18 พ.ย. เวลา 03:22 • คริปโทเคอร์เรนซี

ปังหรือพัง? ทำไม “MicroStrategy”

ถึงเป็นบริษัทที่นักลงทุนทั้งรักและกลัว กับเกมเดิมพัน Bitcoin ที่ทั่วโลกกำลังจับตา
MicroStrategy ไม่ใช่บริษัททั่วไป ทั้งรูปแบบการดำเนินธุรกิจ การประเมินมูลค่า และวิธีที่ตลาดพูดถึง ก็ไม่เหมือนบริษัททั่วไป
สำหรับบางคน MicroStrategy คือบริษัทแรกที่กล้าเดินหน้าเข้าสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย Bitcoin แบบเต็มตัว แต่สำหรับอีกหลายคน มันคือ “การเดิมพัน“ มูลค่ามหาศาล ที่สวมหน้ากากเป็นบริษัท ซอฟต์แวร์
และไม่ว่าคุณจะมองว่า MicroStrategy เป็นวิสัยทัศน์ที่ล้ำสมัย หรือเป็นการเดิมพันเสี่ยงสุดขั้ว สิ่งหนึ่งที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ คือ MicroStrategy ได้กลายเป็นหนึ่งในเคสธุรกิจที่ถูกถกเถียงมากที่สุดของทศวรรษนี้
จากบริษัทซอฟต์แวร์ สู่ไอคอนแห่งโลก Bitcoin
MicroStrategy ถูกก่อตั้งในปี 1989 โดยเริ่มจากการเป็นบริษัทซอฟต์แวร์องค์กรด้าน Business Intelligence และ Analytics และในอดีตที่ผ่านมา บริษัทก็แข่งขันในตลาดแบบเงียบๆ มาโดยตลอด จนกระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนไปในปี 2020
ภายใต้การนำของผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Michael Saylor บริษัทได้ตัดสินใจเปลี่ยนนโยบายเงินสดครั้งใหญ่ โดยประกาศให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองหลักของบริษัท และเริ่มนำเงินสดส่วนเกิน รวมถึงเงินทุนที่ระดมได้จากการออกหุ้นและตราสารหนี้ ไปซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดขาขึ้นหรือขาลง
นี่ทำให้ Bitcoin ไม่ได้เป็นแค่ “ส่วนหนึ่งของงบดุล” อีกต่อไป แต่กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัท โดยในวันนี้ MicroStrategy
-ถือครอง Bitcoin ประมาณ 640,000 เหรียญ หรือราว 3% ของซัพพลาย Bitcoin ทั้งหมดในตลาด
-ใช้เงินมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อ Bitcoin โดยมีต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 66,000–71,000 ดอลลาร์ต่อ Bitcoin
-ออกตราสารหนี้และเพิ่มทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เช่น หนี้แปลงสภาพกว่า 8.2 พันล้านดอลลาร์ และมีการประเมินว่าอาจสูงถึง 13 พันล้านดอลลาร์ภายในปลายปี 2025
-ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็น บริษัทเอกชนที่ถือ Bitcoin มากที่สุดในโลก
การที่ Bitcoin กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัท ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงต่อการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin
เพื่อให้เห็นภาพความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของบริษัท ลองดูตัวอย่างสมมุติโดยอ้างอิงข้อมูลล่าสุดปี 2025
-ถือครอง Bitcoin ประมาณ 640,000 เหรียญ
-ราคา Bitcoin ก่อนร่วง: 120,000 ดอลลาร์/เหรียญ
-มูลค่าตลาดของบริษัท (Market Cap): ประมาณ 77.4 พันล้านดอลลาร์
สมมุติว่า Bitcoin ราคาลดลง 20% เหมือนในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
มูลค่าพอร์ต BTC ของบริษัทจะลดลงเหลือ 61.4 พันล้านดอลลาร์ (640,000 × 96,000) จากเดิมที่ 76.8 พันล้านดอลลาร์ (640,000 × 120,000)
และส่วนต่างที่หายไปทันทีคือ 15.4 พันล้านดอลลาร์ (76.8 พันล้าน - 61.4 พันล้าน)
ซึ่งตัวเลขนี้คิดเป็นราว 20% ของของมูลค่าบริษัท (15.4 พันล้าน / 77.4 พันล้าน) ที่สูญหายไป แถมตัวเลขนี้ยังสูงใกล้เคียงกับ GDP ประเทศลาวในปี 2024 (ราว 16.5 พันล้านดอลลาร์)
พูดง่าย ๆ คือ แค่ราคา Bitcoin ร่วง บริษัทอาจสูญเสียมูลค่าเทียบเท่ากับเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งได้ในพริบตาเดียว
และถ้า Bitcoin เด้งขึ้น 20% ภาพก็กลับกันทันที โดยมูลค่าบริษัทจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นเทียบเท่า GDP ของประเทศตลาดเกิดใหม่ประเทศหนึ่งด้วยทันทีเช่นกัน
และนี่คือจุดที่ทำให้ MicroStrategy มีความอ่อนไหวต่อราคาของ Bitcoin ซึ่งนี่ยังไม่รวมถึงความเสี่ยงจากภาระหนี้ (debt to equity) ที่เปลี่ยนแปลงได้ตามราคา Bitcoin ด้วยซ้ำ
โอกาสอันสุดโต่งจาก Bitcoin ของ MicroStrategy ทำมุมมองในตลาดแบ่งออกเป็นสองฝั่งชัดเจน โดยมีทั้งฝั่งที่สนับสนุน และฝั่งที่วิจารณ์
ผู้สนับสนุนมองว่า MicroStrategy คือผู้เล่นรายแรกในยุคการเงินใหม่ โดยเชื่อว่า
-Bitcoin จะกลายเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าสูงสุดของโลก
-การถือ Bitcoin ระยะยาวจะทวีความมั่งคั่งให้บริษัท
-Leverage ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากสินทรัพย์มหาศาลแบบที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในยุค
-ในประวัติศาสตร์ คนที่กล้าคิดและกล้าลองมักได้รางวัลตอบแทนสูง
ซึ่งหากราคา Bitcoin เติบโตแบบก้าวกระโดด กลยุทธ์ของ MicroStrategy อาจถูกยกเป็นกรณีศึกษาไปอีกหลายสิบปี ในฐานะจุดเปลี่ยนสำคัญของแนวคิดบริหารเงินสดและสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน
แต่สำหรับผู้ที่ไม่สนับสนุน หลายคนมองว่านี่คือการพนันที่บ้าคลั่ง พวกเขามองว่า MicroStrategy กลายเป็นกองทุน Bitcoin แบบมี Leverage ที่มีธุรกิจซอฟท์แวร์บังหน้า
ซึ่งสิ่งที่พวกเขากังวลกันส่วนใหญ่คือ
-การพึ่งพาสินทรัพย์ที่ผันผวนสูงมากเกินไป
-การใช้หนี้เพื่อซื้อ Bitcoin ต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเปราะบางให้บริษัท
-ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในช่วงตลาดคริปโตถดถอย
-แนวโน้มที่บริษัทจะสูญเสียโฟกัสจากธุรกิจซอฟต์แวร์เดิม
นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า หาก Bitcoin เข้าสู่ขาลงที่ยืดเยื้อ บริษัทอาจเผชิญแรงกดดันทางการเงินรุนแรงกว่าบริษัททั่วไป ซึ่งสำหรับคนที่ระวังความเสี่ยง นี่ไม่ใช่นวัตกรรม แต่มันคือ การเก็งกำไรระดับองค์กร
เช่นเดียวกัน เสียงจากนักวิเคราะห์ชั้นนำก็แตกออกอย่างสุดขั้ว
ฝ่ายเชิงบวก เช่น Cantor Fitzgerald ให้เรตติ้ง “Overweight” และตั้งราคาเป้าหมายไว้ถึง 697 ดอลลาร์ ส่วนฝั่งที่ระมัดระวัง เช่น Monness, Crespi, Hardt & Co. ให้เรตติ้ง “Sell” พร้อมราคาเป้าหมายประมาณ 175–220 ดอลลาร์ บางรายที่มีมุมมองผสม อย่าง H.C. Wainwright & Co. ก็คงเรตติ้ง “Buy” แต่ลดราคาเป้าหมายจาก 521 ดอลลาร์ เหลือ 475 ดอลลาร์
ซึ่งความกว้างของราคาเป้าหมายตั้งแต่หลัก 175 ดอลลาร์ ถึงสูงเกือบ 700 ดอลลาร์ ก็สะท้อนชัดเจนว่า หุ้นนี้ไม่ใช่หุ้นที่ทุกคนเห็นตรงกัน แต่มันคือสนามรบทางความคิดของนักลงทุน
1
สำหรับนักลงทุนที่กำลังสนใจหุ้น MicroStrategy ควรเข้าใจว่า ความแตกต่างของบริษัท อาจทำให้ตัวชี้วัดแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป
โดยนักลงทุนต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น
-ทิศทาง Bitcoin ระยะยาวควบคู่กับงบการเงินบริษัท
-โอกาสจากมูลค่า Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นเทียบกับความเสี่ยงจากหนี้ที่ก่อตัว
-ความเสี่ยงจากการออกหุ้นเพิ่มทุน
-ผลกระทบของความผันผวนคริปโตต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
พูดให้ง่ายๆ คือ การถือหุ้นนี้ต้องเข้าใจทั้งโลกซอฟต์แวร์และโลกคริปโตไปควบคู่กัน นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องมีความเชื่อและความมั่นใจในวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างมากด้วย
สรุปแล้ว MicroStrategy ไม่ใช่หุ้นที่เหมาะกับนักลงทุนทุกคน
เพราะบริษัทนี้ไม่ได้ประเมินมูลค่าจากตัวเลขพื้นฐานอย่าง P/E หรือกระแสเงินสดเพียงอย่างเดียว แต่ราคาหุ้นสะท้อนความเชื่อของนักลงทุนต่อ Bitcoin และความมั่นใจในกลยุทธ์ของบริษัทด้วย
สำหรับบางคน MicroStrategy คือรูปแบบบริษัทแห่งอนาคตที่กล้าเปลี่ยนระบบการเงินก่อนใคร
แต่สำหรับอีกหลายคน นี่อาจเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงที่สูงเกินไป และอาจกลายเป็นบทเรียนราคาแพงได้
และนี่คือเหตุผลที่วันนี้ ทุกคนยังจับตาและลุ้นไปกับ MicroStrategy เพราะมันคือ “การทดลองทางการเงินครั้งใหญ่” ที่เกิดขึ้นจริง
แล้วผู้อ่านทุกคนล่ะคะ? มีความเห็นยังไงกับบริษัทนี้ คิดว่ากลยุทธ์ของ MicroStrategy กำลังเดินหน้าสู่ “ความปัง” หรือ “ความพัง” มากกว่ากัน?
Sources: SEC filings; company disclosures; BitcoinTreasuries.net; Bitbo.io; CoinDesk; Investopedia; The Block; Protos; Nasdaq; SimplyWall.St; Cantor Fitzgerald; HC Wainwright & Co.; Monness Crespi Hardt
โฆษณา