23 พ.ย. เวลา 13:41 • ประวัติศาสตร์

จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และหนึ่งศตวรรษแห่งความอัปยศ

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ไม่น่าจะคุยเรื่องเครียดๆ แต่อ่านความเห็นของผู้คนจำนวนมากเหตุการณ์ความร้าวฉานจีน-ญี่ปุ่น ส่วนมากวนอยู่ในประเด็นนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป บ้างว่าดี จะได้ไปเที่ยว บ้างว่าไม่ดี เหล่านี้เป็นแค่ปลายเหตุ (effect) เป็นรายละเอียดปลีกย่อย
3
จะเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ ต้องดูที่โครงสร้างหลักของปัญหา (cause) แต่จะทำอย่างนั้นได้ ต้องเข้าสู่พื้นที่ประวัติศาสตร์
เมื่อวานซืน ครม. ญี่ปุ่นอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและการทหารเป็นเงิน 135 พันล้านดอลลาร์ เฉพาะงบป้องกันประเทศก็เท่ากับ 2% ของ GDP (เทียบกับสหรัฐฯ ใช้งบทหาร 3.4% ของ GDP จีนใช้ประมาณ 1.5%)
แสดงว่านายกฯญี่ปุ่นยืนยันตามที่พูด ไม่ถอยเรื่องการทหารแน่ และชาวญี่ปุ่นก็สนับสนุน
1
คำถามเราควรตั้งคือ "ทำไม"
การลดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้าญี่ปุ่นเป็นแค่ออร์เดิร์ฟ การจัดหนักจะตามมา เพราะจีนจะใช้โอกาสนี้ส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า อย่าล้ำเส้นเรื่องไต้หวัน
2
จะให้คนอื่นเชื่อ ก็ต้องจัดหนัก
หลายคนอาจบอกว่า มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิเลือกระบอบการปกครองได้ ชาวไต้หวันก็ควรมีสิทธิเช่นกัน นี่ขึ้นกับมุมมองซึ่งผูกกับประวัติศาสตร์
5
ในมุมมองของจีน ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนยิ่งเสียกว่ารัฐฮาวาย เท็กซัส แคลิฟอร์เนีย นิว เม็กซิโก เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ยังไม่ต้องย้อนไปถึงยุคอินเดียนแดงว่าอเมริกันยึดครองทั้งแผ่นดินมาอย่างไร
3
สมมุติว่าบ่ายวันนี้รัฐฮาวายขอประกาศอิสรภาพ เพราะถือว่ามีสิทธิ์ (และจริงๆ ก็มีสิทธิ์ เพราะสหรัฐฯได้ฮาวายมาจากการก่อรัฐประหารยึดอำนาจด้วยกำลังทหาร แล้วผนวกเป็นรัฐที่ 50) วอชิงตันคงส่งกำลังทหารไปปราบไม่เกินพระอาทิตย์ตกดิน
2
จีนเป็นชาติที่ไม่ลืมประวัติศาสตร์ คนจีนอาจยอมชาติอื่นๆ ในหลายเรื่อง แต่ไม่มีวันลืมว่าพวกตะวันตกกระทำชำเราประเทศตนอย่างไรในช่วงปี 1839-1949 จีนเรียกหนึ่งร้อยปีที่จีนถูกกระทำชำเราว่า หนึ่งศตวรรษแห่งความอัปยศ (The Century of Humiliation)
2
จีนถูกอังกฤษยึดเมืองต่างๆ รวมทั้งฮ่องกง และต่อมาเมื่อเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างเจียงไคเช็กกับเหมาเจ๋อตง หรือระหว่างก๊กมินตั๋งกับคอมมิวนิสต์ เจียงไคเช็กแพ้ ถอยไปตั้งปราการสุดท้ายที่ไต้หวัน จีนคอมมิวนิสต์ตัดสินไม่ตามไปเผด็จศึกให้จบ ทำให้เป็นปัญหาคาราคาซังจนถึงวันนี้ สำหรับจีน สงครามกลางเมืองยังไม่จบ
1
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จีนยังปล่อยไต้หวันเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อรักษา status quo (สภาวะเดิม) ไว้ ตราบที่ไต้หวันอยู่เฉยๆ ไม่เต้นไปตามแรงเชียร์ของฝ่ายตะวันตก เพราะจีนต้องการยึดไต้หวันแบบสันติ ไม่ต้องการฆ่าจีนด้วยกัน
แต่วันใดที่ไต้หวันประกาศอิสรภาพ วันนั้นจะเกิดสงครามแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ต่อให้รู้ว่าจะเกิดสงครามโลก ก็จะทำ เพราะจีนไม่มีทางยอมรับความอัปยศอีกรอบ
2
ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง
ความเห็นของอดีตผู้นำสิงคโปร์ ลีกวนยูในเรื่องนี้คือ ผู้นำจีนคนใดทำให้ไต้หวันหลุด จะหลุดจากตำแหน่งไปด้วย ดังนั้นจีนจะไม่มีวันยอมเรื่องนี้ จะรบกี่รอบก็รบ
1
ชาติใดไม่เข้าใจเรื่องนี้ แสดงว่าไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์จีนเลย
2
ล่าสุดก็คือญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเองก็เคยถูกชาติตะวันตกบีบเหมือนกัน แต่รอดจากลัทธิล่าอาณานิคม ญี่ปุ่นพัฒนาประเทศทันท่วงที เป็นประเทศแรกในเอเชียที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมสำเร็จ กลายเป็นประเทศพัฒนา และใช้ลัทธิทหารนำ
2
แต่ขณะที่จีนถูกชาติตะวันตกกินโต๊ะในหนึ่งศตวรรษแห่งความอัปยศ ในปี 1894 ญี่ปุ่นก็ผสมโรงบุกจีนบ้าง ทูตจีนถามทูตญี่ปุ่นว่า "พวกคุณบุกเราทำไม? เราเป็นเอเชียเหมือนกัน" ทูตญี่ปุ่นตอบว่า "อ๋อ! ตอนนี้เราเข้าเป็นสมาชิกคลับชาติตะวันตกแล้วละ" แล้วก็ยึดครองไต้หวันในปี 1895 ตามมาด้วยที่อื่นๆ ครองไต้หวันนานถึง 50 ปี
5
ในสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นฆ่าคนจีนไปราว 10 ล้านคน เฉพาะที่นานกิง ทหารญี่ปุ่นฆ่าคนจีนไปสามแสนคน ข่มขืนผู้หญิงจำนวนมหาศาล มีการแข่งขันกันว่าใครฆ่าคนจีนได้มากกว่า บางวันทหารญี่ปุ่นข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนมิชชันนารีแห่งหนึ่งรวดเดียวพันกว่าคน มีการประเมินว่าทหารญี่ปุ่นน่าจะข่มขืนผู้หญิงจีนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน
6
ไม่มีทางที่จีนจะลืมเรื่องนี้
1
