3 ชั่วโมงที่แล้ว • การเกษตร

💥 ข้าวไทยวิกฤต! ทำไมราคาข้าวเปลือกถึงตกต่ำที่สุดในรอบ 18 ปี จนแทบไม่เหลือ “กำไร” ให้ชาวนา?

ในฐานะคนไทย เราทุกคนคุ้นเคยกับข้าวในชีวิตประจำวัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า ขณะที่คุณกำลังทานอาหารจานโปรด ราคา ข้าวเปลือก ที่ชาวนาปลูกกำลังดิ่งลงสู่จุดที่น่าตกใจที่สุดในรอบเกือบสองทศวรรษ!
สถานการณ์ล่าสุดที่ราคาข้าวเปลือกบางชนิดลดเหลือเพียง 6,200 บาทต่อตัน (ในขณะที่บางพื้นที่ต่ำกว่า 5,000 บาท/ตัน นั่นแสดงว่าชาวนาในพื้นที่นั้น ขาดทุน! หรือไม่มีรายได้ใดๆ จากการปลูกข้าว) นั้น ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ของชาวนาส่วนใหญ่เสียอีก นี่คือวิกฤตที่ไม่ได้กระทบแค่เกษตรกร แต่กำลังสั่นสะเทือนเสถียรภาพอาหารของชาติ
ครั้งนี้จะพาคุณไปเจาะลึกสาเหตุที่ซับซ้อน ตั้งแต่ตลาดโลกถึงนโยบายในประเทศ และทำไมราคาข้าวไทยถึงถูก และมีราคาสูงกว่าข้าวของพม่า ที่มีราคาต่ำที่สุดในโลก
1. 🌾 สาเหตุหลัก: "อุปทานล้นโลก" และการแข่งขันราคาที่รุนแรง
การที่ราคาข้าวตกต่ำจนทำสถิติในรอบ 18 ปี ไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เป็นการรวมตัวของหลายปัจจัย ทั้งในและนอกประเทศ
➡ ปริมาณผลผลิตในประเทศพุ่งสูง
👉 แม้ว่าจะมีปัญหาภัยแล้งในบางช่วง แต่สภาพอากาศโดยรวมในฤดูนาปีและนาปรังที่ผ่านมาเอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตข้าวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อข้าวออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก จึงเกิดภาวะ อุปทานล้นตลาด (Over Supply) กดดันให้ราคาในประเทศลดลง
➡ การกลับมาของอินเดีย
👉 อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการส่งออกข้าว ทำให้มีปริมาณข้าวขาวเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และเป็นตัวการสำคัญที่ กดดันราคาส่งออก ของทุกประเทศคู่แข่งรวมถึงไทย
➡ ถูก "พม่า" ทิ้งห่างด้านราคา
👉 ปัจจุบัน ราคาข้าวไทยกำลังถูกกดดันจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าคู่แข่งหลัก ๆ และเหลือเพียงไม่กี่ก้าวที่จะไปถึงระดับราคาของ เมียนมา (พม่า) ซึ่งมีต้นทุนการผลิตและราคาเสนอขายต่ำที่สุดในโลก เนื่องจากมีต้นทุนแรงงานที่ถูกมาก การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ทำให้ไทยต้องยอมลดราคาเพื่อรักษาตลาด
2. 🌽 ปัจจัยซ้ำเติม: นโยบาย "นำเข้าเสรี" ธัญพืชอื่น ๆ
นอกจากการแข่งขันในตลาดข้าวแล้ว นโยบายการนำเข้าธัญพืชอื่น ๆ ที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อราคาข้าวเปลือกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กันเลยทีเดียว
➡ การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปลอดภาษี (ภาษี 0%)
👉 ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มีการนำเข้าธัญพืชอื่น ๆ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากต่างประเทศในอัตรา ภาษี 0% ในโควตาพิเศษ (เช่น เพื่อลดต้นทุนอาหารสัตว์ หรือใช้ในการเจรจาทางการค้า)
