14 พ.ย. เวลา 11:00 • ความคิดเห็น

พินัยกรรม 6 แบบ ที่ต้องทำให้ถูกต้องสมบูรณ์ มิเช่นนั้นจะตกเป็นโมฆะ

เมื่อเรามีทรัพย์สินเงินทองไม่ว่าจะมากหรือน้อย เชื่อว่าทุกคนคงน่าจะอยากส่งต่อทรัพย์สินให้กับลูกหลานและคนที่ตัวเองรักอย่างแน่นอน ซึ่งสามารถจัดการได้เองผ่าน "การทำพินัยกรรม" เพื่อให้ทรัพย์สินที่ครอบครองอยู่ได้ส่งต่อให้คนที่เรารักตามเจตนารมณ์ของตัวเองแบบครบถ้วน แต่ถ้าไม่ได้ทำพินัยกรรมหรือพินัยกรรมที่ทำไว้ไม่ผลบังคับตามกฎหมาย มรดกทั้งหมดจะตกแก่ทายาทโดยธรรม 6 ลำดับ
ดังนั้น การทำพินัยกรรมจึงเป็นการจัดการทรัพย์สินของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเราจากไป และยังทำให้มั่นใจได้ว่าทรัพย์สินของเราจะตกอยู่กับคนที่เราอยากส่งต่อให้เท่านั้น
พินัยกรรม 6 แบบนี้ จะมีผลบังคับตามกฎหมายเมื่อทำตามแบบอย่างถูกต้อง โดยเราสามารถเลือกทำแบบใดแบบหนึ่งก็ได้
1.พินัยกรรมแบบธรรมดา
2.พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ
3.พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง
4.พินัยกรรมแบบเอกสารลับ
5.พินัยกรรมแบบวาจา
6.พินัยกรรมแบบทำตามกฎหมายต่างประเทศ
1. พินัยกรรมแบบธรรมดา
1
- ต้องทำเป็นหนังสือ จะพิมพ์ หรือเขียนด้วยตัวเอง หรือให้ผู้อื่นทำให้ก็ได้
- ลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำ
- ลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน และให้พยาน 2 คนลงลายมือชื่อรับรองพร้อมกันต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม (พยานพิมพ์ลายนิ้วมือไม่ได้)
2. พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ
- ผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนขึ้นด้วยลายมือตัวเองทั้งหมดทั้งฉบับ
- ลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำ
- ลงลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรม โดยไม่จำเป็นต้องมีพยาน
3. พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง
1
- ผู้ทำพินัยกรรมไปที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ แจ้งข้อความที่ต้องการใส่ในพินัยกรรมแก่เจ้าหน้าที่และพยานอย่างน้อย 2 คน พร้อมกัน โดยนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตเป็นผู้จัดทำให้
- เจ้าหน้าที่จดข้อความตามที่ได้รับแจ้ง และอ่านข้อความให้ผู้ทำพินัยกรรมกับพยาน 2 คนฟัง เมื่อเห็นว่าถูกต้องครบถ้วน ผู้ทำพินัยกรรมและพยาน 2 คนลงลายมือชื่อ
- พินัยกรรมฉบับนี้จะสมบูรณ์ต่อเมื่อ ข้อความที่จดต้องมีลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ที่จด ใส่วันเดือนปีที่จด และเขียนรับรองพินัยกรรมได้ทำขึ้นถูกต้องพร้อมประทับตราประจำตำแหน่งไว้
1
4. พินัยกรรมแบบเอกสารลับ
- ผู้ทำพินัยกรรมเขียนหรือพิมพ์เอง หรือให้ผู้อื่นทำให้ก็ได้ แล้วลงลายมือชื่อตัวเอง
- ใส่ซองปิดผนึก พร้อมทั้งลงลายมือชื่อตรงรอยผนึก
1
- นำพินัยกรรมที่ผนึกไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ พร้อมพยานอย่างน้อย 2 คน
- แจ้งต่อนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตเพื่อบันทึกไว้บนซองเอกสาร โดยให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงลายมือชื่อไว้บนซองและประทับตราตำแหน่ง และให้นายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตเก็บรักษาไว้
5. พินัยกรรมแบบวาจา
- ผู้ต้องการทำพินัยกรรมจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กฎหมายกำหนดได้เท่านั้น เช่น อยู่ในที่อันตราย และ/หรือ ใกล้ตาย
- ทำพินัยกรรมด้วยวาจา โดยแจ้งข้อความที่ต้องการในพินัยกรรมต่อหน้าพยานที่อยู่ตรงหน้าอย่างน้อย 2 คน
- พยานทั้งหมดไปที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอโดยไม่ชักช้า และแจ้งข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมสั่งไว้ด้วยวาจา พร้อมทั้งแจ้งวัน เดือน ปี และสถานที่ทำพินัยกรรม รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
- เจ้าหน้าที่จดข้อความที่ได้รับแจ้ง และให้พยานที่มาแจ้งลงลายมือชื่อ (ถ้าลงลายมือชื่อไม่ได้ จะลงลายพิมพ์นิ้วมือแทนได้)
6. พินิยกรรมแบบทำตามกฎหมายต่างประเทศ
- กรณีที่คนไทยอยู่ต่างประเทศและต้องการทำพินัยกรรม สามารถเลือกได้ว่า จะทำตามแบบของกฎหมายประเทศที่ตนอยู่ก็ได้ หรือจะทำแบบของกฎหมายไทยก็ได้
- หากทำตามแบบกฎหมายไทย ให้อำนาจหน้าที่ดังกล่าวเป็นของพนักงานทูตหรือกงสุลฝ่ายไทย หรือพนักงานที่มีอำนาจตามกฎหมายของประเทศที่ทำพินัยกรรม เป็นผู้รับบันทึกข้อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก็ได้
สำหรับผู้ที่สามารถทำพินัยกรรม จะต้องมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ หากบรรลุนิติภาวะเพราะการสมรส สามารถทำพินัยกรรมและมีผลสมบูรณ์ได้เช่นกัน รวมถึงต้องเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่ใช่บุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
นอกจากนี้ หากเราทำพินัยกรรมไปแล้ว แต่อยากเพิกถอนพินัยกรรมของตัวเอง ก็สามารถทำได้เช่นกันโดย
- ทําพินัยกรรมฉบับใหม่ มาเพิกถอนพินัยกรรมฉบับก่อนๆ
- กรณีทำพินัยกรรมไว้หลายฉบับ และเนื้อหาในฉบับก่อนขัดกับฉบับหลัง ให้ยึดตามพินัยกรรมฉบับหลัง - - สามารถทําลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรม ด้วยความตั้งใจ
- สามารถ โอน/ขาย/ทําลาย ทรัพย์สินนั้น ด้วยความตั้งใจ
1
โฆษณา