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นเสนอจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามและค่าความเสียหายต่างๆ ที่กระทำต่อจีน แต่ผู้นำจีนโจวเอินไหลปฏิเสธ ให้เหตุผลว่า ทั้งคนจีนและคนญี่ปุ่นต่างก็บาดเจ็บเพราะลัทธิทหารของญี่ปุ่น (Japanese Militarism 日本軍国主義) เหมือนกัน
5
นี่ทำให้ความสัมพันธ์ของสองชาติค่อยดีขึ้น พออยู่กันได้
แต่เมื่อนายกฯสายเหยี่ยวคนใหม่ของญี่ปุ่น พูดเรื่องรื้อฟื้นสิ่งที่ดูเหมือนลัทธิทหารขึ้นมาใหม่ เพื่อเตรียมรับเหตุจีนบุกไต้หวัน ก็เท่ากับจุดประกายให้คนจีนนึกถึงปิศาจแห่งสงครามที่เคยทำร้ายจีนอย่างแสนสาหัสมาก่อน ในมุมมองของคนจีนที่ผ่านประวัติศาสตร์เลวร้ายและถูกกระทำมากว่าร้อยปี มันล้ำเส้นเกินรับได้
3
ลีกวนยูเคยเขียนว่า การรวมชาติของจีนกับไต้หวันจะเกิดขึ้นแน่ แค่รอเวลาเท่านั้น ไม่มีประเทศไหนสามารถหยุดมันได้
1
เขาบอกว่าสหรัฐฯจะไม่ทำสงครามกับจีนเรื่องไต้หวัน เพราะมันไม่คุ้ม อเมริกาอาจรบชนะในรอบแรก แต่จะรบไปอีกสักกี่รอบ? เพราะจีนยอมเทหมดหน้าตัก แต่สหรัฐฯจะไม่ยอมแน่
1
เพราะสหรัฐฯไม่ได้แคร์อะแดมน์กับประชาธิปไตยของไต้หวันหรอก ไม่เช่นนั้นนิกสันจะไม่มีทางเซ็นสัญญา 'จีนเดียว' กับเหมาเจ๋อตง แต่ในรอบสิบกว่าปีนี้ สหรัฐฯต้องการใช้ไต้หวันเป็นหมากล้อมจีนต่างหาก เพราะจีนโตเร็วเกินไป
1
สหรัฐฯไม่ต้องการโลก multipolar สหรัฐฯต้องการเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว
สหรัฐฯสร้างภาพว่าคอมมิวนิสต์คือปิศาจมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ได้ยินคำนี้ก็ผวา ดังนั้นเวลามีข่าวคอมมิวนิสต์ประหารชีวิตคน จะร้ายแรงกว่าฝ่ายประชาธิปไตยประหารชีวิตคน
3
แต่เรื่องคอมมิวนิสต์ช่วยคนจีนหลายร้อยล้านคนข้ามพ้นความยากจน กลับไม่เป็นข่าว
1
อย่างไรก็ตามสหรัฐฯก็ยังระวัง แค่ยุไต้หวันให้ต้านจีน ยังไม่ถึงขั้นไปตั้งฐานทัพที่ไต้หวัน เพราะถ้าวันนั้นมาถึง จีนก็อาจขอไปตั้งฐานทัพที่คิวบาบ้าง และสงครามโลกครั้งที่สามก็คงเลี่ยงไม่พ้น
นี่ก็คือสิ่งที่ทุกชาติกระทำ เมื่อถูกข้ามเส้นมากเกินไป
ตัวอย่างที่ใกล้ที่สุดคือสงครามยูเครน เมื่อ NATO ชวนยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิก รัสเซียก็บุกยึดไครเมียทันที เมื่อ NATO เล่นไม่เลิก ขยายอำนาจไปที่ยูเครน ประชิดชายแดนรัสเซีย รัสเซียก็ไม่รีรอบุกยูเครนทันที
นี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกับกรณีพิพาทเรื่องหมู่เกาะคูริลระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นซึ่งกินเวลานานหลายสิบปียังไม่สรุป รัสเซียไม่ยอมคืนเกาะให้ญี่ปุ่น เพราะกลัวว่าวันหนึ่งญี่ปุ่นบ้าจี้ ให้อเมริกาไปสร้างฐานทัพที่นั่น จ่อคอหอยรัสเซีย