👉 ผลกระทบ: เมื่อมีข้าวโพดราคาถูกเข้าตลาดเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ มันจะเข้าไป แทนที่ สินค้าต่อเนื่องจากข้าว เช่น ปลายข้าว และ รำข้าว ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในสูตรอาหารสัตว์ ส่งผลให้ความต้องการและราคารับซื้อปลายข้าว/รำข้าวลดลง เมื่อราคาผลิตภัณฑ์พลอยได้เหล่านี้ตกต่ำ จึงไป กดดันราคารับซื้อข้าวเปลือกโดยรวม ให้ต่ำลงตามไปด้วย
➡ กรอบกฎหมายและผู้มีอำนาจตัดสินใจ
👉 กรอบการเปิดตลาดและการลดภาษี (เช่น ภายใต้ WTO ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 และ FTA ต่าง ๆ ที่ลงนามตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา) ถูกใช้ต่อเนื่องมาหลายรัฐบาล แต่การอนุมัติโควตาพิเศษและการลดภาษีเฉพาะกิจ (0%) มักเป็นมติของ คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ที่บริหารประเทศอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ
3. 🚨 ผลกระทบทางสังคม: วิกฤต “หนี้สิน” และ “ความมั่นคงทางอาหาร”
สถานการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขทางเศรษฐศาสตร์ แต่เป็นวิกฤตของคนหลายล้านคนในสังคมไทย
➡ ชาวนาขาดทุนหนัก: เมื่อราคาข้าวเปลือกต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น (จากราคาปุ๋ยและปัจจัยการผลิตอื่นๆ ที่แข่งกันขึ้นราคา) ชาวนาจึงประสบภาวะ ขาดทุน และ เป็นหนี้ อย่างรุนแรง ซึ่งกระทบต่อความเป็นอยู่และโอกาสทางการศึกษาของลูกหลานเกษตรกร
➡ ความมั่นคงทางอาหาร: หากเกษตรกรไม่สามารถอยู่รอดได้ อาจนำไปสู่การเลิกปลูกข้าว หรือการเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อ ความมั่นคงทางอาหาร ของประเทศได้ เนื่องจากการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะย้อนกลับมาส่งผลต่อราคา (ถ้าหากแห่กันไปปลูกพืชชนิดใดชนิดหนึ่งมากๆ ก็จะทำให้ผลผลิตล้นตลาด ราคาตกอีก)
➡ คำถามถึงผู้บริโภค: เมื่อคุณเห็นราคาข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้ลดลงมากนัก แต่ราคาข้าวเปลือกตกต่ำจนน่าใจหาย ส่วนต่างของราคานี้ไปอยู่ที่ไหนกันหล่ะ? นายทุนตลาดข้าวไหม? นี่คือคำถามที่เราในฐานะผู้บริโภคควรตั้งคำถามและติดตามการแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด
ภาพสะท้อนความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และความจริงใจในการร่วมกันแก้ปัญหา
💡 ทางออกคือการ "เพิ่มมูลค่า"
➡ การแก้ไขวิกฤตนี้ต้องใช้มาตรการระยะสั้นในการพยุงราคา และมาตรการระยะยาวในการ ยกเครื่องโครงสร้างข้าวไทย โดยเน้นไปที่การ เพิ่มมูลค่า (Value-Added) ข้าวเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เช่น ข้าวพื้นนุ่ม ข้าว GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) และข้าวสุขภาพ แทนการแข่งขันด้วยราคาในกลุ่มข้าวขาวที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น
คุณคิดว่าภาครัฐควรมีมาตรการเร่งด่วนอะไรเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตราคานี้ได้บ้าง? ร่วมกันแสดงความติดเห็นเผื่อจะสะท้อนไปสู่สื่อใหญ่ๆ บ้าง 👇
โฆษณา