Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bnomics
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 ชั่วโมงที่แล้ว • ธุรกิจ
US Government Shutdown: ทำไมสหรัฐฯ ถึงยัง “ปิดประเทศตัวเอง” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
ในวันที่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกหยุดเดิน การสั่นสะเทือนจะกระทบไปไกลกว่ากำแพง Capitol Hill ตั้งแต่พนักงานรัฐไร้เงินเดือน ความล่าช้าในบริการสาธารณะ จนถึงความเชื่อมั่นธุรกิจที่สั่นคลอน “Shutdown” จึงไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะกิจ แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของวิกฤตความแตกแยกทางการเมืองอเมริกันยุคใหม่
🇺🇸 Government Shutdown คืออะไร?
Shutdown เกิดขึ้นเมื่อสภาคองเกรสและประธานาธิบดี “ตกลงกันไม่ได้” เรื่องงบประมาณรายปีหรือมาตรการงบประมาณชั่วคราว (Continuing Resolution)
กฎหมายสหรัฐฯ ห้ามหน่วยงานใช้งบโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้บริการรัฐจำนวนมากต้องหยุดทำงานทันทีเมื่อวงเงินเดิมหมดอายุ
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้วมากกว่า 20 ครั้ง สะท้อนความขัดแยกทางการเมืองที่ลึกขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นี่คือ “บาดแผลที่สหรัฐฯ สร้างเอง” ตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐฯ ปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้วมากกว่า 20 ครั้ง สะท้อนการเมืองที่แตกแยกขึ้นเรื่อยๆ
🔹1995–96: ศึกงบประมาณยุคคลินตัน
ความขัดแย้งเรื่องตัวเลขงบประมาณระหว่าง Office of Management and Budget (OMB) และ Congressional Budget Office (CBO) ทำให้รัฐบาลต้องปิดทำการรวม 26 วัน จนตลาดการเงินเริ่มกังวล และพรรครีพับลิกันต้องถอย กลายเป็นตัวอย่างแรกที่ชี้ว่า “การเมืองสามารถหยุดรัฐได้จริง”
🔹2013: ศึก Obamacare
Shutdown 16 วัน ต้นเหตุคือ “Affordable Care Act” หรือ Obamacare โครงการขยายประกันสุขภาพให้คนรายได้น้อย ข้อพิพาทที่สร้างความเสียหายหนักกว่าคาด
- S&P ประเมินความเสียหาย 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- พนักงานรัฐเสียเวลา 6.6 ล้านวันทำงาน
- เอกชนสูญเสียตำแหน่งงานราว 120,000 ตำแหน่ง
- บริการรัฐจำนวนมากสะดุด ตั้งแต่ความปลอดภัยอาหารจนถึงงานวิจัย
สิ่งที่เริ่มจากนโยบายสาธารณสุข กลายเป็นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจทั้งระบบชะงัก ความเชื่อมั่นในรัฐบาลกลางลดลงอย่างหนัก
🔹2018: ศึกกำแพงสหรัฐฯ–เม็กซิโก
ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ สหรัฐฯ ปิดหน่วยงานรัฐบาล 35 วัน จากข้อเรียกร้องงบ 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างกำแพงกั้นสหรัฐฯ–เม็กซิโก
CBO ประเมินว่า shutdown ครั้งนั้นทำให้
- การใช้จ่ายของรัฐล่าช้า 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- GDP ไตรมาส 4 ปี 2018 หายไป 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- GDP ต้นปี 2019 ต่ำกว่าศักยภาพอีก 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้เศรษฐกิจจะฟื้นบางส่วน แต่ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากไม่ได้ฟื้นกลับมาเลย นี่คือผลกระทบถาวรที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองเพียงเรื่องเดียว
🔹2025: Shutdown ที่ “ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์”
ปี 2025 สหรัฐฯ ทำลายสถิติอีกครั้ง ปิดรัฐบาล 43 วัน เพราะขัดแย้งเรื่อง เงินอุดหนุนเบี้ยประกันสุขภาพ สำหรับประชาชน 24 ล้านคน
ผลลัพธ์คือเช็คเงินเดือนหยุดจ่าย โครงการอาหารสะดุด การบินล่าช้า และหน่วยงานรัฐทำงานด้วยบุคลากรจำกัด
สุดท้ายวุฒิสภาลงมติ 60–40 ให้เปิดรัฐบาล แต่ทิ้งคำถามไว้สองข้อใหญ่
- อนาคตของเงินอุดหนุนเบี้ยประกันสุขภาพ
- ภาระหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นปีละราว 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ยอดหนี้รวมแตะระดับ 38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้การเปิดรัฐบาลช่วยให้พนักงานหลายล้านคนกลับมาทำงาน และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่ Fed ต้องใช้กลับมาเดินหน้าต่อได้ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนวิกฤตความเชื่อมั่นในระบบการเมืองสหรัฐฯ อย่างลึกซึ้ง—ประเทศผู้นำโลกที่ปล่อยให้ความขัดแย้งทางการเมืองบั่นทอนศักยภาพของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แล้วประเทศอื่นเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหม?
รายงานของ Peter G. Peterson Foundation ระบุว่า การปิดรัฐบาล “แทบไม่เกิดขึ้น” ในประเทศพัฒนาแล้ว เพราะมีกลไกกันชนไม่ให้บริการสาธารณะถูกนำไปใช้ต่อรองทางการเมือง
🇩🇪เยอรมนี: งบประมาณล่าช้าเป็นเรื่องปกติในปีเลือกตั้ง แต่รัฐบาลยังคงใช้วงเงินปีเก่าต่อไปตามกฎหมาย และสามารถกู้เพิ่มได้สูงสุด 25% ของงบปีที่แล้ว
🇰🇷เกาหลีใต้: หากรัฐสภาพิจารณางบไม่ทัน จะมี “งบประมาณชั่วคราว” ทำงานอัตโนมัติ หน่วยงานรัฐจึงเดินหน้าต่อได้ไม่สะดุด
🇬🇧สหราชอาณาจักร: แม้งบไม่ผ่านอาจนำไปสู่ยุบสภา แต่ “ระบบราชการไม่ปิด” รัฐยังทำงานต่อเต็มรูปแบบ
หลักคิดร่วมของประเทศเหล่านี้คือ: บริการสาธารณะไม่ควรถูกจับเป็นตัวประกันของการต่อรองทางการเมือง
📍เมื่อประชาธิปไตยกลายเป็นอุปสรรคของตัวเอง
ในหลายประเทศ รัฐจะหยุดทำงานก็ต่อเมื่อเกิดภัยระดับชาติ แต่ในสหรัฐฯ รัฐบาลกลับหยุดเมื่อการเมือง “ไม่ยอมถอยให้กัน”
สิ่งที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสหรัฐฯ ตั้งใจให้เป็นกลไกถ่วงดุล วันนี้กลับกลายเป็นเชื้อไฟให้ความแตกแยกภายในลุกลาม
เมื่อเครื่องจักรเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกชะงัก ผลกระทบไม่เคยหยุดอยู่แค่ในสหรัฐฯ แต่กระจายไปทั่วทั้งโลก
และเราพร้อมหรือยังสำหรับโลกที่แบ่งขั้วขึ้นทุกวัน ในเมื่อแม้แต่ผู้นำเศรษฐกิจโลกเองยังไม่อาจเยียวยาความแตกแยกภายในของตัวเองได้
เรื่อง: พรปวีณ์ ธรรมวิชัย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ: บริษัท ก่อการดี จำกัด
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economist, Bnomics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
#USGovernmentShutdown #การเมืองสหรัฐฯ #เศรษฐกิจโลก #ธนาคารกรุงเทพ #Bnomics #BBL #BangkokBank
2 บันทึก
5
1
2
5
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย