1 ชั่วโมงที่แล้ว • ธุรกิจ

สรุปภาษีป้าย สำหรับคนทำธุรกิจ ป้ายที่มี อักษรไทย สูงกว่า ตัวอักษรอังกฤษ เสียภาษีน้อยกว่า

- ตามกฎหมายแล้ว ถ้าเราเปิดกิจการ เปิดร้านค้า แล้วทำป้ายให้คนผ่านไปผ่านมาเห็น เราจะมีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายนั้นด้วย
และรู้หรือไม่ว่า ถ้าในป้าย มีตัวอักษรภาษาไทย อยู่เหนือตัวอักษรภาษาอังกฤษ จะเสียภาษีในอัตราต่ำกว่า
รายละเอียดสำคัญ ๆ ของภาษีป้าย มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
- ภาษีป้าย คือ ภาษีรายปีที่เจ้าของร้านหรือธุรกิจ ต้องจ่ายให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ถ้ามีการติดตั้งป้ายชื่อร้านหรือป้ายโฆษณา เช่น ป้ายหน้าร้าน, ป้ายบนตึก และบิลบอร์ดข้างทาง
โดยอัตราภาษีของป้าย มีราคาที่แตกต่างกัน โดยหลัก ๆ แล้ว สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท
- ประเภทที่ 1 ป้ายที่มีตัวอักษรไทยล้วน
ถ้าเป็นภาพนิ่ง จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 5 บาท ต่อ 500 ตร.ซม.
ถ้าเป็นป้ายเคลื่อนไหวได้ จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 10 บาทต่อ 500 ตร.ซม.
- ประเภทที่ 2 ป้ายที่มีตัวอักษรไทยปนกับตัวอักษรต่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงเลขอารบิก หรือมีตัวอักษรไทยปนกับรูปภาพ
โดยในประเภทนี้ตัวอักษรไทยต้องอยู่เหนือตัวอักษรต่างประเทศทุกตัว
ถ้าเป็นภาพนิ่ง จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 26 บาทต่อ 500 ตร.ซม.
ถ้าเป็นป้ายเคลื่อนไหวได้ จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 52 บาท ต่อ 500 ตร.ซม.
- ประเภทที่ 3 ป้ายที่ไม่มีตัวอักษรไทย หรือมีบางส่วนอยู่ต่ำกว่าตัวอักษรต่างประเทศ
ถ้าเป็นภาพนิ่ง จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 50 บาทต่อ 500 ตร.ซม.
ถ้าเป็นป้ายเคลื่อนไหวได้ จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 52 บาท ต่อ 500 ตร.ซม.
สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ป้ายที่เป็นภาษาไทยล้วน จะเสียภาษีในอัตราต่ำสุด
ส่วนป้ายที่มีตัวอักษรต่างประเทศล้วน หรือมีตัวอักษรไทย แต่อยู่ต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ
จะเสียอัตราภาษีสูงที่สุด ใน 3 ประเภทนี้
ทีนี้ลองมาคำนวณอัตราภาษีกันดู
สมมติว่า แจ่มศรี ต้องการติดป้ายชื่อหน้าร้านขายกาแฟของตัวเอง ขนาดกว้าง 300 ซม. x ยาว 100 ซม. ดังนั้นพื้นที่ป้าย = 300 x 100 = 30,000 ตร.ซม.
โดยใช้ชื่อ
“แบรนด์เคส คอฟฟี่
BrandCase Coffee”
คือมีตัวอักษรไทยอยู่ด้านบน และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ด้านล่าง
ซึ่งรูปแบบนี้ จะตรงกับป้ายประเภทที่ 2
เพราะฉะนั้น เราจะเทียบกับอัตราภาษี 26 บาทต่อ 500 ตร.ซม. ได้เท่ากับ
(พื้นที่ x อัตราภาษี) / 500 ตร.ซม.
= (30,000 x 26) / 500 = 1,560 บาท
ดังนั้น แจ่มศรี ต้องเสียค่าภาษีป้ายนี้ปีละ 1,560 บาท
โดยคร่าว ๆ คือจ่ายที่สำนักงานเทศบาล หรือสำนักงานเขตในพื้นที่นั้น ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม ของทุกปี
แต่ก็ต้องหมายเหตุว่า ก็จะมีการยกเว้นภาษีป้าย ให้กับบางกรณี
เช่น ป้ายราชการ, วัด, สมาคม, มูลนิธิ และป้ายที่มีล้อเลื่อน
ส่วนใครติดป้ายมาหลายปีแต่ไม่เคยเสียภาษีเลย แล้วเจ้าหน้าที่มาตรวจพบ
ก็จะโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้สูงสุด 5 ปี พร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามที่กฎหมายกำหนด
โฆษณา