Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สารพันความรู้
•
ติดตาม
22 พ.ย. เวลา 01:00 • ไลฟ์สไตล์
เมืองลี่เจี้ยน (Li-Jian / 驪靬) – เมืองโรมันในจีน?
ตำนาน กองทัพที่หายไป และความจริงที่อาจเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลก
บทนำ – จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าทหารโรมันหลงทางมาถึงจีนจริง?
ในประวัติศาสตร์โลกอันยิ่งใหญ่ มีน้อยครั้งที่อารยธรรมระดับมหาจักรวรรดิสองแห่งจะมีโอกาสได้เผชิญหน้ากันโดยตรง จักรวรรดิโรมันที่แผ่ขยายจากแอตแลนติกถึงเมโสโปเตเมีย และจักรวรรดิจีนที่ทรงอำนาจภายใต้ราชวงศ์ฮั่น ต่างเป็นสองขั้วมหาอำนาจของโลกยุคโบราณ แต่กลับแทบไม่เคยพบกัน
แต่ทว่ามี “จุดขาว” บนแผนที่ประวัติศาสตร์จุดหนึ่งที่ทำให้โลกสั่นไหว—
เมือง “ลี่เจี้ยน” (Li-Jian / 驪靬)
เมืองลึกลับที่ปรากฏในเอกสารจีนยุคราชวงศ์ฮั่น ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในดินแดนกานซู ชายขอบตะวันตกของจีน บางนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเมืองลี่เจี้ยนอาจเป็นผลพวงของทหารโรมันที่หลงเข้ามาในดินแดนจีนหลังจากการพ่ายแพ้ที่สมรภูมิคาร์ไร
ถ้านี่เป็นความจริง—
มันไม่ใช่แค่เรื่องเล่าข้ามทวีป แต่มันหมายถึงว่า โรมัน “เคย” เข้ามาในจีนจริง ๆ
และอาจตั้งรากฐานชีวิตใหม่ในแผ่นดินที่ห่างจากยุโรปกว่า 7,000 กิโลเมตร
บทความนี้จะพาคุณไล่เรียงตั้งแต่สงครามที่เปลี่ยนชะตากองทัพโรมัน การเดินทางของทหารที่ถูกจับเป็นเชลย เส้นทางการค้าโลกยุคโบราณ และหลักฐานที่อาจเปลี่ยนข้อสรุปเรื่องการติดต่อระหว่างสองอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
1) จุดเริ่มต้นของปริศนา – สงครามคาร์ไร และกองทัพโรมันที่หายไป
ปริศนาทั้งหมดของ “โรมันในจีน” เริ่มต้นจาก
สงครามคาร์ไร (Battle of Carrhae) ปี 53 ก่อนคริสตกาล
ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดพลาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โรมัน
แม่ทัพมาร์คัส ลิคินิอัส แครสซัส (Crassus) ผู้ร่ำรวยที่สุดในกรุงโรมและเป็นหนึ่งในไตรอำนาจร่วมกับซีซาร์และปอมเปย์ พยายามสร้างชื่อเสียงด้วยการรุกรานจักรวรรดิพาร์เธีย (Parthian Empire) แต่กลับพาโรมันเข้าสู่หายนะ
พาร์เธียชนะอย่างเด็ดขาด
