4 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น
ขออนุญาตผู้โพสต์ (พิมพ์ชนก) กำลังตั้งคำถามเชิงปรัชญาชีวิต ผสมกับความท้อแท้ในความสัมพันธ์ โดยแบ่งประเด็นสำคัญออกเป็น 3 ดังนี้
1. ปรากฏการณ์ "ดีผิดแบบกลับด้าน": ภาพสะท้อนสังคมที่มักเห็นคนดี (ซื่อสัตย์, อดทน) ไปจับคู่กับคนเห็นแก่ตัว ในขณะที่คนร้ายกาจกลับได้คนดีๆ ไปครอง
2. กับดักของ "คนดี": เหมือนผู้โพสต์วิเคราะห์ว่าความดีนั้นเองที่เป็นจุดอ่อน
* ความอดทน: ทำให้คนร้ายกาจรู้ว่าทำอะไรก็ได้
* ความรักจริง: กลายเป็นเหยื่อของการถูกเอาเปรียบ
* ความกลัว: กลัวการเริ่มต้นใหม่ ทำให้ยอมทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ (Toxic Relationship)
3. พันธนาการที่มองไม่เห็น: ไม่ใช่แค่ความรัก แต่คือ "ความทรงจำ, ความผูกพัน, การลงทุนทางอารมณ์ (Sunk Cost), และความรู้สึกผิด" ที่ทำให้เลิกไม่ได้ ทั้งที่เจ็บปวด
ตอบคำถาม: อะไรคือปัจจัยที่ผูกคนสองแบบนี้ไว้? (เวรกรรม หรือ/ เราเอง)
> คำถามที่ว่า "มันคือโชคชะตา หรือเป็นใจเราเองที่ไม่กล้าตัดคนผิดออกจากชีวิต?" สามารถตอบได้โดยแบ่งเป็น 2 มุมมอง คือ มุมมองทางจิตวิทยา และ มุมมองทางความเชื่อ ดังนี้ค่ะ!
1. ในมุมมองทางจิตวิทยา (Psychological Perspective)
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นกลไกทางจิตใจที่ดึงดูดคนสองประเภทนี้เข้าหากัน หรือที่เรียกว่า "The Giver and The Taker" (ผู้ให้และผู้รับ)
# กฎแรงดึงดูดของความต่าง (Opposites Attract)
* คนดี (Giver/Empath): มักมีความเห็นอกเห็นใจสูง ชอบดูแล และรู้สึกมีคุณค่าเมื่อได้ "ให้" หรือ "ซ่อมแซม" ใครสักคน
* คนเห็นแก่ตัว (Taker/Narcissist): มองหาคนที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของตนเองโดยไม่มีเงื่อนไข
* ผลลัพธ์: เหมือนจิ๊กซอว์ที่ลงล็อคกันพอดี คนหนึ่งชอบให้ คนหนึ่งชอบรับ จึงเกิดแรงดึงดูดมหาศาลในช่วงแรก
# การขาดขอบเขต (Lack of Boundaries)
* คนดีๆ มักเข้าใจผิดว่า "ความรักคือการเสียสละ" หรือ "ความอดทนคือเครื่องพิสูจน์รักแท้" ทำให้ยอมลดเพดานมาตรฐานของตัวเองลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นการ อนุญาต ให้คนอื่นทำร้าย
# Sunk Cost Fallacy (กับดักต้นทุนจม)
* ตรงกับที่ในข้อเขียนว่า "การลงทุนทางอารมณ์" คือความรู้สึกเสียดายเวลาและความดีที่ทุ่มเทไป ทำให้เลือกที่จะทนต่อเพราะหวังว่าสักวันเขาจะเปลี่ยน หรือความดีจะเอาชนะใจได้ (ซึ่งมักไม่เกิดขึ้นจริง)
# Trauma Bonding (พันธะจากความเจ็บปวด)
* ความสัมพันธ์แบบ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย (Intermittent Reinforcement) ทำให้สมองเสพติดสารเคมีแห่งความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาทำดีด้วย ทำให้เลิกได้ยากกว่าความสัมพันธ์ที่แย่ตลอดเวลา
2. ในมุมมองทางความเชื่อ/กรรม (Spiritual Perspective)
หากจะมองว่าเป็น "กรรม" ตามที่ผู้โพสต์สงสัย:
* บททดสอบ (Life Lesson): กรรมในที่นี้อาจไม่ใช่การถูกลงโทษ แต่เป็น "บทเรียน" ที่โลกส่งมาเพื่อให้ "คนดี" เรียนรู้ที่จะ "รักตัวเอง (Self-love)"
* ตราบใดที่คนดียังไม่เรียนรู้ที่จะเคารพตัวเอง ยังไม่กล้าปฏิเสธ และยังเอาความสุขไปผูกไว้กับคนอื่น โลกก็จะเหวี่ยงคนประเภทเดิมๆ เข้ามาซ้ำๆ จนกว่าจะสอบผ่านบทเรียนนี้ (คือการกล้าเดินออกมา)
บทสรุปคำตอบ:
ปัจจัยที่ผูกคนสองแบบนี้ไว้ด้วยกัน "ไม่ใช่โชคชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" แต่เป็น "กลไกทางจิตใจที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข" ค่ะ..
* คนเห็นแก่ตัว: อยู่เพราะ "สบาย" และ "ได้ประโยชน์"
* คนดี: อยู่เพราะ "กลัว" (กลัวไม่ดีพอ, กลัวเริ่มต้นใหม่, กลัวการสูญเสีย) และ "ความหวัง"
คำตอบคือ: เป็นใจเราเองค่ะ... ใจที่ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะตัดเนื้อร้าย การเจอกันอาจเป็นเรื่องของจังหวะชีวิต(หรือเวรกรรม) แต่การเลือกที่จะ "อยู่ต่อ" ในนรก เป็นการตัดสินใจของเราเอง (แม้จะเป็นการตัดสินใจภายใต้ความกลัวก็ตาม)
โฆษณา