Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สารพันความรู้
•
ติดตาม
18 พ.ย. เวลา 01:00 • ไลฟ์สไตล์
เมืองหินใต้ดินที่ถูกสาป – ตำนานนครสูญหายแห่งคำม่วน
บริเวณแขวงคำม่วนของประเทศลาว เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องป่าเขา ถ้ำหินปูน และภูมิประเทศคดเคี้ยวซับซ้อนจนได้รับฉายาว่า “ดินแดนอันลึกลับแห่งลุ่มน้ำโขง” จากนักสำรวจชาวยุโรปในยุคอาณานิคม ทว่าลึกลงไปในภูเขาและหน้าผาอันเวิ้งว้าง มีตำนานหนึ่งที่คนลาวเล่าต่อกันมาเป็นร้อยปี—ตำนานเกี่ยวกับ “เมืองหินใต้ดินที่ถูกสาป” เมืองโบราณที่จมหายลงไปใต้ภูผา ไม่มีใครพบเจออีกเลย ยกเว้นผู้เฒ่าผู้แก่ไม่กี่คนที่ยังยืนยันว่า “มันเคยมีอยู่จริง”
บทความนี้จะพาคุณดำดิ่งเข้าสู่ความลี้ลับของตำนานนี้แบบครบทุกด้าน ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ล้านช้าง โบราณคดี ภูมิศาสตร์ของคำม่วน การเล่าผีสางของชาวบ้าน ไปจนถึงการตีความแบบวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อค้นหาว่า เมืองใต้ดินที่ถูกสาปนี้เป็นเพียงตำนาน หรือเป็นร่องรอยของอารยธรรมจริงที่รอการค้นพบ
1. คำม่วน – ดินแดนแห่งถ้ำหินปูนและเส้นทางลับใต้ภูผา
คำม่วนตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศลาว มีพรมแดนติดกับไทยฝั่งนครพนม ลักษณะภูมิประเทศโดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนรูปทรงประหลาด ถ้ำลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด และแม่น้ำไหลใต้ดินที่ขุดกัดหินเป็นเวลาหลายล้านปี
ที่นี่เป็นที่ตั้งของถ้ำชื่อดังหลายแห่ง เช่น
ถ้ำกองลอ (Konglor Cave) ยาวกว่า 7 กิโลเมตร
ถ้ำผาสี ลึกจนไม่มีใครสำรวจถึงปลายทาง
ระบบถ้ำย่อยอีกหลายร้อยแห่งที่ยังไม่มีชื่อ
นักธรณีวิทยาเรียกพื้นที่คำม่วนว่า “สวรรค์ของภูเขาคาร์สต์” เพราะภูเขาหินปูนสลักตัวเองเป็นโพรงและอุโมงค์ตามการกัดเซาะของน้ำ สิ่งที่พิเศษกว่านั้นคือ—มีบางถ้ำที่ไม่ใช่แค่ “โพรงธรรมชาติ” แต่มีลักษณะเหมือน อาคารหรือโถงมนุษย์สร้าง จนทำให้นักสำรวจบางคนเชื่อว่า อาจมีอารยธรรมโบราณตั้งอยู่ใต้ดินอย่างแท้จริง
2. ตำนานเมืองหินใต้ดินที่ถูกสาป – รากมาจากไหน?
ตำนานพื้นบ้านลาวเล่าตรงกันว่า เมืองหินใต้ดินแห่งนี้มีชื่อว่า “เมืองลับแลคำบ่อ” หรือบางแห่งเรียกสั้น ๆ ว่า “เมืองหิน” เป็นนครของชนเผ่าลาวโบราณที่อาศัยอยู่ก่อนยุคล้านช้าง
ในคำบอกเล่าของชาวบ้าน เมืองนี้มีลักษณะดังนี้:
ตั้งอยู่ ใต้ภูเขาใหญ่ มีโถงหินมหึมาราวกับห้องโถงวัง
มีกำแพงหินเรียงอย่างประณีต แม้จะลึกในภูผา
มี เสาหินสูงเหมือนเสาสุวรรณภิงคาร ของเมืองหลวงล้านช้าง
แสงส่องลงมาจาก ช่องเพดานธรรมชาติ ทำให้นครใต้ดินสว่างเหมือนยามกลางวัน
มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง ราวกับเวียงจันทน์จำลองใต้ดิน
และที่สำคัญที่สุด—เมืองนี้ถูก สาปให้จมหายในคืนเดือนมืด ไม่มีใครพบอีกเลย
ตำนานเล่าว่า เมืองลับแลคำบ่อถูกทำลายเพราะชาวเมืองละทิ้งศีลธรรม กดขี่คนจน ไม่บูชาพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ พระเฒ่าผู้เร้นกายจึงสาปให้ภูเขาปิดปากเมืองเข้าเป็นหนึ่งเดียว ผู้คนทั้งหมดถูกกลืนลงในหิน
3. เรื่องเล่าชาวบ้าน – ประตูเมืองใต้ดินที่เปิดเพียงปีละครั้ง
ตามคำเล่าของผู้เฒ่าในแขวงคำม่วน ประตูเข้าเมืองใต้ดินจะ เปิดในคืนเดือนดับหลังวันออกพรรษา เพียงหนึ่งคืนเท่านั้น เป็นลักษณะหินที่แยกตัวออกเองเหมือนประตูโบราณ เมื่อถึงรุ่งเช้าก็ปิดสนิทจนแยกไม่ออกว่าเคยเปิดมาก่อน
ชาวบ้านบางคนเล่าว่า เคยเห็นแสงสีฟ้าจาง ๆ ลอยออกจากปากถ้ำกลางภูเขาในค่ำคืนดังกล่าว และบางครั้งได้ยินเสียงคล้ายการสวดเก่าแก่ในภาษาที่ไม่ใช่ลาว ไม่ใช่ขอม เป็นภาษาโบราณที่ไม่มีใครรู้จัก
มีคนเคยเข้าไปสำรวจในช่วงเวลาดังกล่าว แต่…
ไม่มีใครกลับออกมาเลยแม้แต่คนเดียว
จึงทำให้เกิดความเชื่อว่า ประตูนี้เปิดเพื่อ “รับผู้หลงผิดไปเป็นชาวเมืองผี” มากกว่าจะเปิดให้มนุษย์เข้าไปค้นพบ
4. บันทึกนักสำรวจฝรั่งเศส – เมืองใต้ดินในเอกสารลับ ค.ศ. 1911
ในช่วงที่ฝรั่งเศสปกครองลาว มีการส่งนักสำรวจเข้าไปยังคำม่วนจำนวนมาก บันทึกของ อ็องรี เดสปาร์แตร์ (Henri Despartes) นักสำรวจชาวฝรั่งเศส กล่าวถึงโถงถ้ำที่ใหญ่ราวกับวิหาร ซึ่งเขาพบเสาหินตั้งเรียงเป็นแนวเหมือนสถาปัตยกรรมมนุษย์สร้าง
เขาเขียนไว้ว่า:
“ฉันเชื่อว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่รูปแบบทางธรรมชาติตามธรรมดา เสาหินเหล่านั้นเหมือนถูกมนุษย์แต่งแต้ม… โถงนี้คล้ายโถงศักดิ์สิทธิ์ของเมืองที่ถูกลืม”
อย่างไรก็ตาม บันทึกดังกล่าวถูกเก็บเข้าคลังเอกสารลับของสำนักอาณานิคม และไม่มีใครค้นพบเส้นทางที่เขาบันทึกไว้ได้อีกเลย
5. เรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริง – ผู้คนสูญหายในป่าคำม่วน
หลายสิบปีที่ผ่านมา มีรายงานคนสูญหายในป่าเขาคำม่วนเป็นระยะ บางรายหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแม้จะค้นหานานเป็นสัปดาห์
สิ่งที่น่ากลัวคือ คนที่หายตัวไปมักมีลักษณะร่วมดังนี้:
หายไปใกล้ สันเขาผาหลวง
หายไปในคืนเดือนดับหรือใกล้วันออกพรรษา
ก่อนหายตัว มักเล่าว่ารู้สึกเหมือนมี เสียงเรียกมาจากภูเขา
บางรายเล่าว่าได้ยินเสียงสวดเบา ๆ อยู่ใกล้หินผา
หลายคนเชื่อว่า คนเหล่านี้ถูกเมืองใต้ดิน “รับตัวไป” เพราะอาจเข้าใกล้ประตูมากเกินไป
6. มุมประวัติศาสตร์ – อารยธรรมโบราณก่อนล้านช้าง?
แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเคยมี “เมืองใต้ดิน” จริง แต่คำม่วนมีหลักฐานทางโบราณคดีหลายอย่างที่น่าสนใจมาก เช่น:
✓ รูปแกะสลักบนผนังถ้ำ
บางถ้ำมีรอยแกะสลักรูปคน สัตว์ และลวดลายที่คล้ายศิลปะก่อนยุคล้านช้าง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับตำนานเมืองโบราณ
✓ รอยหินถูกตัดเป็นรูปขั้นบันได
ในบางบริเวณพบหินที่เป็นลักษณะ “ขั้นบันได” แม้จะอยู่ลึกในภูผาที่ห่างไกลจากหมู่บ้านมาก
✓ เศษภาชนะดินเผาในถ้ำลึก
นักสำรวจพบภาชนะดินเผาเก่าแก่บางชิ้นในถ้ำห่างไกล ซึ่งมีอายุย้อนไปเกือบ 1,500 ปี
หากนำหลักฐานเหล่านี้มาต่อกัน อาจบอกได้ว่า คำม่วนเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนดึกดำบรรพ์จำนวนมาก และตำนาน “เมืองใต้ดิน” อาจสะท้อนความทรงจำของอารยธรรมจริงที่เคยตั้งอยู่ริมภูผา ก่อนจะถูกดินถล่มหรือภัยธรรมชาติทำลายทิ้ง
7. มุมวิทยาศาสตร์ – ทำไมคำม่วนจึงมีถ้ำลึกคล้ายเมือง?
คำถามสำคัญคือ ถ้ำบางแห่งในคำม่วนมีโครงสร้างที่ “เหมือนถูกออกแบบ” มากเกินกว่าจะเป็นธรรมชาติจริงหรือไม่?
นักธรณีวิทยาอธิบายว่า:
พื้นที่คาร์สต์มีลักษณะพิเศษ ทำให้เกิดโถงขนาดใหญ่หลายร้อยเมตร
เสาหินอาจเกิดจากการทับถมของหินงอกหินย้อยหลายพันปี
การไหลของน้ำใต้ดินสร้างโครงสร้างคล้ายกำแพงหรือถนนหินได้
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีโถงบางแห่งที่มนุษย์ไม่อาจอธิบายได้ทั้งหมด เพราะมีรูปทรงเป็น “สี่เหลี่ยม” เกินไป หรือมีการวางตัวของเสาในแนวเส้นตรงคล้ายสถาปัตยกรรมมนุษย์
นักธรณีบางคนเชื่อว่า ถ้ำบางแห่งอาจเคยถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของชนเผ่าโบราณ จึงมีร่องรอยคล้ายมนุษย์ดัดแปลง
8. ความเชื่อเหนือธรรมชาติ – ผีเฝ้าเมืองและคำสาปแห่งผู้เฒ่า
ชาวบ้านลาวในคำม่วนเชื่อว่า เมืองใต้ดินไม่ได้หายไปเฉย ๆ แต่ถูก ผีเฝ้าเมือง ปกป้องไม่ให้ใครเข้าไปอีก เพราะเป็นดินแดนต้องห้ามที่เต็มไปด้วยวิญญาณผู้สาบสูญจากอดีต
ความเชื่อที่แพร่หลาย ได้แก่:
✓ ผีหลวงผู้คุ้มเมือง
เป็นวิญญาณเจ้าเมืองเก่าที่ยังคงเฝ้ารักษาโถงพิธีลับใต้ภูเขา
✓ ผีฟ้ามนต์คำ
เป็นนางฟ้าในรูปลักษณ์สตรีสูงโปร่ง มีผมยาวสีดำ หากใครเห็นนาง จะหลงป่าและหายตัวไป
✓ ผีผู้สาปเมือง
ผู้เฒ่าเล่าว่าเป็นฤๅษีผู้มีฤทธิ์ ที่สาปให้เมืองจมหายเพื่อปกป้องธรรมะจากชาวเมืองที่หลงผิด
ความลี้ลับเหล่านี้ทำให้พื้นที่คำม่วนเป็นดินแดนที่ผู้คนเคารพและเกรงกลัว แม้ในยุคปัจจุบันก็ยังมีการทำพิธีเซ่นไหว้ก่อนเข้าป่าทุกครั้ง
9. ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว – เรื่องเล่าปี 1988
มีเรื่องเล่าจริงจากชายชาวลาวชื่อ “คำสิงห์” ซึ่งรอดชีวิตหลังหายตัวไปในภูเขาคำม่วนเป็นเวลา 3 วัน โดยไม่สามารถอธิบายได้ว่าเขาหายไปไหน
เขาเล่าว่า…
เขาเดินตามเสียงคล้ายสวดมนต์
พบโพรงหินลึกคล้ายบันไดโบราณ
เห็นแสงสีฟ้าเหมือนแสงจากคบเพลิง
รู้สึกเหมือนมี “มือเย็นเฉียบ” แตะไหล่
จากนั้นเขาสลบไปและฟื้นอีกทีที่หมู่บ้าน
คำสิงห์ยืนยันว่าสิ่งที่เห็น “ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติแน่นอน”
10. การตีความสมัยใหม่ – เมืองใต้ดินอาจมีอยู่จริง?
นักวิชาการบางกลุ่มเชื่อว่า ตำนานเมืองใต้ดินอาจมีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์จริง เช่น:
✓ การพังทลายของภูเขา
อาจเคยมีเมืองตั้งอยู่ใกล้ภูเขาที่เกิดดินถล่มขนาดใหญ่ ทำให้ถูกฝังอย่างฉับพลันจนถูกเล่าขานว่า “จมหายไปใต้ดิน”
✓ อุโมงค์ธรรมชาติขนาดใหญ่
คำม่วนมีโครงสร้างใต้ดินซับซ้อนที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจเคยถูกใช้ตั้งรกรากจริง
✓ การทำพิธีกรรมในถ้ำ
ชนเผ่าดั้งเดิมอาจสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือแกะสลักในถ้ำ ทำให้ดูเหมือนเมืองใต้ดิน
✓ ความทรงจำของอารยธรรมก่อนไม้ล้มลุก
บางนักโบราณคดีเสนอว่า ตำนานเมืองใต้ดินอาจมาจากชนเผ่าโบราณสมัยก่อนลาวโบราณ เช่น ชนเผ่ามอญเก่า หรือกลุ่มออสโตร-เอเชียติกที่เคยตั้งถิ่นฐานในภูเขาแห่งนี้
11. ทำไมเมืองลับในคำม่วนจึงยังไม่ถูกค้นพบจนวันนี้?
มีเหตุผลหลายประการ:
ป่าคำม่วนเป็นป่าลึกและขรุขระ
ระบบถ้ำซับซ้อนมาก บางแห่งน้ำท่วมตลอดปี
เส้นทางธรรมชาติเคลื่อนตัวอยู่เสมอ ทำให้เส้นทางเก่าหายไป
ความเชื่อท้องถิ่นทำให้ชาวบ้านไม่กล้านำทาง
นักสำรวจที่เคยพยายาม “มักหายตัวไป”
จึงไม่แปลกที่ตำนานเมืองหินใต้ดินจะยังคงอยู่ แต่ไม่มีใครพิสูจน์ได้ 100%
12. เมืองใต้ดิน – ตำนานหรือความจริง?
หากประเมินจากข้อมูลทั้งหมด อาจสรุปได้ว่า มีความเป็นไปได้สองทางหลัก:
✔ 1. เป็นตำนานที่เกิดจากเหตุการณ์จริงในอดีต
เช่น เมืองโบราณถูกดินถล่ม คนรอดเล่าเรื่องสืบต่อจนกลายเป็นนิทานลี้ลับ
✔ 2. เป็นความจริงที่ยังไม่ถูกค้นพบ
ระบบถ้ำคำม่วนมีขนาดใหญ่และยังถูกสำรวจเพียง 10–20% เท่านั้น
จึง อาจมีพื้นที่ที่มนุษย์ยังไม่เคยเข้าถึงอยู่จริง
13. บทส่งท้าย – เมืองที่รอผู้กล้าคนต่อไป
ตำนานเมืองหินใต้ดินที่ถูกสาปแห่งคำม่วน คือการผสมผสานระหว่างความเชื่อโบราณ ภูมิประเทศลี้ลับ วิทยาศาสตร์ และจินตภาพมนุษย์ที่พยายามอธิบายสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ
เมืองนั้นอาจเคยมีอยู่จริง — หรืออาจเป็นเพียงความทรงจำของโลกเก่าที่สูญหายไปแล้ว
แต่ความจริงอันหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ดินแดนแห่งคำม่วนยังคงซ่อนความลับอีกมากมายใต้ภูผา และอาจมีวันที่ผู้กล้าคนใหม่ค้นพบประตูหินนั้นอีกครั้ง…
ในคืนเดือนดับที่ประตูเมืองลับแลเปิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน
ความรู้รอบตัว
ชีวิต
เรื่องเล่า
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย