27 พ.ย. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิดใจ! ปธ.หอการค้าสงขลา มหาอุทกภัยหาดใหญ่ เสนอรัฐใช้คนละครึ่งช่วยฟื้นฟู

เปิดใจ! "ทรงพล" ประธานหอการค้าสงขลา ชี้หาดใหญ่เผชิญวิกฤตหนักสุดในรอบหลายสิบปี ทำธุรกิจอัมพาต เสนอรัฐใช้คนละครึ่งช่วยฟื้นฟู
นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในอำเภอหาดใหญ่และทั่วจังหวัดสงขลาว่า ขณะนี้พื้นที่กำลังเผชิญ “ภาวะวิกฤตที่สุด” เท่าที่เคยเจอ ประชาชนจำนวนมากยังติดค้างอยู่ในจุดที่ความช่วยเหลือเข้าไม่ถึง ทั้งอาหารและสิ่งจำเป็น ขณะที่ระดับน้ำในหลายชุมชนสูงถึงชั้นสองของบ้าน หลายหลังไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ทำให้พื้นที่เมืองส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมด เหลือเพียงบางจุดเท่านั้นที่ยังปลอดภัย
นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา
เศรษฐกิจ “เกือบเป็นอัมพาตทั้งเมือง”
ในมุมของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ นายทรงพล ระบุว่า โรงแรมกว่า 20,000–30,000 ห้อง เปิดให้บริการได้ไม่ถึง 5–10% เพราะถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถดำเนินงานได้ ร้านค้า ร้านอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงโชว์รูมในเมืองแทบทั้งหมดต้องหยุดชะงัก พนักงานจำนวนมากเดินทางมาทำงานไม่ได้ ขาดแคลนอาหารและซัพพลายต่างๆ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ “เกือบเป็นอัมพาตทั้งเมือง”
ด้านภาคอุตสาหกรรม แม้โรงงานในพื้นที่รอบนอก เช่น อ.สะเดาและ อ.สิงหนคร จะยังไม่ถูกน้ำเข้าท่วมโดยตรง แต่ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาสำคัญ คือ ระบบไฟฟ้าที่ถูกตัด และน้ำมันที่ขาดแคลน เนื่องจากสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งจมน้ำ ซึ่งโรงงานต้องพึ่งเครื่องปั่นไฟ และหากน้ำมันไม่เพียงพอ การผลิตก็มีโอกาสหยุดลงแม้พื้นที่จะไม่ถูกน้ำท่วมก็ตาม
สำหรับการรับมือในระยะสั้น โรงงานที่ยังดำเนินงานได้ต้องรีบจัดหาน้ำมัน เครื่องปั่นไฟ และอุปกรณ์สื่อสาร ขณะที่ภาครัฐจำเป็นต้องเร่งกู้คืนระบบไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ เพราะระบบสื่อสารในเมืองแทบใช้งานไม่ได้ ส่งผลให้การประสานงานช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างลำบาก แม้ทีมอาสาจะเข้าไปช่วยในหลายพื้นที่ แต่หากไม่มีคนนำทาง ก็แทบไม่สามารถเข้าไปถึงชุมชนด้านในได้
เสนอมาตรการคนละครึ่ง ช่วยฟื้นฟูบ้าน-รถยนต์
ขณะเดียวกัน มาตรการทางการเงิน นายทรงพล ชี้ให้เห็นว่า ขณะนี้ประชาชนหาดใหญ่แทบไม่มีโอกาสรับรู้ข่าวสารความช่วยเหลือทางการเงินจากธนาคาร เพราะไฟฟ้าถูกตัดเกือบทั้งเมือง แต่เสนอแนะว่า สิ่งที่จำเป็นที่สุดในตอนนี้คือ “เงินเยียวยาแบบให้เปล่า” เพื่อเริ่มฟื้นฟูชีวิตขั้นต้น ตามด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือแทบไม่มีดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องซ่อมแซมกิจการ เนื่องจากทรัพย์สินสำคัญของหลายครัวเรือน เช่น รถยนต์ เครื่องมือทำมาหากิน และทรัพย์สินในบ้านต่างจมน้ำเสียหายเกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ นายทรงพลเสนอว่า ภาครัฐควรพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น การซ่อมแซม หรือสนับสนุนการซื้อรถใหม่แบบร่วมจ่าย คล้ายโครงการคนละครึ่ง เพื่อช่วยให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการประสานความช่วยเหลือของอำเภอหาดใหญ่ มีศูนย์รับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ. หาดใหญ่) แต่เนื่องจากระดับน้ำเริ่มเข้าพื้นที่ยิมเนเซียม จึงมีการเตรียมย้ายจุดรับบริจาคขึ้นสู่พื้นที่สูง ขณะที่อุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น เรือและเครื่องมือกู้ภัย ยังคงรับบริจาคที่ค่ายเสนานรงค์ ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการหลักสำหรับกระจายกำลังลงพื้นที่
ทั้งนี้ สิ่งที่ขาดแคลนหนักที่สุดตอนนี้คือ “ระบบสื่อสาร” เนื่องจากหลายชุมชนไม่สามารถโทรศัพท์หรือส่งสัญญาณออกมาได้ ทำให้การประเมินจุดเสี่ยงและจุดที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นไปได้ยาก
เศรษฐกิจหาดใหญ่หยุดชะงัก หนักสุดตั้งแต่ปี 2553
นายทรงพลย้ำว่า นี่คือสถานการณ์น้ำท่วม “หนักที่สุด” ที่หาดใหญ่เคยเผชิญ ระดับน้ำสูงกว่าปี 2553 หลายเท่า บางจุดลึกกว่า 3.5 เมตร และหลายพื้นที่ที่เคยท่วมเพียงชั้นหนึ่ง ครั้งนี้แตะถึงชั้นสอง ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินในวงกว้าง
ในมิติทางเศรษฐกิจ จังหวัดสงขลามีมูลค่าเศรษฐกิจราว 250,000 ล้านบาทต่อปี โดยหาดใหญ่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญกว่า 45% จากการประเมินเบื้องต้นเพียงช่วงหยุดชะงัก 6–7 วันแรก ความเสียหายอาจแตะหลักพันล้านบาท และหากยืดเยื้อถึง 30 วัน มูลค่าความเสียหายอาจสูงกว่า 30,000 ล้านบาท ขณะที่ความเสียหายด้านอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินในเมืองหาดใหญ่คาดว่า “ไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านบาท”
“บทเรียนสำคัญ” สำหรับการจัดการภัยพิบัติ
เหตุการณ์ครั้งนี้ยังกลายเป็น “บทเรียนสำคัญ” สำหรับการจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะในประเด็นระบบแจ้งเตือนภัย การเข้าถึงข้อมูลที่ชัดเจน และการอพยพประชาชน ซึ่งยังมีข้อบกพร่องหลายจุด ทั้งระยะเวลาเตรียมตัวที่สั้น พื้นที่รองรับไม่เพียงพอ และการสื่อสารที่ขาดตอนทำให้ประชาชนจำนวนมากหนีน้ำไม่ทัน
อย่างไรก็ดี นายทรงพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีโอกาส ก็อยากร่วมพูดคุยกับภาครัฐในการถอดบทเรียนครั้งนี้ เพื่อวางมาตรการป้องกันระยะยาวอย่างเป็นระบบ เช่น การกำหนดจุดอพยพฉุกเฉินภายในเมือง การเตรียมทรัพยากรที่เพียงพอ ระบบไฟฟ้าและสื่อสารสำรองที่ทำงานได้แม้ในภาวะวิกฤต รวมถึงการจัดเส้นทางลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือให้คล่องตัวมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้เมืองสามารถรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
น้ำท่วมพื้นที่หาดใหญ่
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/262338
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา