Double Cab 4TREX (ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD): 1,491,000 บาท
บทสรุป
การเปิดตัว Toyota Hilux Travo ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญและเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ของ Toyota ที่ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนโฉมภายนอก แต่คือการ "อุดจุดอ่อน" และ "เสริมจุดแข็ง" ไปพร้อมกัน
การนำดีไซน์ "Cyber Sumo" และการปฏิวัติภายในห้องโดยสารด้วยหน้าจอ Full Digital และเบรกมือไฟฟ้า (EPB) มาใช้ แสดงให้เห็นว่า Toyota พร้อมที่จะแข่งขันในตลาดพรีเมียมอย่างเต็มตัว เพื่อสู้กับคู่แข่งที่ชิงจุดนี้ไปก่อนหน้า
ในขณะที่การคงเครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานไว้
ก็เป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่เน้นความสมบุกสมบันและความน่าเชื่อถือ ส่วนการเปิดตัว "Hilux Travo-e" ก็คือการปักธงในตลาด EV ที่ชัดเจน แม้จะเป็นเพียงก้าวแรก แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณว่า Toyota พร้อมแล้วสำหรับยุคแห่งพลังงานใหม่
การจัดทัพด้วยรุ่นย่อยมากถึง 17+1 รุ่น ครอบคลุมทุกการใช้งานและทุกช่วงราคาตั้งแต่ 7 แสนกว่าบาทไปจนถึง 1.49 ล้านบาท แสดงถึงการวางแผนที่มุ่งหวังจะครองส่วนแบ่งการตลาดในทุกมิติอย่างแท้จริง เรียกได้ว่า Hilux Travo ใหม่นี้
คือคำตอบที่ Toyota ส่งมาเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำ และพร้อมสู้ศึกในตลาดรถกระบะที่กำลังดุเดือดที่สุดในรอบหลายปีครับ
โฆษณา