♻️ขยะล้นโลก: เปลี่ยนขยะเป็นพลังงานแห่งอนาคต
🌍 โลกกำลังจมขยะเร็วกว่าที่เราคิด
ทุกวินาทีที่โลกหายใจ มนุษย์กำลังสร้างขยะในระดับที่ระบบนิเวศไม่สามารถรับได้อีกต่อไป
ในปี 2020 โลกสร้างขยะมูลฝอยชุมชน (Municipal Solid Waste: MSW) มากถึง 2.13 พันล้านตัน และหากไม่มีการจัดการที่จริงจัง ปริมาณนี้จะพุ่งสู่ 3.78 พันล้านตันในปี 2050 — เพิ่มขึ้นกว่า 56% ภายในสามทศวรรษ
ขยะจึงไม่ใช่เพียงปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “ระเบิดเวลาเศรษฐกิจ” ของศตวรรษนี้
💵 ต้นทุนที่มองไม่เห็นของการเพิกเฉย
ปี 2020 โลกใช้เงิน 252 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการจัดการขยะ และตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 640 พันล้านดอลลาร์ในปี 2050
แต่ตัวเลขที่ใหญ่กว่านั้นคือ “ต้นทุนแฝง” — ทั้งมลพิษทางอากาศ สุขภาพ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อาจแตะถึง 361 พันล้านดอลลาร์ ต่อปี
เฉพาะ “พลาสติก” ที่ผลิตในปี 2019 ปีเดียว มีต้นทุนตลอดวัฏจักรชีวิตสูงถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่า GDP ทั้งประเทศอินเดียในปีเดียว และหากยังนิ่งเฉย ตัวเลขนี้จะ “เพิ่มเป็นสองเท่า” ภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า
⚙️ ทางรอดจากขยะ: เมื่อของเหลือกลายเป็นพลังงาน
ทางออกของวิกฤตนี้อยู่ในแนวคิด Waste-to-Energy (WtE) — การเปลี่ยนขยะที่รีไซเคิลไม่ได้ให้กลายเป็นพลังงานสะอาด
เทคโนโลยี WtE สามารถ ลดปริมาตรขยะฝังกลบได้ถึง 90% และลดการปล่อยมีเทนซึ่งทำให้โลกร้อนกว่า CO₂ ถึงกว่า 25 เท่า
รูปแบบหลักของ WtE ได้แก่
• Incineration: เผาขยะผลิตความร้อนและไฟฟ้า
• Gasification / Pyrolysis: แปรรูปเป็นก๊าซเชื้อเพลิง
• Anaerobic Digestion: หมักขยะอินทรีย์ผลิตก๊าซชีวภาพ
• Refuse-Derived Fuel (RDF): ผลิตเชื้อเพลิงขยะแปรรูปก่อนเผา
แม้จะมีต้นทุนเริ่มต้นสูง (เฉลี่ย 4–10 ล้านดอลลาร์ต่อเมกะวัตต์) แต่คือการลงทุนใน “ความยั่งยืนที่คืนทุนได้” ผ่านรายได้จากพลังงานและการลดภาระสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
🌐 จากคำพูดสู่การลงมือ
🇸🇪สวีเดน: ต้นแบบแห่งความสำเร็จ ห้ามฝังกลบขยะเผาได้ตั้งแต่ปี 2002 และมีโรงงาน WtE กว่า 33 แห่ง ผลิตพลังงานให้บ้านกว่า 1 ล้านหลัง ลดต้นทุนได้ถึง 1,660 SEK ต่อตัน จนต้อง “นำเข้าขยะ” ราว 800,000 ตันต่อปีเพื่อผลิตพลังงาน
🇯🇵ญี่ปุ่น: มีโรงงาน WtE กว่า 1,000 แห่ง เหลือขยะฝังกลบเพียง 3% ของทั้งหมด
🇩🇪เยอรมนี: เข้มงวดเรื่องมลพิษที่สุดในยุโรป โรงงานต้องผ่านมาตรฐานปล่อยมลพิษระดับสูงทุกขั้นตอน
🇮🇳อินเดีย และ 🇨🇳 จีน: เดินหน้าลงทุนโรงงานขนาดใหญ่หลายพันตันต่อวัน โดยได้รับแรงหนุนจากภาครัฐและต้นทุนเทคโนโลยีที่ถูกกว่า
ตลาดโลกของ WtE จึงกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว คาดว่ามูลค่าจะเพิ่มจาก ราว 45 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เป็น กว่า 78 พันล้านดอลลาร์ในปี 2034 โดยเอเชียแปซิฟิกคือภูมิภาคผู้นำ
🇹🇭ไทย: ความท้าทายที่ซ่อนโอกาส
ปี 2567 ไทยมีขยะมูลฝอยรวม 27.2 ล้านตัน
แม้รีไซเคิลได้แล้วราว 39% และกำจัดถูกต้อง 38% แต่ยังมีขยะกว่า 6.27 ล้านตัน (23%) ที่ถูกจัดการ “อย่างไม่ถูกวิธี” — สร้างมลพิษ ดินเสีย น้ำเน่า และเสี่ยงต่อสุขภาพประชาชน
ขยะไทยยังมี “ความชื้นสูงถึง 53%” ทำให้ต้องลงทุนในเทคโนโลยี Pre-treatment เช่น RDF ก่อนเผาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ภาครัฐจึงเร่งผลักดันพลังงานจากขยะในแผน PDP ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า 400 MW ภายในปี 2569 พร้อมให้ Feed-in Tariff 3.66 บาท/หน่วย สูงกว่าโครงการโซลาร์รูฟท็อป (2.2 บาท/หน่วย) เพื่อดึงดูดนักลงทุน
🌱 เมื่อขยะกลายเป็นอนาคต
การจัดการขยะไม่ใช่เพียง “หน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม” แต่คือ “ความรับผิดชอบต่ออนาคตของมนุษยชาติ”
หากเราทุกคนเริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆ — ลดการใช้สิ่งที่ไม่จำเป็น แยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และส่งต่อให้ระบบรีไซเคิลอย่างถูกวิธี — เรากำลังสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ขับเคลื่อนด้วยจิตสำนึก ไม่ใช่เพียงเทคโนโลยี
เพราะทุกชิ้นขยะที่ถูกจัดการอย่างถูกต้อง คือพลังเล็กๆ ที่ช่วยให้โลกหายใจได้อีกนิด
และนั่นอาจเป็น “พลังงานสะอาดที่สุด” ที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นก็เป็นได้. 🌏✨
เรื่องและภาพ: กรรวี วงษ์ศิริเลิศ Economist, Bnomics
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economist, Bnomics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
#ขยะ #แยกขยะ #รีไซเคิล #การเผาขยะเพื่อผลิตพลังงาน #ธนาคารกรุงเทพ #Bnomics #BBL #BangkokBank
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
