Nbis CRWV ใครพลิกกำไรก่อน👏👏👏
เมื่อดูงบ Q3’25 แบบตรงไปตรงมา📌📌
1) รายได้ (Revenue)
• CoreWeave: 1,364.7 ล้านดอลลาร์ (+134% YoY)
• Nebius: 146.1 ล้านดอลลาร์ (+355% YoY)
แม้ NBIS โต % สูงกว่า แต่ฐานรายได้ยังเล็กมากเมื่อเทียบกับต้นทุนถาวร
2) Net margin (หลังหักค่าเสื่อมแล้ว)
นี่คือจุดสำคัญที่สุด เพราะ EPS = Net income
• CoreWeave: –8%
• Nebius: –81%
CRWV ใกล้พลิกกำไรมากกว่าอย่างชัดเจน
3) ค่าเสื่อม (Depreciation & Amortization)
คิดเป็น % ของรายได้ → เป็นตัวกดกำไรโดยตรง
• CoreWeave: 630.5 ล้านดอลลาร์ (≈46% ของรายได้)
• Nebius: 99.0 ล้านดอลลาร์ (≈68% ของรายได้)
NBIS โดนค่าเสื่อมกินรายได้สูงกว่า ทำให้ GAAP พลิกยากกว่า
4) EPS / Net income trend (YoY)
• CoreWeave: EPS ฟื้นตัวดีขึ้นราว +75% YoY
• Nebius: EPS ไม่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (≈0%)
CRWV ลดระยะห่างจากการขาดทุนเร็วกว่า
5) ความสามารถสร้างกำไรจากธุรกิจหลัก (Adj. EBITDA)
ไม่ใช่กำไรสุทธิ แต่ใช้ดูแรงผลักดันก่อนโดนค่าเสื่อม
• CoreWeave: +838.1 ล้าน
• Nebius: –5.2 ล้าน (เกือบ break-even)
CoreWeave มี “แรงส่ง” ก่อนโดน D&A มากกว่าอย่างเด่นชัด
❤️❤️❤️โดยให้ข้อสังเกตุว่าเราสามารถดูค่าเสื่อม
ได้จาก EPS growth และ
Net margin โดยตรง
เพราะ ได้ถูกหัก Depreciation ค่าเสื่อมแล้ว
ข้อควรระวัง
- 1.CRWV อาจมีการปรับจากค่าเสื่ิิอม จาก 5ปีเป็น7ปี ทำให้ตัวเลขสวยขึ้น
- 2.CRWV เน้นโตจากหนี้ Nbis เน้นโตจากการเพิ่มทุน+Premium fee 50%
- 3.Nbis มีปัจจัยFundamental พิเศษอื่น เช่น Tokenization, การลดcostค่าไฟ, clickhouse,Toloka, Avride,TripleTen
ผมว่าท้ายสุดยังไม่ใช่ข้อสรุป
แต่ไม่ว่าจะค่าเสื่อม หรือ ดอกเบี้ย
EPS growth และ Net margin
สามารถ บอกได้ทุกอย่าง
ว่าใครกำลังนำหน้าใครในด้านงบการเงิน
โดยสามารถใช้หลักการนี้ได้กับ Hyperscale เจ้าอื่นๆเช่นกัน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
