โดยส่วนนิทรรศการหลักที่เป็นไฮไลต์ต้องยกให้ นิทรรศการ Thai Intelligence เผยกระบวนการออกแบบที่กลั่นกรองจากภูมิปัญญามนุษย์ ผ่านผลงานต้นแบบจริงของงานฝีมือและองค์ประกอบสถาปัตยกรรม สะท้อนการคิด ทดลอง และสั่งสมประสบการณ์ของสถาปนิกไทย ผสานเทคนิคภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่การออกแบบร่วมสมัยที่ได้รับการยอมรับทั้งระดับโลกและภูมิภาค (From Global to Local / From Local to Global) นิทรรศการนี้ไม่ใช่เพียงการจัดแสดง แต่เพื่อเฉลิมฉลองภูมิปัญญามนุษย์ อันเป็นรากฐานในการสร้างสรรค์
อีกหนึ่งไฮไลต์ คือ ASA ALL MEMBER : ไทยแลนด์ โอนลี่ นิทรรศการผลงานสมาชิกสมาคมสถาปนิกสยามฯ นำเสนอการตีความงานออกแบบสถาปัตยกรรมในบริบทความเป็นไทย ผ่านแง่มุมการคิดและการเป็นอยู่ ที่อาจมีทั้งความงดงาม อรรถรสเชิงกวี อารมณ์ขัน เสียดสี หรือสะท้อนวิถีชีวิตจริง
ซึ่งซ้อนทับอยู่ในกระบวนการคิดของผู้ออกแบบ และถ่ายทอดออกมาอย่างสร้างสรรค์ในแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น ในส่วนของงานสัมมนา หรือ FORUM ยังคงมีเช่นเดิมสำหรับ ASA INTERNATIONAL FORUM ที่มี keynote speakers สถาปนิกระดับโลกและมีชื่อเสียง พร้อมมาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ในหัวข้อน่าสนใจ เช่น “การน้อมรับปัญญาประดิษฐ์” และ “การเชิดชูภูมิปัญญามนุษย์ที่ไร้กาลเวลา” เป็นต้น
ในงานสถาปนิก’67 ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกเจอร์รี่ หง (Jenchieh Hung) และกุลธิดา ทรงกิตติภักดี จาก HAS Design and Research ที่คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นจากทั่วโลก ที่จัดโดย The Chicago Athenaeum Museum’s International Architecture Awards ประเทศสหรัฐอเมริกา
และในงานสถาปนิก’69 ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมี Thematic Pavilion มากที่สุดถึง 7 พื้นที่ ได้แก่ 1. WATSADUNIYOM x HAA STUDIO 2. VANACHAI x Studio Tofu 3. TODA x Supermachine 4. PANEL PLUS X ACa Architects 5. SCG x SaTa Na 6. HAFELE x HAS Design and Research 7. BRT x Context Studio