20 พ.ย. เวลา 04:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รู้จัก ESG Bond การลงทุนที่มากกว่าแค่ผลตอบแทน

ในยุคที่ผู้บริโภคให้ค่ากับความยั่งยืนพอ ๆ กับคุณภาพสินค้า โลกธุรกิจกำลังขยับเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ได้กลายเป็นความคาดหวังหลักที่สังคมตั้งต่อทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงาน การจัดการของเสีย หรือการพัฒนาชุมชน ทุกกระบวนการถูกตรวจสอบและให้ความสำคัญมากกว่าที่เคย
เมื่อกระแสความรับผิดชอบต่อโลกขยายตัวมาถึงตลาดทุน เครื่องมือการลงทุนก็ต้องตอบโจทย์มุมมองใหม่นี้เช่นกัน และนั่นทำให้ “ESG Bond” กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนควบคู่กับผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
เพราะ ESG Bond ไม่ใช่เพียงตราสารหนี้ทั่วไป แต่เป็นการลงทุนที่กำหนดชัดว่าเงินที่ระดมทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในรูปแบบที่จับต้องได้ และตอบโจทย์ทั้งกระแสรักษ์โลก ความโปร่งใส และความยั่งยืนที่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดการเงินทั่วโลก
ESG Bond คืออะไร?
ESG Bond คือ ตราสารหนี้ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการนำเงินที่ระดมทุนไปใช้ในโครงการที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม สังคม หรือการกำกับดูแลกิจการ ต่างจากตราสารหนี้ทั่วไปที่มุ่งเน้นการระดมทุนเพื่อการดำเนินงานหรือขยายธุรกิจตามปกติ ESG Bond จะต้องระบุว่าเงินจะถูกนำไปใช้เพื่อโครงการที่มีผลกระทบเชิงบวก และต้องมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสว่าโครงการนั้นก่อให้เกิดผลลัพธ์จริงแค่ไหน
เพราะฉะนั้น สำหรับนักลงทุน ESG Bond คือเครื่องมือที่ผสานความมั่นคงของตราสารหนี้เข้ากับความหมายของการลงทุน ซึ่งเป็นโจทย์ที่สอดรับกับยุคสมัยที่ผู้คนให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ
และเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนที่หลากหลาย ESG Bond จึงถูกพัฒนาออกเป็นหลายประเภท โดยแต่ละแบบจะเน้นผลลัพธ์ในมิติต่างกัน ดังนี้
1.Green Bond
ตราสารหนี้ที่นำเงินไปใช้เฉพาะกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานสะอาด ระบบขนส่งที่ลดการปล่อยคาร์บอน การจัดการน้ำ หรือโครงการลดผลกระทบต่อธรรมชาติ เป้าหมายคือสร้างประโยชน์ที่วัดผลได้ต่อโลกจริง ๆ ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์องค์กร
2.Social Bond
เงินที่ระดมทุนจาก Social Bond จะถูกนำไปใช้ในโครงการที่ตอบโจทย์สังคม เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข การเข้าถึงการศึกษา ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา ไปจนถึงการสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง จุดสำคัญคือผลลัพธ์ทางสังคมต้องจับต้องและรายงานได้
3.Sustainability Bond
เป็นตราสารหนี้ที่รวมคุณค่าของ Green และ Social Bond เข้าไว้ด้วยกัน เหมาะกับองค์กรที่ดำเนินโครงการยั่งยืนหลายด้านพร้อมกัน เช่น พลังงานสะอาดควบคู่กับการพัฒนาชุมชน ช่วยให้ผู้ลงทุนสนับสนุนเป้าหมาย ESG ที่กว้างขึ้นในครั้งเดียว
4.Sustainability-Linked Bond (SLB)
ต่างจากสามประเภทแรกที่ระบุว่าเงินจะนำไปใช้ทำอะไร แต่ SLB จะตั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนไว้อย่างชัดเจน เช่น ลดก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้น้ำ เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ หากบริษัททำไม่ได้ตามที่ประกาศ อัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้น เป็นแรงจูงใจให้เดินหน้าสู่เป้าหมายจริง ไม่ใช่เพียงประกาศเชิงภาพลักษณ์
ทั้งนี้ การลงทุนใน ESG Bond ไม่ได้มีเพียงผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังสะท้อนมิติของผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่นักลงทุนต้องพิจารณา โดยนักลงทุนที่มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมชัดเจน อาจเลือก Green Bond เพราะเงินลงทุนจะถูกนำไปสู่โครงการพลังงานสะอาดและการลดคาร์บอนอย่างตรงจุด ขณะที่ผู้ที่ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ทางสังคม อาจเลือก Social Bond เพื่อสนับสนุนโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตและชุมชน
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลกระทบครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อมและสังคม Sustainability Bond คือทางเลือกที่เหมาะสม ขณะที่นักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและพันธสัญญาขององค์กร สามารถเลือก Sustainability-Linked Bond (SLB) เพราะผลตอบแทนจะเชื่อมโยงกับการบรรลุเป้าหมายยั่งยืนของผู้ออกตราสาร
ดังนั้น การเข้าใจประเภทของ ESG Bond ไม่ใช่เพียงความรู้พื้นฐาน แต่เป็นกุญแจสำคัญในการจัดพอร์ตลงทุนที่สมดุล ระหว่างผลตอบแทนทางการเงินและผลกระทบเชิงบวกต่อโลก ช่วยให้นักลงทุนเลือกตราสารที่สอดคล้องกับเป้าหมายและค่านิยมของตนเองอย่างชาญฉลาด
โฆษณา