การลงทุนเริ่มต้นจากอะไรดี
1. ทำความเข้าใจตัวเองและเป้าหมาย
ก่อนจะเอาเงินไปลงทุน ต้องรู้ตัวเองก่อน
เป้าหมายการลงทุน: อยากได้เงินเก็บระยะสั้น (1–3 ปี) / ระยะกลาง (3–5 ปี) / ระยะยาว (5+ ปี)
ความเสี่ยงที่รับได้: เสี่ยงมาก = กำไรสูง/ขาดทุนมาก, เสี่ยงน้อย = กำไรช้าแต่มั่นคง
สภาพการเงินปัจจุบัน: มีหนี้สินอะไรไหม, มีเงินสำรองฉุกเฉิน 3–6 เดือนไหม
> ถ้าไม่มีเงินฉุกเฉินก่อน อย่าเพิ่งลงทุนหนัก ๆ เด็ดขาด เพราะเดี๋ยวพอเจอเหตุฉุกเฉินจะเครียดมาก
2. ทำความรู้จักเครื่องมือการลงทุน
มีหลายแบบ แต่แบ่งคร่าว ๆ ได้แบบนี้:
ประเภท รายละเอียด ความเสี่ยง ตัวอย่าง
เงินฝาก/ออมทรัพย์ ฝากธนาคาร ดอกเบี้ยคงที่ ต่ำ ธนาคารไทยพาณิชย์, กรุงไทย
พันธบัตร/ตราสารหนี้ รัฐหรือบริษัทออกให้ ต่ำ–กลาง พันธบัตรรัฐบาล, กองทุนตราสารหนี้
หุ้น ซื้อหุ้นบริษัท สูง หุ้น BBL, PTT, AOT
กองทุนรวม ลงทุนผ่านกองทุนที่มีคนจัดการ ต่ำ–สูง ขึ้นกับประเภท กองทุนหุ้น, กองทุนผสม, กองทุนตราสารหนี้
อสังหาฯ บ้าน/คอนโดให้เช่า กลาง–สูง คอนโดปล่อยเช่า, บ้านลงทุน
คริปโต/ทอง/สินค้าโภคภัณฑ์ สินทรัพย์เสี่ยงสูง สูงมาก BTC, ETH, ทองแท่ง, น้ำมัน
> แนะนำผู้เริ่มต้น: เริ่มจาก เงินฝาก, กองทุนรวมแบบตราสารหนี้/ผสม, หุ้นใหญ่ แล้วค่อยขยับไปลงทุนเสี่ยงสูง
3. เรียนรู้และวางแผนก่อนลงเงินจริง
อ่านหนังสือหรือคอร์สพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุน เช่น หุ้น, กองทุน, การวิเคราะห์พื้นฐาน
ทดลองลงทุน จำลอง/บัญชีทดลอง (เช่น แอปจำลองซื้อขายหุ้น)
วางแผนเงินลงทุน: แบ่งเงินเป็นสัดส่วน เช่น
เงินฉุกเฉิน: 3–6 เดือนค่าใช้จ่าย
เงินลงทุน: เริ่มจาก 10–20% ของรายได้ที่เหลือ
4. เริ่มต้นลงทุนแบบจริงจัง
กองทุนรวม: ลงง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ แค่เลือกแบบเสี่ยงต่ำ–กลางสำหรับเริ่มต้น
หุ้น: เริ่มจากหุ้นใหญ่ (Blue Chip) มีความมั่นคงสูง
สเต็ปเล็ก ๆ: ลงทีละน้อยแต่สม่ำเสมอ (Dollar-Cost Averaging) ลดความเสี่ยงจากความผันผวน
5. ติดตามและปรับพอร์ต
เช็คทุกเดือน–ไตรมาส: กำไร/ขาดทุน, สัดส่วนลงทุน
ปรับตามสถานการณ์: ถ้าตลาดผันผวนมาก ให้ลดสัดส่วนความเสี่ยง
ไม่ควรขายเพราะตกใจชั่วคราว: การลงทุนต้องคิดแบบระยะยาว
6. สิ่งต้องระวังสำหรับมือใหม่
อย่าเอาเงินฉุกเฉินมาลงทุน
อย่าตามเทรนด์หรือข่าวลือ
ห้ามยืมเงินคนอื่นมาลงทุน
เรียนรู้ก่อนลงทุนสูงเสี่ยง เช่น คริปโต, หุ้นเล็ก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
