Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
24 พ.ย. เวลา 13:50 • การเมือง
สงขลา
Hercules ส่งน้ำใจสู่หาดใหญ่
"การลำเลียงสิ่งของบรรเทาภัยพิบัติเป็นขีดความสามารถที่กองทัพอากาศเตรียมพร้อมไว้แล้ว และยืนยันว่าเครื่องบิน C-130 ยังสามารถใช้งานได้อยู่ มีโครงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการที่ดำเนินการตั้งใหม่ และขีดความสามารถดังกล่าวยังคงจำเป็นต่อไปในอนาคต"
"ทั้งนี้ กองทัพอากาศจะพยายามบริหารทรัพยากรและงบประมาณที่ได้รับอย่างดีที่สุด โดยมองถึงความจำเป็นรอบด้าน ไม่ได้จัดหามาเพื่อใช้เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น จะต้องใช้ได้ในหลายภารกิจ ทั้งด้านการรบและด้านอื่นๆ เช่น การช่วยเหลือประชาชนในกรณีนี้ด้วย พร้อมยืนยันให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กองทัพอากาศจะดูแลขีดความสามารถต่างๆ อย่างดีที่สุด"
พลอากาศเอกเสกสรร คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)
C-130H กองทัพอากาศไทย
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน หลายท่านกำลังให้ความสนใจเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่รวมถึงพื้นที่อื่นๆในประเทศไทยไม่แพ้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในการช่วยเหลือประชาชนจากน้ำท่วม เครื่องบินที่ใช้นั้นแม้ความเร็วจะไม่ได้สูงมากนักเมื่อเทียบกับเครื่องบินไอพ่น
เครื่องบินแบบนี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการมอบน้ำใจ มอบความสุขแก่พี่น้องชาวหาดใหญ่เพื่อให้พ้นทุกข์จากสถานการณ์ในครั้งนี้ ถ้าพร้อมแล้วขอเชิญทุกท่านพบกับเรื่องราวของ C-130 Hercules ยักษ์ใหญ่แห่งกองทัพอากาศไทยกันครับ
เครื่องบินลำเลียง Lockheed C-130 Hercules หรือชื่อที่กองทัพอากาศไทยเรียกคือเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (บ.ล.8) ถือเป็นเครื่องบินที่ได้รับความสำคัญและมีความอเนกประสงค์เป็นอันดับต้น ๆ ในประวัติศาสตร์ ได้รับฉายาว่าเป็น "เครื่องบินม้างาน" (workhorse) ที่พร้อมสำหรับทุกภารกิจ ถูกผลิตอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าเครื่องบินทางทหารรุ่นอื่น ๆ
C-130 ถือกำเนิดขึ้นในช่วงสงครามเย็น โดยโครงการเริ่มต้นในทศวรรษ 1940 และได้รับแรงผลักดันจากความต้องการเครื่องบินขนส่งที่เหนือกว่าเครื่องบินลูกสูบในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 (เช่น C-47) ซึ่งไม่เพียงพอต่อสงครามเกาหลี ในปีค.ศ.1951 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ออกข้อกำหนดให้สร้างเครื่องบินขนส่งขนาดกลางที่ใช้เครื่องยนต์ Turbo Prop
พลอากาศเอกเสกสรร คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ
โมเดล 82 ซึ่งเป็นต้นแบบของเครื่องบิน C-130 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับภารกิจหลัก 4 อย่าง รวมถึง การส่งเสบียงให้แก่กองกำลังที่ถูกล้อมหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล และ การสนับสนุนการขนส่งกำลังบำรุง (Logistics) คณะออกแบบอากาศยานเชื่อมั่นว่าเครื่องบินลำเลียงแบบดังกล่าวนี้จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้และยังเหนือกว่าข้อกำหนดด้านพิสัยการบรรทุกถึง 8 เท่าของเครื่องบินที่มีอยู่ในขณะนั้น
ความสามารถที่ทำให้ Hercules เหมาะกับยามสงครามหรือภัยพิบัติประกอบด้วย
