5 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าว

มุมมอง ‘ดวงฤทธิ์’

ชี้ประเทศติดกับดัก “หนี้เยอะ ทุนน้อย ภาษีอ่วม” โครงสร้างการเมือง–การเงินปิดทาง FDI โต คนไทยแบกหนี้ต่อหัว 2.4 แสนบาทไร้ทางออก ตั้งคำถามรัฐบาลหน้า แก้โจทย์นี้ได้จริงหรือไม่?
(18 พ.ย. 68) นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบชาวไทย และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Duangrit Bunnag ระบุว่า
เศรษฐกิจของไทย ง่อยเปลี้ยเสียขามาหลายปี ตั้งแต่สมัย 11 ปีก่อน มาจนถึงสมัยปัจจุบัน มีพื้นฐานมาจากเรื่องง่ายๆ สามเรื่อง
หนี้เยอะ ทุนน้อย ภาษีอ่วม
เรื่องหนี้เยอะนี่คุยมาหลายรอบ หนี้สาธารณะเราทั้งระบบน่าจะประมาณ 16 ล้านล้านบาท เท่ากับคนไทยทุกคนเริ่มต้นชีวิตด้วยการลืมตาดูโลกก็แบกหนี้ไว้ประมาณ 240,000 บาท เป็นคนเมือง 10 ล้านคน ก็ยังพอเห็นทางไป แต่กับที่เหลืออีก 50 กว่าล้านคนในท้องที่ห่างไกล ก็ดูเหมือนแต่ละชีวิตที่เกิดมา มันจะไม่ค่อยมีความหวัง
ช่วงเดียวในประวัติศาสตร์ประเทศที่หนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลงคือช่วงสมัยนายกทักษิณ (ค.ศ. 2002-2006) หนี้สาธารณะลดลงจาก 54.9% เหลือ 39.2% ซึ่งรับตัวเลข 54.9% มาจากหลังช่วงที่เข้าสู่ IMF หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ช่วงคุณสมัครและคุณสมชายลดไปได้อีกนิดหน่อย ได้ลงไป 34.9%
หลังจากนั้นก็ทยอยขึ้นมาเรื่อยจนถึงปี ค.ศ. 2019 หนี้สาธารณะเราอยู่ที่ 41.1% ของ GDP หนี้สาธารณะเราเพิ่มขึ้นสูงสุดในสมัยรัฐบาลประยุทธ์ ปี 2014 ถึง 2022 บวกรวบไป 20 จุด เพิ่มเป็น 61.5% ทำสถิติสูงสุดในบรรดานายกรัฐมนตรีทุกคน ถ้าไม่นับตอนวิกฤตค่าเงินช่วงนายกชวน ที่ลบรวมกันไปเกือบ 40 จุด
มาจนถึงวันนี้ก็มีแนวโน้มแต่หนี้จะเพิ่มขึ้นแบบไม่มีทางเยียวยา คนล่าสุดที่ออกมาพูดเรื่องนี้คืออดีตนายกทักษิณคนเดิม ที่ออกมาพูดเรื่องซื้อหนี้ออกจากระบบทั้งหมด 13 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว ขนาดพูดแล้วก็รัฐบาลตอนนั้นยังคิดตามไม่ทัน กว่าจะคิดทันก็มีอันเป็นไปทางการเมืองเสียก่อน คนไทยทุกคนก็ต้องแบกหนี้ 240,000 บาทก้อนนี้กันต่อไป
ทุนน้อย
อันนี้เป็นปัญหาที่ซึมเศร้ามาหลายปี ทุนที่ผมพูดถึงคือ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment-FDI) ตัวเลขค่าเฉลี่ยของ FDI ต่อ GDP ในช่วง 30 ปีคือประมาณ 1.9% ช่วงที่สูงสุดคือสมัยรัฐบาลทักษิณ(อีกละ) อยู่ที่ 4% (ค่าเฉลี่ยโลกปัจจุบันอยู่ที่ 4.56%) ในขณะที่รัฐบาลประยุทธ์ทำสถิติต่ำสุดคือ 0.86%
โครงสร้างของประเทศไทยทั้งการเมืองและการเงิน ไม่เปิดโอกาสให้ประเทศมี FDI ที่เพิ่มขึ้นเลย ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังคุมการไหลเข้าของเงินอย่างเข้มงวด ยังไม่ตื่นจากฝันร้ายสมัยต้มยำกุ้ง และทำทุกอย่างเพื่อเสถียรภาพของธนาคารและไม่ใช่เสถียรภาพของประชาชน
ในทางการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็กำหนดให้อำนาจปกครองสูงสุดเป็นอำนาจของคณะบุคคลที่เป็นองค์กรอิสระ ที่สามารถสร้างอิทธิพลจากการเลือกสรรเข้าไปได้จากอำนาจทางการเมือง มองมาจากต่างประเทศ ดูยังไงก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ทุนใหญ่ที่จะเข้ามาที่เคยคุยกัน เขาก็กังวลเรื่องนี้ทั้งสิ้น โอกาสที่ทุนต่างประเทศจะเข้ามาเติมเงินให้ระบบก็เหลือน้อยมาก เศรษฐกิจเราก็โตยาก
การควบคุมที่เข้มงวดจากธนาคารแห่งประเทศไทยนี่เอง ที่เลยเถิดไปถึงการบริหารค่าเงิน ที่ทำให้เงินบาทแข็งต่อเนื่องมาเป็นสิบปี การท่องเที่ยวและส่งออกที่เคยเป็นความหวังในการนำเงินเข้ามาเติมในระบบก็ยิ่งริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ รัฐบาลเข้ามาจะแก้ก็เข้ามาได้ช่วงสั้นๆ เพราะรัฐธรรมนูญแบบที่มี ไม่อนุญาตให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ได้นาน ประเทศไทยเราก็ต้องอยู่กับวงจรอุบาทว์ทางเศรษฐกิจนี้ต่อไปอย่างไม่เห็นทางแก้
ภาษีอ่วม
คนไทยทำงานในไทย หนักเบาแค่ไหนก็ต้องโดนภาษี ซื้อของก็โดนภาษี ขายของก็โดนภาษี คนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ถ้าจะเอาเงินกลับเข้าไทย ก็ต้องโดนภาษี ก็เลยไม่เอาเงินกลับเข้ามาดีกว่า เอาไปเก็บไว้ข้างนอกประเทศ ธนาคารต่างประเทศก็เล่นเป็น เก็บเงินไว้นานให้ผลตอบแทนดีกว่า คนก็เก็บเงินไว้เมืองนอก บินไปต่างประเทศไปใช้เงินที่อยู่นอกประเทศ ซื้อบ้านซื้อรถอยู่ต่างประเทศ เงินในไทยก็ยิ่งร่อยหรอไปอีก
คนไทยจ่ายภาษีเฉลี่ยแล้วต่อหัวต่อ GDP อยู่ที่ประมาณ 17% ของ GDP ซึ่งนับว่าสูงกว่าสิงคโปร์ที่ตัวเลขอยู่ที่ 13.6% ราวกับว่าเศรษฐกิจเราดีกว่าสิงคโปร์ ตัวเลขของเวียดนามใกล้เคียงกับเราที่ 16.8% ก็จริง แต่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 ในขณะที่ไทยนั้นเราจ่ายภาษีกันเฉลี่ยอยู่ที่ 14%-15% สมัยนายกทักษิณ (อีกแล้ว) แล้วก็ขึ้นมาเรื่อยๆ จนค่อนข้างนิ่งที่ 17% ไม่มีแนวโน้มลดลง ที่ต้องเก็บภาษีเยอะ เพราะจำนวนข้าราชการต่อหัวประชากรเราเยอะมาก รัฐบาลต้องใช้เงินเยอะ
หนี้เยอะ ทุนน้อย ภาษีอ่วม เป็นเสาหลักสำคัญที่ทำยังไงก็จะกดหัวคนไทยเอาไว้ไม่ให้โงหัวขึ้นมาได้ เลือกตั้งครั้งหน้าอาสามาเป็นรัฐบาลใหม่ ก็ต้องตอบตรงนี้ให้ได้ว่าจะแก้อย่างไร ไม่ตอบข้อใดข้อหนึ่ง ผมก็ถือว่าปัญหาหลักเศรษฐกิจไม่มีทางแก้ได้
หลักฐานตามประวัติศาสตร์มันชี้ชัดว่ามีคนเดียวที่แก้ได้ และตอนนี้แกต้องไปนอนอยู่ในคุกด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ประเทศนี้มันน่าเศร้าแท้
#สงสารประเทศไทย
โฆษณา