ทุกเรื่องมีเส้นที่ล้ำไม่ได้ขวางอยู่
1
ดังนั้นชาติไหนที่บ้าจี้ตามก้นสหรัฐฯต้อยๆ ในนโยบายไต้หวัน ก็ควรคิดให้รอบคอบ เพราะจีนมีพลังทางเศรษฐกิจมากพอส่งผลกระทบทุกชาติในโลก ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
1
และสมมุติว่าเกิดเรื่องลงไม้ลงมือกัน อย่าคาดหวังว่าสหรัฐฯจะช่วย ถึงเวลานั้นก็ตัวใครตัวมัน ตัวอย่างที่เห็นๆ ก็คือสงครามเวียดนาม อัฟกานิสถาน
2
ดังนั้นใครที่ออกตัวแรงเอาใจลูกพี่ ก็พึงระวัง เพราะวันหนึ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นมา พบว่าตนเองรบอยู่คนเดียวบนแผ่นดินที่แตกสลาย ไม่เชื่อถามเซเลนสกีดูว่าดื่มน้ำใบบัวบกวันละกี่แก้ว
2
อ่าน geopolitics ในภาพรวม ก็จะเห็นว่า ยูเครนเป็นหมากของตะวันตกที่ใช้เล่นงานรัสเซีย ไต้หวันก็เป็นหมากที่ใช้เล่นงานจีน ญี่ปุ่นต้องระวังไม่ให้ตัวเองกลายเป็นหมากอีกตัวหนึ่ง
2
การเมืองโลกต้องเดินหมากด้วยความระวัง ผู้นำต้องรู้จักศิลปะการเดินหมาก อย่าคิดดังเกินไป ไม่งั้นคนเดือดร้อนก็คือประชาชน
1
ก็มาถึง why
ทำไมญี่ปุ่นจะรื้อฟื้นพลังทางทหาร? นายกฯญี่ปุ่นคิดไม่เป็นหรือ? คำตอบคือไม่ใช่ ญี่ปุ่นก็อ่านหมากเป็น เชื่อว่าคงพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นต้องขยายกองทัพเตรียมพร้อม กรณีที่ต้องต้านจีน
1
ญี่ปุ่นไม่อยากเป็นศัตรูกับจีน แต่อาจประเมินแล้วว่าเมื่อจีนใหญ่ขึ้นๆ จนถึงจุดหนึ่ง ใครจะรู้ว่าจีนจะไม่ยึดครองญี่ปุ่น ก็มีเหตุผลให้ระแวงระวัง เพราะสิบกว่าปีนี้ ขณะที่สหรัฐฯก่อสงครามไปทั่วโลก จีนกลับส่งเม็ดเงินไปสร้างสาธารณูปโภคในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา จนแต่ละชาติเป็นหนี้จีนมหาศาล และตกอยู่ใต้อิทธิพลจีนโดยปริยาย นอกจากนี้ก็ยังริเริ่ม The Belt and Road Initiative หรือ The New Silk Road กับ BRICS ต้านฝ่ายตะวันตก นี่เป็นยุทธศาสตร์สามก๊กชัดๆ !
4
นี่อาจทำให้ญี่ปุ่นต้องระแวงว่า จีนกำลังเดินหมากเพื่อคิดการใหญ่ และญี่ปุ่นอาจโดนไปด้วย มันเป็น the sum of all fears ตามชื่อนิยายของ ทอม แคลนซี เป็นความกลัวที่เข้าใจกันได้
1
แต่การจัดการกับความกลัวต้องระวังอย่างสูง ไม่ใช่คิดดังขนาดนั้น และส่งผลระหว่างประเทศดังที่เห็น และผลที่กำลังจะตามมา แม้ว่านายกฯญี่ปุ่นจะยังคงได้รับเสียงสนับสนุนภายในประเทศ แต่โดนไปนานๆ คะแนนนิยมก็อาจร่วง ไม่เชื่อถามเซเลนสกีดู
1
คำถามที่สำคัญที่สุดที่ญี่ปุ่นต้องถามตัวเองคือ ตนประเมินสถานการณ์ถูกต้องหรือไม่ จีนคิดจะครองโลกจริงๆ หรือไม่
เรื่องนี้ยาว ต้องว่ากันอีก 1-2 บทความ…
1
โฆษณา