ขณะที่ประธานาธิบดีโคลอมเบียได้เน้นย้ำถึงศักยภาพในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ การเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด และการปรับปรุงโรงพยาบาลให้ทันสมัย สำหรับการการจัดตั้งฐานอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีป้องกันประเทศของโคลอมเบีย (Colombian defence industrial and technological base : BITD) แนวโน้มคือการเปลี่ยนจากสถานะผู้นำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์ไปสู่สถานะการเป็นชาติที่ให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาเชิงลึก การปรับปรุงซอฟต์แวร์ และการผลิตชิ้นส่วนอื่นๆในอนาคตสำหรับ Gripen E/F แม้ว่าจะยังไม่ได้ระบุสัดส่วนงานในท้องถิ่นที่ชัดเจน
Gripen E/F ที่กองทัพอากาศโคลอมเบียจัดหานี้เป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 ที่พัฒนาโดยบริษัท SAAB ประเทศสวีเดน เครื่องบินขับไล่สุดไฮเทคแบบนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน General Electric F414-GE-39E แรงขับประมาณ 98 กิโลนิวตัน ที่พัฒนามาจากเครื่องยนต์ตระกูลเอฟ414
Gripen E จะเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ดีที่สุดของกองทัพอากาศโคลอมเบียอีกไม่กี่ปีนับจากนี้
สำหรับ FAC แล้วการมีเครื่องบินขับไล่ Gripen E เพียงฝูงบินเดียวสามารถเปลี่ยนภารกิจได้หลากหลายในเวลาเดียวกันได้เช่น ภารกิจลาดตระเวนทางอากาศเหนือน่านฟ้าป่าแอมะซอนไปจนถึงภารกิจการบินลาดตระเวนทางทะเลตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกได้ภายในวันเดียว โดยที่ไม่ต้องสลับเครื่องบินแบบอื่นมาทำหน้าที่
เมื่อมีเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยพร้อมทั้งระบบ Data Link ซึ่งสามารถสนับสนุนการรบ 3 เหล่าทัพเป็นไปในทิศทางเดียวกันและทำให้โบโกตามีศักยภาพในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่มากขึ้นในศตวรรษที่ 21