1 ชั่วโมงที่แล้ว • ธุรกิจ

เข้าใจเทรนด์ Patriotic Aesthetic

เมื่อผู้บริโภครักชาติ เต็มใจจ่ายเงินมากขึ้น สำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศ และสะท้อนอัตลักษณ์ของชาติที่เกิด
เครื่องยนต์ ต้องผลิตที่เยอรมัน
นวัตกรรม ต้องผลิตที่ญี่ปุ่น
นาฬิกา ต้องผลิตที่สวิตเซอร์แลนด์
กิมจิ ต้องผลิตที่เกาหลีใต้
เนยแท้ ต้องผลิตที่ฝรั่งเศส
เคยเป็นกันไหม เวลาเลือกซื้อของแล้วแอบดูว่า “ผลิตจากที่ไหน”? ปรากฏว่านี่กำลังกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์สำคัญที่ชื่อว่า “Patriotic Aesthetic – ความภูมิใจใช้ของที่ผลิตในประเทศ”
หลายคนอาจจะคิดว่าเทรนด์นี้มันเก่าไปแล้วหรือเปล่าที่ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ป้าย Made in… แค่เป็นข้อมูลแหล่งผลิต แต่เป็นสัญลักษณ์ของความภูมิใจในสินค้าที่ผลิตโดยคนในประเทศของตัวเอง
กระแสนี้ มีแนวโน้มว่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้งจากหลายปัจจัย ทั้งความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม และกฎการค้าโลกที่เปลี่ยนไป (เช่น trade policy uncertainty, supply chain disruptions) ซึ่งทำให้หลายประเทศและแบรนด์ระดับโลกต้องปรับยุทธศาสตร์ หันกลับมาพึ่งพาการผลิตภายในประเทศมากขึ้น ทั้งเพื่อลดความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานและเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของตนเอง
[ 🏭 ผลิต ใช้ และส่งออก เพื่อเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ]
นับตั้งแต่เหตุการณ์การระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้การขนส่งสินค้าต่างๆ ต้องชะงักไป จนมาถึงรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ที่ขู่จะขึ้นภาษีประเทศต่างๆ ทั่วไป ทำให้หลายประเทศเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการฟื้นฟูศักยภาพการผลิตภายในประเทศ และผลักดันอุตสาหกรรมท้องถิ่นให้แข็งแรงขึ้น
1. การขับเคลื่อนโดยภาครัฐ
ประเทศไทยเองก็เดินหน้าในทิศทางเดียวกันผ่านโครงการ Made in Thailand (MiT) ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และกระทรวงการคลังตั้งขึ้น เพื่อรับรองและส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของสินค้าไทยในสายตาภาครัฐ เอกชน และผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
คุณสมบัติของสินค้าเพื่อให้ได้รับตรา MiT ได้แก่
- ผู้ประกอบการไทยหรือผู้ประกอบการต่างชาติที่จดทะเบียนและเสียภาษีในประเทศไทย
- สินค้าต้องมีสัดส่วนมูลค่าวัตถุดิบที่ผลิตในประเทศอย่างน้อย 40% ตามหลักการ ASEAN Content
- ภาครัฐให้ แต้มต่อในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยกำหนดให้หน่วยงานรัฐใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศไม่น้อยกว่า 60%
2. การขับเคลื่อนโดยผู้บริโภครุ่นใหม่
ผลการศึกษาของ Morning Consult พบว่า ผู้บริโภคที่มี “ความภาคภูมิใจในชาติ” สูง มักจะเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ผลิตในประเทศตัวเองมากกว่า ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่พบในอีกกว่า 17 ประเทศ*ด้วย
กลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ที่อยากเข้าถึงกลุ่มนี้ คือการสื่อสารเรื่อง “การสร้างงานในประเทศ” และ “ที่มาของสินค้า” ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยดึงดูดผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับอัตลักษณ์ชาติและชุมชนท้องถิ่น และมีหลักฐานจากรายงาน Made in America (2023) ชี้ให้เห็นอีกว่าผู้บริโภคที่รักชาติก็เต็มใจที่จะจ่ายเงินมากขึ้น (แม้จะไม่มากขนาดนั้น) สำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศ
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก ThaiPBS ที่อ้างอิงผลสำรวจของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ระบุว่า ผู้บริโภคไทยยังคงนิยมสินค้าไทย โดยหมวดที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ อาหารและเครื่องดื่ม (42.99%) รองลงมาคือ แฟชั่นและเครื่องประดับ (15.85%)
สินค้าไทยที่ประชาชนมีแนวโน้มซื้อเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ สินค้าความงามและของใช้ส่วนบุคคล รวมถึงสินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ และเมื่อพิจารณาแบ่งตามอายุพบว่าประชาชนที่มีอายุน้อยมีแนวโน้มซื้อสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น โดย กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปีและกลุ่มนักศึกษา คือผู้ที่ซื้อของออนไลน์มากที่สุด โดยเฉพาะการซื้อ “ตรงจากผู้ผลิต” สะท้อนให้เห็นโอกาสเติบโตของช่องทางดังกล่าว ซึ่งอาจกลายเป็นหนึ่งในช่องทางหลักในอนาคต
ในขณะที่ประชาชนที่มีอายุเพิ่มมากขึ้นมีแนวโน้มซื้อสินค้าไทยลดลง สอดคล้องกับการพิจารณาตามรายอาชีพที่พบว่า บุคคลที่ไม่ได้ทำงานก็ได้นะและผู้เกษียณอายุแล้วมีแนวโน้มซื้อสินค้าไทยลดลงมากที่สุดและนักศึกษามีแนวโน้มซื้อสินค้าไทยเพิ่มขึ้นมากที่สุด
l> 17 ประเทศที่ Morning Consult ไปสำรวจ อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินเดีย, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, รัสเซีย, แอฟริกาใต้, เกาหลีใต้, สเปน, ตุรกี, อังกฤษ, และสหรัฐอเมริกา
[ 🧑‍💼 ตัวอย่างธุรกิจ ความนิยมของรองเท้าคาวบอยและสไตล์ Western ]
จากรายงานของ Business of Fashion กระแสความนิยมของรองเท้าคาวบอยและสไตล์ Western ในปี 2025–2026 ไม่ได้เป็นเพียงแฟชั่นชั่วคราว แต่สะท้อนความปั่นป่วนทางการเมืองและสังคมในสหรัฐฯ ที่ผลักให้ผู้คนหวนกลับไปมองหา “รากความเป็นอเมริกัน” ผ่านสัญลักษณ์คาวบอย ซึ่งแม้จะเป็นภาพอุดมคติมากกว่าความจริงทางประวัติศาสตร์ แต่กลับถูกตีความใหม่โดยคนหลากหลายเชื้อชาติ เพศ และความเชื่อ พร้อมก้าวขึ้นเป็นสัญลักษณ์ร่วมของอัตลักษณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแฟชั่นระดับโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
แบรนด์ระดับไอคอน เช่น Lucchese แบรนด์รองเท้าบู๊ตคาวบอยและเสื้อผ้าสไตล์คาวบอยทำมือระดับพรีเมียมยังคงเป็นศูนย์กลางของกระแสนี้ แหล่งข่าวระบุว่ามีการเปิดร้านเพิ่มปีละ 5 สาขา ปัจจุบันมีถึง 31 สาขา และวางขายรองเท้าบู๊ตราคาแรงสุดกว่า 17,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 561,000 บาท)
ขณะที่ Tecovas แบรนด์ค้าปลีกรองเท้าบู๊ตคาวบอยและเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกสัญชาติอเมริกันก็เร่งขยายธุรกิจ เปิดเพิ่มอีก 14 สาขาในปีเดียว โดยรุกตลาดใหม่อย่างนิวยอร์กที่เดิมไม่ใช่ฐานแฟนตะวันตก
นอกจากนี้ ช่างฝีมือของแบรนด์ Back at the Ranch ในเมืองซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโก ที่ทำรองเท้าบู๊ตคาวบอยสืบต่อกันมาถึงสามชั่วรุ่น นับตั้งแต่ Wendy Lane Henry ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1990 ดีไซน์รองเท้าแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจกลับเติบโตพุ่งทะยาน รายการรอสำหรับการสั่งทำล่วงหน้า 8 เดือน และเธอยังต้องเพิ่มสต๊อกในร้านขึ้นกว่า 40% เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าคาวบอยทำมือ ในรัฐเท็กซัส ระบุว่า ความสนใจที่พุ่งสูงสะท้อน “ความต้องการภาคภูมิใจในความเป็นชาติ” ของผู้บริโภค และมองว่า “คาวบอยและวัฒนธรรมตะวันตกคือภาพแทนความเป็นอเมริกันอย่างแท้จริง”
แรงส่งทางเศรษฐกิจชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อดูข้อมูลจากตลาดทุน หุ้นของ Boot Barn (ร้านค้าปลีกรองเท้าคาวบอย) ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ด้านรองเท้าคาวบอย พุ่งขึ้นกว่า 440% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
[ 💸 การลงทุนในแนวโน้มนี้ ]
- มองหาโอกาสลงทุนในบริษัทที่ตั้งฐานผลิตหรือซัพพลายเชนในประเทศตนเอง เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์อาหาร หรือแฟชั่นที่เน้นความเป็นท้องถิ่น รวมถึงเทคโนโลยีช่วยลดต้นทุน/ลดขยะในโรงงาน
- ในไทย โครงการ “Made in Thailand” และนโยบายจัดซื้อภาครัฐ กำหนดให้รัฐต้องซื้อสินค้าไทยเป็นหลัก ทำให้ผู้ประกอบการหรือกองทุนที่ลงทุนในบริษัทไทยที่มีเครื่องหมายนี้อาจได้ประโยชน์จากเงื่อนไขดังกล่าว เช่น เข้าร่วมระบบจัดซื้อภาครัฐ และผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (เช่น นวัตกรรม หรือออกแบบเฉพาะถิ่น) เพื่อเตรียมรับการประมูลงานภาครัฐมูลค่ามหาศาล
- สร้างแบรนด์จากเรื่องเล่าท้องถิ่นเป็นกลยุทธ์สำคัญ โดยเฉพาะการสื่อสารความโดดเด่นของสินค้าที่ผลิตในประเทศ ควรเน้นการตลาดที่สร้างความมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานสากล และชูจุดขายที่ผู้บริโภคให้คุณค่า เช่น การเน้นเรื่องการ "สร้างงานในประเทศ" หรือ "มรดก/ฝีมือช่างท้องถิ่น" เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่ให้ความสำคัญกับความเป็นชาติ
#aomMONEY #MakeRich #MakeRichGenerations #Patriotic #PatrioticAesthetic
โฆษณา