Blockdit Logo (Mobile)
ฐานเศรษฐกิจ_Thansettakij
ยืนยันแล้ว
•
48 นาทีที่แล้ว • หุ้น & เศรษฐกิจ

ค่ายรถ–อสังหาเร่งเยียวยาน้ำท่วมใต้ ช่วย 2.9 ล้านคน คลังตั้ง “วายุภักษ์” บูรณาการ

นายกรัฐมนตรี มอบรองนายกฯ และ รมต. รับผิดชอบแต่ละจังหวัด พร้อมให้ “นายเอกนิติ นิติทัณประภาส” ตั้งศูนย์อำนวยการเครือข่ายวายุภักษ์ บูรณาการทุกหน่วยในสังกัดช่วยผู้ประสบภัยแบบเร่งด่วน
คลังตั้งศูนย์เยียวยา 3 ระยะ – ตั้งแต่เร่งด่วนเปิดศูนย์รับบริจาค เยียวยา พักหนี้ ลดดอกเบี้ย สินเชื่อดอกต่ำ ซ่อมบ้าน–ร้านค้า ประสาน คปภ. เร่งเคลม จนถึงระยะฟื้นฟู ดันเศรษฐกิจกลับสู่ปกติ
เอกชนระดมช่วยหนัก – ประกันเร่งเคลม ค่ายรถ–อสังหาฯ ลดภาระประชาชน เคลมรถแล้วกว่า 1,200 คัน ค่ายรถให้ส่วนลด–ฟรีค่าแรง อสังหาฯ เร่งทีมซ่อม–จัดถุงยังชีพ ขณะที่ตลาดหาดใหญ่เสียหายหนัก
สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ยังคงวิกฤต แม้บางพื้นที่ระดับน้ำจะเริ่มลดลง แต่ความเสียหายยังอยู่ในวงกว้าง และหน่วยงานภาครัฐรวมถึงอาสาสมัครยังคงเร่งให้ความช่วยเหลือและเริ่มปฏิบัติการฟื้นฟู
รายงานล่าสุด(27 พ.ย.68) จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)พบว่า ขณะนี้มี 9 จังหวัดยังคงได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ครอบคลุม 105 อำเภอ 708 ตำบล 5,243 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อประชาชน 1,078,617 ครัวเรือน หรือ 2,953,206 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสมจากรายงานทางการ 25 ราย
ในบางพื้นที่เริ่มมีสัญญาณคลี่คลาย โดยเฉพาะ จังหวัดสงขลา พัทลุง และสุราษฎร์ธานี ซึ่งระดับน้ำเริ่มลดลงในหลายจุด ขณะที่อีก 6 จังหวัดน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปภ.ได้เร่งระดมเครื่องจักรกลและกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งเดินหน้าแผนเยียวยาและฟื้นฟูในพื้นที่ที่สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว
  • ■
    ตั้งรัฐมนตรีประกบรายจังหวัด
สำหรับการช่วยเหลือ เยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรับผิดชอบรายจังหวัดใน 8 จังหวัดประกอบด้วย
● ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบ สงขลา
● นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับผิดชอบ นครศรีธรรมราช และ ปัตตานี
● นายโสภณ ชารัมย์ รองนายกฯ รับผิดชอบ ยะลา
● นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบ สุราษฎร์ธานี
● นายสันติ ปิยะทัต รมต. ประจำสำนักนายกฯ รับผิดชอบ ตรัง
● นายนภินทร ศรีสรรพาง รมต. ประจำสำนักนายกฯ รับผิดชอบ พัทลุง
● นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมต. ประจำสำนักนายกฯ รับผิดชอบ สตูล
● นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช. เกษตรฯ รับผิดชอบ นราธิวาส
  • ■
    คลังตั้งเครือข่ายวายุภักษ์
1
ส่วนนายเอกนิติ นิติทัณประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับผิดชอบการกำหนดมาตรการด้านการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ได้สั่งการตั้งศูนย์อำนวยการเครือข่ายวายุภักษ์เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกับผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง
นายเอกนิติ นิติทัณประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กรอบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบ่งเป็น 3 ระยะคือ
ระยะที่ 1 ช่วยเหลือ-ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เช่น ตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของจำเป็น ณ อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง เป็นจุดรวมรับบริจาคจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ภายใต้กระทรวงการคลัง ภาคเอกชน และประชาชน โดยเน้นสิ่งจำเป็นจริง เช่น อาหารพร้อมรับประทาน น้ำ ยา เสื้อผ้า ไฟฉาย เพาเวอร์แบงก์ เป็นต้น
กรมบัญชีกลางได้ออกแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างช่วงเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้ภาครัฐเร่งจัดการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์ด้วยแล้ว และให้กรมธนารักษ์ จัดหาพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยเร่งด่วน พร้อมทั้งบริหารจัดการดูแลผู้ประสบอุทกภัยที่เข้ามาใช้พื้นที่ศูนย์พักพิง
ระยะที่ 2 : เยียวยา-ตั้งหลักใหม่ให้ประชาชนและผู้ประกอบการ กระทรวงการคลังจะบูรณาการหน่วยงานในสังกัดออกมาตรการเยียวยาอย่างครอบคลุมทั้งประชาชนและผู้ประกอบการหลังน้ำลด เช่น มาตรการพักชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย การจัดสินเชื่อพิเศษดอกเบี้ยต่ำสำหรับซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและร้านค้า และการมอบเงินเยียวยาตามความเสียหาย
พร้อมกับประสาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้เข้ามาเร่งกระบวนการเคลมประกันภัย และร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขอความร่วมมือรัฐวิสาหกิจในการฟื้นฟูกิจการและที่อยู่อาศัย
ระยะที่ 3 : ฟื้นฟู-ดันเศรษฐกิจและชีวิตกลับสู่ปกติ ระยะฟื้นฟูจะเน้นมาตรการสนับสนุนให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถกลับมาประกอบอาชีพและใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืน เช่น การออกสินเชื่อฟื้นฟูรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะมีการพิจารณารายละเอียดและนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
  • ■
    คปภ.-บริษัทประกันเร่งเคลมรถ
ด้านนางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 บริษัทประกันภัยได้รับแจ้งความเสียหายจากประชาชนในจังหวัดสงขลาแล้ว เบื้องต้นเป็นความเสียหายรถยนต์ 1,258 คัน และทรัพย์สินและอื่นๆ อีกกว่า 506 ราย
นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ.
“ก่อนเกิดเหตุ คปภ. และบริษัทประกันภัยได้ดำเนินมาตรการเชิงป้องกัน เช่น แจ้งเตือนให้ผู้เอาประกันภัยเคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ใช้รถยก–รถลากเคลื่อนย้ายรถหนีน้ำ แต่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้รุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ล่วงหน้า ทำให้คาดว่าความเสียหายต่อรถยนต์และทรัพย์สินจะสูงกว่าตัวเลขที่ได้รับแจ้งในเบื้องต้น”
เพื่อรองรับสถานการณ์ คปภ. และบริษัทประกันภัยได้ส่งกำลังเสริมจากพื้นที่อื่นเข้าไปช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการรับแจ้งเคลม ช่วยยกลากรถ จัดหาจุดเก็บรถ สำรวจภัย รวมถึงมอบถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมร่วมกันวางมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม
  • ■
    ค่ายรถเคาะแคมเปญลดค่าแรง-อะไหล่
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายรายออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ โดยคาดว่ายอดขายในเดือนธันวาคมนี้จะหายไปหลายพันคัน เนื่องจากสภาพจิตใจของผู้คนที่ไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย และกำลังซื้อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
● ฮุนได โมบิลิตี้ ได้ประกาศให้บริการยกรถฟรีไปยังศูนย์บริการ (ระยะทางไม่เกิน 25 กม.) พร้อมตรวจเช็กสภาพรถฟรี 40 รายการ และส่วนลดค่าอะไหล่แท้ฮุนได 25% สำหรับการซ่อมที่มูลค่า 50,000 บาทขึ้นไป โดยเงื่อนไขนี้ครอบคลุมการซ่อมที่ลูกค้าชำระเอง และไม่รวมค่าเคลมประกันภัย สิทธิพิเศษนี้เปิดให้บริการจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
● ฮอนด้า ออโตโมบิล ได้จัดโปรโมชั่นส่วนลดค่าอะไหล่ 30% สำหรับลูกค้าผู้ประสบภัยใน 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สตูล, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส พร้อมบริการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตรวจเช็กรถฟรี 10 รายการ โดยเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์บริการ Honda Wing Center
● ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ร่วมมือกับโครงการ “ยามาฮ่าร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” โดยให้บริการตรวจเช็กและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เรือและ Yamaha Waverunner ฟรีในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมถึงบริการฟรีค่าแรงและอะไหล่สำหรับทีมกู้ภัยและอาสาสมัครที่ช่วยเหลือประชาชน
  • ■
    อสังหาฯ หาดใหญ่รับศึกหนัก
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย ระบุว่า สถานการณ์อุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ครั้งนี้ถือว่า “รุนแรงที่สุด” เท่าที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ แม้บางทำเลจะถูกจัดเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ใดเข้าใกล้ระดับครั้งนี้ โดยปกติภาคใต้มักเฝ้าระวังพื้นที่สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช แต่ปีนี้กลับเป็นหาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
โครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกแบรนด์ได้รับผลกระทบในระดับที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะบุคลากรของบริษัทที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือลูกค้า หลายคนบ้านตนเองก็ถูกน้ำท่วม แต่ยังคงทำงานช่วยลูกบ้านอย่างเต็มที่ บริษัทจึงเร่งมาตรการช่วยเหลือ ตั้งแต่จัดทีมลงพื้นที่ทันทีที่เข้าถึงได้ ไปจนถึงจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องยังชีพ
สำหรับการฟื้นฟูบ้านที่เสียหาย เน้นย้ำว่าต้องให้ความสำคัญกับ “ความปลอดภัย” เป็นอันดับแรก ต้องตรวจสอบระบบน้ำ-ไฟฟ้าอย่างละเอียดก่อนกลับมาใช้งาน
ขณะเดียวกันความท้าทายสำคัญคือการหาแรงงานผู้รับเหมาซ่อมแซม เนื่องจากบางรายได้รับผลกระทบเองจนขาดอุปกรณ์และกำลังคน ทำให้บริษัทต้องดึงทีมสนับสนุนจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และภูเก็ต เพื่อกระจายกำลังตามความเร่งด่วนของแต่ละพื้นที่
ด้านนางสาวภัคพริ้ง การุญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการแนวราบ บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลต่อโครงการของบริษัทในหาดใหญ่ แม้ปกติอุทกภัยเป็นความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมืออยู่แล้ว แต่ปีนี้ถือว่ามีความรุนแรงกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา โดยแสนสิริมีโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่หาดใหญ่ 3 โครงการ
แสนสิริได้เร่งดูแลลูกบ้านอย่างเต็มที่ ทั้งการจัดหาอาหาร การซัพพอร์ตด้านต่างๆ และการประสานงานจากสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ พร้อมส่งทีมงานลงพื้นที่ รวมถึงส่งของและอาหารช่วยบรรเทาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง
  • ■
    บ้านจัดสรรเสียหายหนัก
ขณะที่คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ประเมินว่า พื้นที่หาดใหญ่มีกว่า 128 โครงการระหว่างขาย มูลค่ารวมกว่า 41,000 ล้านบาท โดย “บ้านจัดสรร” เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ทั้งในแง่โครงสร้าง ระบบไฟฟ้า–ประปา และวัสดุตกแต่งภายใน
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมากถูกน้ำท่วมพื้นที่ชั้นล่างและส่วนกลาง ทำให้ยังไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและนักลงทุนปล่อยเช่า
ข้อมูลยังระบุว่า บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์เป็นเซ็กเมนต์หลักของตลาดที่อยู่อาศัยหาดใหญ่ โดยมียอดขายราว 70.7% ของอุปทานทั้งหมด สะท้อนดีมานด์แท้จริงที่ยังมีอยู่ แต่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้กลายเป็นโจทย์สำคัญด้านการออกแบบโครงการในอนาคต ทั้งการยกระดับพื้น ใช้วัสดุทนน้ำ ปรับระบบระบายน้ำ รวมถึงการออกแบบพื้นที่ชั้นล่างให้ยืดหยุ่นต่อความเสี่ยงน้ำท่วมมากขึ้น
แม้จะเกิดความเสียหายวงกว้าง แต่คอลลิเออร์สประเมินว่า หาดใหญ่ยังมีศักยภาพระยะยาว โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ยังเตรียมเปิดโครงการใหม่ สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ตอนบน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการในอนาคตจำเป็นต้องคำนึงถึงความเสี่ยงพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น บ้านพรุและหาดใหญ่ใน พร้อมให้ความสำคัญกับระบบป้องกันน้ำท่วมและการบริหารภัยพิบัติอย่างจริงจังเพื่อสร้างเสถียรภาพตลาดต่อไป
โฆษณา