การปฏิบัติการในสนามบินที่รันเวย์ไม่เรียบ เพื่อรองรับข้อกำหนดในการลงจอดในสนามบินดังกล่าว ชุดล้อลงจอดของ C-130 จึงถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยใช้ชุดล้อคู่พร้อมยางแรงดันต่ำ ซึ่งช่วยให้เครื่องบินสามารถ ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยจากสนามบินที่เตรียมไว้กึ่งสำเร็จ นี่เป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเข้าถึงพื้นที่ที่โครงสร้างพื้นฐานเสียหายจากภัยพิบัติ
ด้วยความที่มีพื้นที่บรรทุกขนาดใหญ่
เครื่องบิน C-130 จึงมีพื้นที่บรรทุกที่กว้างขวางสำหรับทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงสิ่งของบรรเทาสาธารณภัย โดยมีความยาว 41 ฟุต กว้าง 10 ฟุต 3 นิ้ว และสูงถึง 9 ฟุต สามารถใช้ประตูสินค้า 2 ส่วนด้านหลังในการโหลดสิ่งของแบบตรง
C-130 คือเจ้าแห่งการขนส่งทางอากาศเพราะอะไร เพราะว่าในภารกิจช่วยเหลือทหารที่พื้นที่ลงจอดเป็นอันตรายหรือเข้าถึงยาก C-130 มีความเชี่ยวชาญในการส่งสินค้าโดยใช้เทคนิคพิเศษ
จุดเด่นของ C-130 คือมีการติดตั้งระบบการดึงสินค้าด้วยร่มชูชีพในระดับต่ำ (Low Altitude Parachute Extraction System - LAPES): เป็นเทคนิคที่สินค้าที่บรรจุบนพาเลทพร้อมร่มชูชีพขนาดใหญ่ จะถูกดึงออกไปในขณะที่เครื่องบินบินอยู่เหนือพื้นไม่กี่ฟุต เทคนิคนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการส่งเสบียงให้หน่วยที่อยู่โดดเดี่ยว หรือพื้นที่ที่อันตรายเกินกว่าจะนำเครื่องบินลงจอด
C-130H-30 รุ่นลำตัวยาว
Hercules มีบทบาทสำคัญในภารกิจบรรเทาทุกข์ทางมนุษยธรรมนับไม่ถ้วนทั่วโลก ผู้คนที่ประสบวิกฤตในหลายพื้นที่ เช่น คองโก, โซมาเลีย, เนปาล , ตุรกี , บอสเนีย, โคโซโว, ญี่ปุ่น, และนิวออร์ลีนส์หลังพายุเฮอร์ริเคนแคทรีนา ล้วนได้รับประโยชน์จากความสามารถในการนำส่งสินค้าทางอากาศที่ไม่มีใครเทียบได้ของ C-130 ตัวอย่างเช่น หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในเฮติ เมื่อเดือนมกราคมปีค.ศ. 2010 เครื่องบินลำเลียง C-130 ได้ช่วยลำเลียงสินค้ากว่า 13,600 ตัน
จากสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2568
เป็นบริบทที่สมบูรณ์แบบที่ต้องการความสามารถเฉพาะตัวของ C-130 ในขณะนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นวิกฤตรุนแรงที่สุดในรอบหลายร้อยปี ทำให้อำเภอหาดใหญ่ต้องประสบอุทกภัยหนักที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกรมชลประทานระบุว่า มีปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง มากกว่า 300–500 มม. และปริมาณฝนสูงสุด 335 มม. เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี
อุปสรรคที่สำคัญในเหตุการณ์ครั้งนี้และครั้งที่ผ่านๆมา นั่นคือหาดใหญ่มีลักษณะภูมิประเทศเป็น พื้นที่ราบลุ่มต่ำคล้ายแอ่งกระทะ ทำให้น้ำจากหลายทิศทาง เช่น เขาคอหงส์ อำเภอนาหม่อม อำเภอจะนะ ไหลมารวมกันที่คลองอู่ตะเภาได้ง่าย และระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลายาก
ความล่าช้าในการช่วยเหลือในสถานการณ์เช่นนี้ Thairath Online รายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมทำให้ประชาชนหลายครัวเรือน เดือดร้อน ติดอยู่บนหลังคาบ้าน และขาดแคลนอาหารและน้ำ ข้อมูลนี้สะท้อนถึงความล่าช้าและช่องว่างในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาวะวิกฤตดังกล่าว
เมื่อเมืองหลวงของภาคใต้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ที่ทำให้กองทัพอากาศไทยไม่รีรอ C-130 ในฐานะเครื่องบินที่ถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งเสบียงให้แก่ทหารในหน้าแนว บัดนี้ได้บินจากกองบิน 6 ดอนเมืองมาลงจอดที่กองบิน 56 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อ ส่งมอบความช่วยเหลือโดยการนำส่งสิ่งของบรรเทาสาธารณภัยแก่ประชาชนในพื้นที่
C-130H-30 หมายเลข 60112 สังกัดฝูงบิน 601 กองบิน 6 ดอนเมือง
ในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ Hercules สามารถ ส่งน้ำใจสู่ประชาชนไม่ว่าจะเป็น อาหาร, น้ำ, และเวชภัณฑ์ นี่คือการปกป้องประชาชนของกองทัพอากาศไทยกับศัตรูที่ไม่ใช่ทหาร ในสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงครั้งใหญ่นี้ ทหารอากาศมีความเป็นจิตอาสา ทำหน้าที่โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ไม่มีการแบ่งยศ แบ่งตำแหน่ง นี่คือการช่วยเหลือที่เป็นไปด้วยความสามัคคีของคนไทย
นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้ Hercules เป็นตัวแทนของกองทัพอากาศไทยในสถานการณ์ที่ไม่ใช่การรบ กองทัพอากาศไทยได้ส่งมอบความหวัง ส่งมอบรอยยิ้มและความช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤตเพื่อให้พี่น้องชาวไทยในปักษ์ใต้ทุกท่านผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล มีภัยพิบัติที่ใด มีสมรภูมิที่ใด C-130 จะบินไปหาท่านได้ทันที
ข้อมูลจำเพาะ C-130
ลูกเรือ : 5 นาย (นักบินสองนาย พลนำร่อง วิศวกรการบิน และพลลำเลียง)
ความจุ :
ผู้โดยสาร 92 คน หรือ
ทหารพลร่ม 64 นาย หรือ
ผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมเปล 72 คนพร้อมแพทย์ 2 นาย หรือ
ฮัมวี 2-3 คัน หรือ
ยานเกราะทหารราบ เอ็ม113 1 คัน
น้ำหนักอาวุธ 20,000 กิโลกรัม
ความยาว 28.8 เมตร
ระยะระหว่างปลายปีกทั้งสอง : 40.4 เมตร
ความสูง : 11.6 เมตร
พื้นที่ปีก : 162.1 ตารางเมตร
น้ำหนักเปล่า : 34,400 กิโลกรัม
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 70,300 กิโลกรัม
ขุมกำลัง : เครื่องยนต์เทอร์โบใบพัดอัลลิสัน ที56-เอ-15 4เครื่องยนต์ ให้กำลังเครื่องละ 4,590 แรงม้า
ความเร็วสูงสุด : 592 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เพดานบินใช้งาน : 28,000 ฟุต
อัตราการไต่ระดับ : 1,830 ฟุตต่อนาที
พิสัย : 3,800 กิโลเมตร
เข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย : พ.ศ.2523 (ค.ศ.1980)
C-130 เข้าประจำการมาเป็นเวลา 45 ปี ในกองทัพอากาศไทย
C-130 คือความภาคภูมิใจแห่งทัพฟ้าไทย คือเครื่องบินลำเลียงที่ไม่เคยหยุดบิน คือผู้ส่งมอบน้ำใจแก่ชาวไทยในทุกทุกโอกาส แม้จะผ่านมากว่า 45 ปีแล้วที่เครื่องบินแบบนี้ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือพี่ประชาชนในทุกๆพื้นที่ แม้กระทั่งน้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้เครื่องบินแบบดังกล่าวก็ยังคงมีความสำคัญในฐานนะ "ม้างาน" แห่งกองทัพอากาศไทย
ดังคำขวัญฝูงบิน 601 กองบิน 6 ดอนเมืองที่ว่า "8 DAYS A WEEK" สำหรับวันนี้ผู้เขียนขอนำภาพที่ C-130 นำสิ่งของบรรเทาสาธารณภัยไปมอบแก่พี่น้องชาวใต้ในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งมาฝากให้ทุกท่านได้รับชมกัน ขณะนี้ผู้เขียนขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
Thai Weapon Channel
Wikipedia
Thairath Online
หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน
Kittidej Sanguantongkham
FRED WILLEMSEN
เรียบเรียงโดย : จ่าหวาน เกรียงไกร
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย