ServiceNow เจ้าของระบบที่มาช่วยให้ ชีวิตพนักงานออฟฟิศง่ายขึ้น จนมีมูลค่า 5,400,000 ล้านบาท
เรื่องราวความสำเร็จในโลกธุรกิจ เรามักจะได้ยินกันถึง กลยุทธ์สุดแปลกใหม่ ที่ชอบทำให้คนฟังอย่างเรา รู้สึกประทับใจอยู่ไม่น้อย
แต่องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้บริษัทหนึ่ง ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ อาจจะไม่ได้มีแค่เพียงหน้าฉากคือด้านกลยุทธ์ในการเจาะตลาดเท่านั้น
เพราะระบบหลังบ้านที่เป็นตัวคอยค้ำชู ให้บริษัทยังคงยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง ก็มีความสำคัญมากไม่แพ้กัน
ซึ่งบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ทำตัวเป็นผู้ปิดทองหลังพระ คอยดูแลระบบหลังบ้านของหลากหลายบริษัทที่เป็นลูกค้า ให้ทำงานได้อย่างราบรื่นในทุกวัน
ชื่อของบริษัทนั้นคือ “ServiceNow”
หากสงสัยว่า บริษัทนี้เป็นใคร มาจากไหน และมีความสำคัญอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
ServiceNow ก่อตั้งในปี 2004 โดยคุณ Fred Luddy ที่มีไอเดียธุรกิจ อยากทำให้ทุกองค์กร มีระบบการทำงานหลังบ้านด้าน IT ที่ไหลลื่นขึ้น
ผ่านระบบที่เรียกว่า IT Service Management หรือ ITSM
ITSM ก็คือ ระบบบริหารจัดการด้าน IT ของบริษัท แบบครบวงจร เพื่อทำให้การทำงานของแต่ละองค์กร เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
เพราะในสมัยก่อน การดูแลและแก้ไขระบบหลังบ้านของบริษัทมักจะช้า แถมใช้พนักงานเยอะ
และในหลาย ๆ ครั้ง ทีมบริหารระบบหลังบ้าน ที่มักจะเจอปัญหาทั้งเล็กใหญ่ ถาโถมเข้ามาใส่ในทุกวัน ก็มักจะไม่รู้ว่าควรจะเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อแก้ไขอย่างไร และจะต้องหาใครมารับผิดชอบบ้าง
แต่เมื่อมี ITSM ก็จะช่วยให้ทีมได้เห็นภาพรวม และกระบวนการทำงานที่เกิดขึ้นแบบทันท่วงที
ทีนี้ต่อไปพอเจอปัญหา คนดูแลระบบก็จะรู้ได้ทันทีว่า จะต้องแก้ไขอย่างไร และควรให้ใครมารับผิดชอบ
ตรงนี้ก็อาจจะมีคนสงสัยว่า ฟังดูแล้วระบบ ITSM ก็ดูไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลย เพราะแค่เข้ามาช่วยให้บริษัททำงานได้เร็วขึ้น แค่นั้นเองหรือ
แล้วทำไมลูกค้าอย่างบริษัทใหญ่ ๆ ถึงจะต้องจ่ายเงินปีละหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ ServiceNow ด้วย ?
ดังคำที่ว่ามากคนก็มากความ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีจำนวนพนักงานเยอะ ความซับซ้อนในองค์กรก็จะยิ่งมากตามไปด้วย
ปัญหาที่จะตามมา จึงยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย เช่น การสื่อสารข้ามแผนกที่ผิดพลาด, ข้อมูลถูกเก็บกระจัดกระจายหาไม่เจอ ไปจนถึงงานตกหล่นไม่มีคนรับผิดชอบ
ซึ่งในบางครั้งปัญหาเหล่านี้ อาจนำไปสู่ความสูญเสียทางธุรกิจ ที่เมื่อคิดเป็นตัวเงินจริง ๆ แล้ว สำหรับบริษัทระดับนี้ ก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลยด้วย เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าเงินที่จ่ายให้ ServiceNow เสียด้วยซ้ำ
ดังนั้น การมีระบบ ITSM ที่ดี ที่คอยช่วยดูแลการทำงานขององค์กรตลอดเวลา จึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ ถ้าองค์กรอยากจะสร้างรากฐานการเติบโต อย่างยั่งยืนไปยาว ๆ
โดย ServiceNow มีผลิตภัณฑ์ชูโรงชื่อว่า “Now Platform”
ซึ่งเปรียบเสมือน เป็นสมองกลางขององค์กร ที่จะรวบรวมกระบวนการทำงานทั้งหมด ให้เชื่อมต่อกัน จนทำงานได้อย่างอัตโนมัติ ไม่มีตกหล่น
เมื่อลูกค้าจ่ายเงินแบบ Subscription ให้ ServiceNow แล้ว ก็จะได้สิทธิ์ใช้งาน Now Platform ไปติดตั้งไว้บริหารระบบหลังบ้านของลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบริษัทจะเริ่มต้นมาจากด้าน ITSM แต่กลับพบว่า ปัญหาหลังบ้านของแต่ละบริษัท ไม่ได้มีแค่ด้าน IT เพียงอย่างเดียว
ส่วนงานอื่น ๆ ก็เจอปัญหาติดขัดไม่ต่างกัน บริษัทจึงได้ขยายบริการออกไป เพื่อตอบโจทย์การทำงานขององค์กรในยุคนี้ ให้ครอบคลุมมากที่สุด เช่น
- IT Workflows เป็นระบบจัดการ IT ภายในองค์กร ให้ทำงานแบบอัตโนมัติ
- Employee Workflows ระบบช่วยบริหารพนักงานในองค์กร ให้มีประสิทธิภาพ
- Customer Workflows ระบบช่วยจัดการงานด้านบริการลูกค้า
- Creator Workflows บริการที่ช่วยให้ลูกค้า สามารถสร้างแอปพลิเคชันของตนเองได้แบบง่าย ๆ ผ่าน Now Platform
นอกจากนี้ก็ยังมีบริการอย่าง Now Assist และ Workflow Data Fabric ที่นำ AI เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ให้บริษัทลูกค้า ทำงานได้ดียิ่งขึ้นเข้าไปอีก
- Now Assist คือ Generative AI ของบริษัท ที่จะฝังตัวอยู่ในทุกส่วนของระบบ ไว้คอยช่วยแก้ปัญหาให้พนักงาน สำหรับปัญหาที่ไม่ได้ซับซ้อนมากเกินไป
เช่น ตอบคำถามพนักงานเป็นสิบ ๆ คน ที่ทักมาถามเรื่องสวัสดิการพื้นฐานและวันลาซ้ำ ๆ แทนแผนก HR
หรือ เสนอวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้คนที่แจ้งเข้ามา สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ในเวลาไม่กี่นาที แทนการให้แผนก IT มานั่งอธิบาย
ที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อช่วยให้พนักงานด้านสนับสนุน ไม่ต้องมาเสียเวลาแก้ปัญหาประเภทจุกจิก แล้วจะได้เอาเวลาที่เหลือไปใช้ กับเรื่องที่สำคัญที่สุดแทนนั่นเอง
- ส่วน Workflow Data Fabric คือระบบข้อมูลอัจฉริยะ ที่จะดึงข้อมูลจากทุกส่วนที่อยู่ในองค์กร ไม่ว่าจะมาจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทไหนก็ตาม ให้เชื่อมถึงกันได้
เพราะปกติแล้ว เมื่อบริษัทเราใช้บริการแพลตฟอร์มจากผู้ให้บริการหลายแหล่ง ข้อมูลของบริษัท ก็มักจะผูกอยู่ในแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง แบบกระจัดกระจาย
เช่น บริษัทอาจจะเก็บข้อมูลการเงินไว้บนระบบคลาวด์ของ Oracle, ข้อมูลลูกค้าบนคลาวด์ของ Salesforce และข้อมูลสต๊อกสินค้าบนคลาวด์ AWS
พอถึงเวลาที่ผู้บริหารจะเอาข้อมูลเหล่านี้ มาใช้งานจริงก็จะต้องเสียเวลาไปรวบรวมมาทีละอัน และในบางครั้งข้อมูลสำคัญก็อาจจะมีการตกหล่นไปบ้าง
ทำให้องค์กรไม่สามารถนำข้อมูลที่เก็บไว้ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้
แต่เมื่อมี Workflow Data Fabric ของ ServiceNow ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป
เพราะนอกจากระบบ จะดึงข้อมูลจากทุกส่วน มาให้เราเห็นพร้อมกันแบบเรียลไทม์แล้ว ก็ยังฝัง AI ไว้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบการตัดสินใจได้อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราน่าจะเข้าใจถึงธุรกิจของบริษัทอย่าง ServiceNow กันดีขึ้นแล้ว
จากจุดเริ่มต้นในปี 2004 ของผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Fred Luddy ที่ได้มองเห็นปัญหา ที่คนส่วนใหญ่อาจจะเลือกมองข้ามไป
แต่ภายในแค่ระยะเวลา 21 ปีมานี้ ไอเดียนั้นก็ได้เติบโต ต่อยอดเรื่อยมา จนทำให้ ServiceNow ในวันนี้ กลายมาเป็นอีกหนึ่งบริษัทสำคัญ
ที่องค์กรยักษ์ใหญ่ของโลก อย่างบริษัทใน Fortune 500 เกือบทั้งหมด ก็ยังต้องเป็นลูกค้าของ ServiceNow แบบแทบจะขาดไม่ได้แล้วด้วย
เพราะผู้บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นต่างก็รู้ดี ว่าถ้าหากไม่มีบริการของ ServiceNow
ทุกวันที่ไปทำงานตอนเช้า คงต้องกลับมาเจอกับความวุ่นวาย และงานจุกจิกมากมาย ที่เขาไม่อยากเสียเวลาทำ จนต้องให้ ServiceNow จัดการ นั่นเอง..
หมายเหตุ : บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
#ลงทุน
#หุ้นนอก
#NOW
References
- 10-K ปี 2024 บริษัท ServiceNow, Inc.
- Yahoo Finance มูลค่าบริษัท ServiceNow, Inc. ณ วันที่ 21/11/2025
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