ด้วยทหารม้าเบาและธนูคอมโพสิต พาร์เธียทำลายกองทัพโรมันกว่า 40,000 นายท่ามกลางทะเลทราย แครสซัสเสียชีวิต และกองทัพแตกกระเจิงอย่างสิ้นหวัง
10,000 นาย “หายไป” จากบันทึกโรมัน
ทหารโรมันจำนวนมากถูกจับเป็นเชลย ถูกกวาดต้อนไปยังเมืองชายแดนอันห่างไกลของพาร์เธีย บางส่วนถูกใช้เป็นทหารรับจ้างในสงครามกับชนเผ่าต่าง ๆ
และตรงนี้เองคือจุดที่ตำนานเริ่มต้น…
2) ทฤษฎี “กองทหารโรมันเดินทางถึงจีน”
นักประวัติศาสตร์บางคนเสนอว่า ทหารโรมันกลุ่มหนึ่ง—notably ประมาณ 1,000–1,500 นาย—อาจถูกขายต่อเป็นทาสหรือทหารกองเก็บภาษี และถูกพาไกลออกไปจนถึงชายแดนตะวันตกของจีน
หลักฐานมาจากเอกสารจีนยุคฮั่น เช่น “ประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่นเหนือ” (後漢書) ที่กล่าวถึง:
ชาวต่างชาติที่ใช้ยุทธวิธี “กำแพงโล่รูปปลา”
หรือ 魚鱗陣 – ยูหลินเจิ้น
นักวิชาการหลายคนสังเกตว่านี่คล้ายกับ
Testudo Formation (กำแพงเต่ายุทธวิธีโรมัน)
ที่ทหารจัดโล่ซ้อนกันจนทนลูกธนูได้
คำอธิบายดังกล่าวมีความน่าสนใจเพราะ:
ไม่ใช่รูปแบบการรบของชาวเอเชียตะวันออก
แต่ตรงกับโรมันอย่างชัดเจน
ปรากฏในพื้นที่ใกล้เมืองตุนหวงและกานซู
อยู่ในเส้นทางที่ทาสหรือเชลยของพาร์เธียมักถูกส่งไป
นี่คือร่องรอยแรกที่ชี้ว่า กองทัพโรมันอาจถูกนำเข้ามาในจีนจริง
3) เมืองลี่เจี้ยน (Lijian / 驪靬) ปรากฏขึ้น
บันทึกจีนยุคฮั่นมีการกล่าวถึงเมืองหนึ่งที่ชื่อ
ลี่เจี้ยน (驪靬 / Lijian)
ตั้งอยู่ทางตะวันตกของมณฑลกานซู พื้นที่เต็มไปด้วยทะเลทรายและภูเขา
ในภาษาจีนโบราณ “ลี่เจี้ยน” ถูกใช้เรียก:
ดินแดนของ กรีก–โรมัน
ดินแดนทางตะวันตกไกล (大秦 – แท้ฉิน หมายถึง Roman Empire)
ดังนั้น การมีเมืองชื่อแบบนี้ในจีนจึงเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง
ปริศนาที่น่าตกใจ
เมืองลี่เจี้ยนมีลักษณะบางอย่างที่ “ไม่เหมือนเมืองจีน” เลย เช่น:
ผังเมืองเป็น “ตาราง” แบบโรมัน
อาคารบางหลังมีร่องรอยโครงสร้างเสาเรียงคล้ายสุสานกรีก
ซากกำแพงถูกออกแบบเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉาก
ไม่มีโครงสร้างแบบป้อมจีนทั่วไปในสมัยฮั่น
บันทึกเล่าว่ามีทหารต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก
นี่ทำให้นักโบราณคดีจีนบางคนเริ่มตั้งคำถามว่า
“หรือมันคือเมืองที่ทหารโรมันสร้างขึ้น?”
4) ถ้าโรมันมาตั้งถิ่นฐานจริง – พวกเขามาอย่างไร?
เส้นทางที่เป็นไปได้ที่สุด
ทหารโรมันจากคาร์ไรถูกส่งเข้าไปในพาร์เธีย
พาร์เธียใช้พวกเขาออกรบกับชนเผ่าซงหนู
เมื่อพาร์เธียพ่ายในบางพื้นที่ ทหารโรมันถูกจับ “อีกครั้ง”
ถูกขายหรือถูกส่งไปยังราชวงศ์ฮั่นเป็นแรงงานหรือทหารรับจ้าง
ฮั่นนำไปตั้งในพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องกันชาวเร่ร่อน
ทหารกลุ่มนี้ตั้งถิ่นฐานและกลายเป็น “เมืองลี่เจี้ยน”
เส้นทางทั้งหมดนี้มีหลักฐานรองรับ เช่น
พาร์เธียมีประวัติส่งเชลยไปชายแดนไกลมาก
กองทัพจีนยุคฮั่นใช้ทหารต่างชาติจำนวนมาก
เส้นทางสายไหมทำให้การส่งเชลยไปไกลเป็นเรื่องปกติ
5) คนลี่เจี้ยนหน้าตา “ไม่เหมือนจีน” – บันทึกที่เพิ่มความขนลุกทางโบราณคดี
ในบันทึกท้องถิ่นสมัยราชวงศ์หมิง–ชิง ชาวบ้านในเขตลี่เจี้ยนมีลักษณะพิเศษคือ:
ดวงตาลึก
จมูกโด่ง
โครงหน้าคล้ายชาวยุโรป
ผมสีน้ำตาล
ผิวขาวกว่าชาวจีนแถบเดียวกัน
แม้คนสมัยใหม่จะหลากหลายขึ้น แต่ในสมัยก่อน ลักษณะเหล่านี้ถือว่าหายากมากในจีนตอนใน
นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่านี่อาจเป็นดีเอ็นเอที่สืบทอดมาจากทหารโรมัน
6) หลักฐานจากเอกสารจีน – เมื่อจีนเรียกโรมันว่า “ลี่เจี้ยน”
ในราชวงศ์ฮั่น เอกสารระบุชัดว่า:
ลี่เจี้ยน = ดินแดนกรีก–โรมัน
ชื่อที่จีนใช้เรียกจักรวรรดิโรมันคือ “大秦” (ต้า ฉิน – แท้ฉิน)
และในรายงานหนึ่งกล่าวว่า:
“ทหารลี่เจี้ยนเป็นผู้เชี่ยวชาญการเดินทัพด้วยโล่ และสร้างกำแพงโล่รูปปลา”
ประโยคเดียวนี้เป็นจุดที่ทำให้นักวิชาการทั่วโลกหันมาสนใจเรื่องราวของเมืองลี่เจี้ยนอย่างจริงจัง
7) เมืองลี่เจี้ยนถูก “ลืม” และหายไปจากแผนที่
ช่วงราชวงศ์ฮั่นล่มสลาย จีนเข้าสู่ยุควุ่นวาย เมืองชายแดนจำนวนมากถูกทิ้งร้าง รวมถึงลี่เจี้ยนด้วย
เมืองนี้ถูกกลืนหายไปในทะเลทรายและกาลเวลา จนกระทั่ง…
ปี ค.ศ. 1980–2000
โบราณคดีเริ่มขุดค้นบริเวณกานซู และพบโครงสร้างที่ “ไม่เหมือนจีน”
รวมถึงซากอาคารที่คล้ายกับ:
วิลล่าสไตล์โรมัน
บ้านแบบ courtyard
เสาตกแต่งคล้ายสไตล์เฮลเลนิสติก
ระบบกำแพงสี่เหลี่ยมแบบ castrum ของโรมัน
สิ่งเหล่านี้ทำให้สมมติฐานเข้มข้นกว่าเดิม
8) การถกเถียงของนักวิชาการ – มันเป็นโรมันจริงหรือไม่?
ปัจจุบันมี 3 กลุ่มความคิดหลัก:
กลุ่มที่เชื่อว่าเป็นเมืองโรมันจริง
พวกเขาเสนอว่า:
ผังเมืองและโครงสร้างตรงกับโรมันมาก
ยุทธวิธีในเอกสารจีนเหมือนโรมัน
ลักษณะคนท้องถิ่นคล้ายยุโรป
เส้นทางเดินเชลยพาร์เธียสอดคล้องกับบันทึกจีน
กลุ่มที่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ
อธิบายว่า:
การสร้างผังเมืองสี่เหลี่ยมไม่ใช่เรื่องเฉพาะโรมัน
ชาวเอเชียกลางอาจมีรูปลักษณ์คล้ายยุโรปบ้าง
บันทึกอาจตีความเกินจริง
กลุ่มทางสายกลาง
เชื่อว่า:
อาจมีทหารโรมันจำนวนหนึ่งถูกนำเข้าสู่จีนจริง
แต่จำนวนไม่มากพอจะสร้าง “เมืองโรมันแท้”
เมืองลี่เจี้ยนอาจเป็นเพียงเมืองจีนที่มีอิทธิพลผสม
9) ถ้าสมมติว่าทหารโรมันมาตั้งเมืองจริง – ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร?
นี่เป็นคำถามที่นักประวัติศาสตร์ชอบจินตนาการ:
ทหารที่หนีออกจากสมรภูมิอย่างสิ้นหวัง
กลายเป็น
ทหารรับจ้างของพาร์เธีย
จากนั้นกลายเป็น
เชลยศึกของชนเผ่าเอเชียกลาง
และสุดท้าย
ได้รับการยอมรับจากจักรวรรดิจีน
ในฐานะ:
ผู้พิทักษ์ชายแดน
ผู้เชี่ยวชาญยุทธวิธีโล่
ผู้ตั้งถิ่นฐานต่างชาติ
พวกเขาอาจแต่งงานกับหญิงจีน มีลูกหลาน และใช้ชีวิตในดินแดนที่ห่างไกลจากบ้านเกิดจนลืมความเป็นยุโรป
นี่เป็นหนึ่งในชะตากรรมที่แปลกและน่าตื้นตันที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
10) DNA สามารถตอบคำถามได้ไหม?
งานวิจัยบางชิ้นเสนอว่า:
ชาวท้องถิ่นบางคนมี DNA ใกล้เคียงชาวยุโรปใต้
แต่ผลยังไม่ชัดเจน
จำเป็นต้องขุดค้นหลุมศพเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน
นักโบราณคดียอมรับว่าเรื่องนี้ยังห่างไกลจากข้อสรุป แต่ “เป็นไปได้” ที่จะพิสูจน์ในอนาคต
11) เมืองลี่เจี้ยนในวัฒนธรรมร่วมสมัย – ตำนานที่ไม่มีวันตาย
เรื่องราวของลี่เจี้ยนถูกดัดแปลงเป็น:
ภาพยนตร์จีน
สารคดี BBC
งานวิจัยระดับโลก
ทฤษฎีประวัติศาสตร์ทางเลือก (alternative history)
เพราะมันคือเรื่องราวที่ผสมกันระหว่าง:
ประวัติศาสตร์จริง
ช่องว่างทางข้อมูล
ความเป็นไปได้ที่ยากจะปฏิเสธ
และความโรแมนติกของการพบกันระหว่างสองอารยธรรมยิ่งใหญ่
12) บทสรุป – เมืองลี่เจี้ยนคือเมืองโรมันในจีนจริงหรือไม่?
จนถึงตอนนี้คำตอบที่ดีที่สุดคือ:
“อาจเป็นไปได้” แต่ยัง “พิสูจน์ไม่ได้ 100%”
แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ—
เรื่องราวของเมืองลี่เจี้ยนทำให้เราเห็นว่าประวัติศาสตร์โลกไม่ได้แข็งทื่ออย่างที่คิด
และสองอารยธรรมใหญ่ที่สุดของโลกอาจ “เคยมองเห็นกันและกัน” มากกว่าที่เราเชื่อเสมอมา
เมืองลี่เจี้ยนอาจเป็น:
เมืองที่ทหารโรมันสร้าง
เมืองที่ชาวเอเชียกลางตั้ง และจีนเรียกด้วยชื่อที่สื่อถึงโรมัน
หรือเป็นหลักฐานการพบกันของโรมัน–จีนในระดับบุคคล ไม่ใช่ระดับจักรวรรดิ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร…
มันคือหนึ่งในปริศนาที่ทำให้ประวัติศาสตร์โลกน่าค้นหาที่สุด
และอาจเป็นหนึ่งในบทที่ยังรอให้มนุษย์ “เปิดเผยความจริง” ในวันหนึ่ง
ความรู้รอบตัว
ชีวิต
เรื่องเล่า
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย