29 พ.ย. เวลา 22:54 • ท่องเที่ยว
ตรัง

ตรัง!!!

“เมืองที่คนทานอาหาร 9 มื้อ กับรสนิยมการกินที่มีเทส“
มาๆเริ่มๆ ช่วงนี้อินกับพวกติ่มซำมาก คือแบบว่าอยากกินอ่ะ เลยไปเสิร์จหา จังหวัดไหนขึ้นชื่อที่สุด GPT บอกว่า จะเป็นโซนภาคใต้ อันดับ 1.หาดใหญ่,สงขลา 2.ตรัง ก็เลยปักหมุดไปหาดใหญ่ดีกว่าเพราะอยากไปนานแล้ว คือนี่ไม่เคยไปเหยียบแผ่นดินโซนภาคใต้เลย ตั้งแต่เกิด ไม่รู้ว่ารถทัวร์บริษัทไรดีสุด ไปดูรีวิวมีก็มีแต่เก่าๆ
เลยเลือกเดินทางด้วยรถไฟ เพราะรู้สึกว่ามันง่ายดี เลยไปดูว่าขบวนไหนว่างบ้าง จะเหลือก็แค่ ชั้น 3 กับ ชั้น 2 พัดลม และก็ตู้นอน ตู้นอนนี่อาจจะยัง เพราะว่าแพงไปเกินงบ เลยหาๆดู มีขบวนชั้น 2 (แอร์) แต่เต็ม เลยไปดูของจังหวัดอื่นบ้าง เลยไปดูของสายตรัง
ภาพที่นั่งรถไฟ ขบวน 83 (กรุงเทพ-ตรัง)
เห้ยย! มีว่ะ! รอไรหล่ะ จองเลย ได้มาในราคา 660 พอจองเสร็จ เอ้า! ไหนว่าจะไปหาดใหญ่ 555 เออไหนๆก็จองละ ไปกะด๊ะห์!! เลยไปดูรีวิว ร้านติ่มซำเยอะมาก เพื่อนที่เคยไปบอกว่า คนที่นี่กินอาหารกัน 9 มื้อเลย เป็นคำที่บอกว่าคนตรังกินเยอะ เลยว่าจะไปเน้น กิน กิน กิน และก็กิน พอจองเสร็จ มีเวลาอาทิตย์นึงในการเตรียมสั่งของไวัสำหรับไปเที่ยว ลงทุนตัดแว่นใหม่เลย
พอใกล้จะถึงวันไป มีข่าวหาดใหญ่น้ำท่วมหนักมาก แบบท่วมทั้งเมืองเลย รถไฟไม่วิ่ง เที่ยวบินยกเลิกเกือบทุกไฟท์ ก็เลยคิดว่า ดีน้า! ไม่ได้จองไปก่อน เหมือนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ๆๆ ตรังก็ไม่ได้ที่จะดีนะ ไปดูพยากรณ์อากาศคือ วันที่นี่ไป ขึ้นฝนตก 100% เครเล๊ยย แล้วขึ้นฝนตกทั้งอาทิตย์! ระหว่างดูก็เริ่มกลัวๆ แต่ก็อย่าไปกลัว ค่อยคิด555
พยากรณ์อากาศ ณ วันนั้น
พอถึงวันที่ต้องเริ่มเดินทาง เริ่มต้นทริปด้วยการเจอวินคนนึงพูดดีมาก เขาแทนตัวเองว่าแม่ เรียกเราว่าลูก พูดคุยกันดีมาก ปกติไม่ค่อยได้เจอ(วินบางแสน) ใจฟู !
ถึงคิวรถก็ไปซื้อตั๋ว ได้ขึ้นรถ รู้สึกปวดคอแปลก อ๋อ! ลืมเอาหมอนรองคอมา เลยคิดว่าจะไปซื้อใหม่เลยจบๆ เพราะต้องนั่งรถไฟไปตั้ง 10 กว่าชั่วโมงเลย และก็ถึงห้าแยกลาดพร้าวแล้ว เรียกแกร๊ปไปเซนทรัลจะไปหาซื้อหมอนรองคอ เดินหา Moshiๆ อยู่นาน ไม่มีเลย รู้สีกว่ามันเล็กมาก เดินไปทั่ว จนเจอ B2S มีหมอนรองคอนะ แต่ไม่ใช่อันที่อยากได้ เลยค้นหา DIY ใกล้ฉัน มีอยู่ที่โลตัส มันใกล้ๆเลยเดินเท้าไป ห้างเก่ามาก เหมือนจะปิดแล้วอ่ะ ร้างมาก
พอเข้าไปก็มีหมอนแบบที่อยากได้ แต่ว่าสีที่อยากได้มันเก่ามาก แต่ก็ยอมซื้อนะ เพราะอันที่สภาพดีๆคือสีชมพู-.- (ซื้อมาปึ้ปเก่าเลย555) แล้วก็นั่งรถไปสถานี ไปซื้อขนมจีบมากินรองท้อง ก่อนที่รุ่งเช้าเราจะได้ไปกินในเมืองที่ขึ้นชื่อจริงๆ
ขนมจีบที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 50 บาท
พอถึง 15:30 เสียงประกาศมีรถไฟโดนยกเลิกประมาณ 3 ขบวน ตอนแรกก็ไม่ได้อะไรเพราะไม่มีขบวนเรา แต่สรุปคือ มี!!!! อห แต่ไม่ได้ยกเลิก แค่ไปไม่ถึงจุดหมาย จังหวะนั้นคิดว่าตัวเองต้องฟังผิดแน่ๆ สรุปคือเรื่องจริงจ้า นอยมากก รถไปสุดทางที่ทุ่งส่ง และต้องนั่งรถต่อไปเองอีก นอยอ่าาาาา
แล้วคือไร น้ำเขาท่วมกันหมดในภาคใต้ ฉันมาทำไร! มาทรมาณหร๊ออ คือตอนจองมาเที่ยวมันไม่ท่วมไง พอหลังจากจอง 2 วัน คือมันท่วมเลย เริสมาก เกิดแต่กับKuมาก แต่ไม่เป็นไร ถือซะว่าประสบการณ์ แต่ไม่รู้เลยว่าทริปนี้จะสนุกไหม เพราะ ฝนตก น้ำท่วมบางพื้นที่ ละกว่าจะนั่งรถบัสไปถึงตรังอี๊กกก งอมๆ คืออยากเห็นทะเลใต้
ขบวนรถไฟที่โดนยกเลิก
แล้วระหว่างนั่งนอยๆอยู่นั้น มีลุงคนนึง แก่ๆเดินดุ่มๆมาหานี่ ถามว่า มาจากที่ไหน นี่ก็บอกมาจากตราด นี่ก็คิดว่าเขามาคุยดีด้วย คุยไปคุยมา อ๋อ ขอตังฆร่ะ! ขอ 200 นี่ไม่ค่อยได้ยิน เอาหูฟังเก็บจะไปคุยกับลุง พอได้ยินว่าขอตังปื้บ ขออนุญาตเป็นคนหูตึง555
รถไฟมาตรงเวลามาก
ใกล้ถึงเวลาขึ้นรถแล้ว เดินต่อคิวเข้าสแกนตั๋ว ก่อนขึ้นชานชลา นี่รถคันที่ 8 ไกลมากกกกกกกก เดินฉ่ำคำหอม พอเข้ามา แอร์หนาวมาก หนาวแบบหนาวจริง!! มีปลั๊กไฟอยู่นะ แต่ก็แอบเก่าอยู่ แต่ไม่เป็นไร เหมือนได้นั่งรถทัวร์
ทางเดินไกลๆ แอร์หนาวๆ ผ้าห่มบางๆ
ระหว่างทาง แอร์หนาวมาก นอนไม่หลับ เอาผ้าคุมหัวแล้วรู้สึกดีขึ้น คือก่อนหน้านััน ดูถูกไง ว่าแอร์รถไฟจะเย็นไหมว่ะ ไม่เย็นหรอก มีแอ๊บๆไปงั้น สรุปมาวันจริงแทบจะแข็งตุย นั่งๆนอนๆเลื่อนดู Facebook,Tiktok คือมีแต่น้ำท่วมตรัง และบางโพสต์มีบอกว่าน้ำในตัวเมืองเริ่มเอ่อล้นแล้ว แล้วทำไมมันต้องเป็นวันนี้! ฮือๆ
สถานีรถไฟทุ่งสง นครศรีธรรมราช
ถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว อ่ะ! งงหรอว่า ทำไมมาลงนี่ เพราะว่ารถไฟไปไม่ถึงไง แต่ดีอยู่นะที่การรถไฟ เตรียมรถไว้ให้ ไม่ต้องไปหาเอง แถมฟรีด้วย พอขึ้นรถก็เจอลุงๆป้าๆเยอะแยะเลย เขาคุยภาษาใต้กัน
“ทางรถไฟพัง ฝนกะตกหย่าวๆ บ่าฮู้เวลาเลย ลำบากแรง ต้องนั่งรถทัวร์ต่ออีก เย็ดแม่มเอ้ย”
นี่แหละๆ!!! คือฟังเขาไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แต่รู้สึกว่า เอ้อ!ถึงใต้ละเหว้ยย เยดเเม่ม!5555
ฝนตกหนักมาก
พอเข้าเขตจังหวัดตรัง คือฝนมาเลย ฉ่ำเวอร์ แล้วมีข่าวน้ำท่วมเยอะแบบนี้ ติ่มซ่ำฉันคงไม่ได้กินแน่ๆ
ถึงตรังแล้ว เย้ พอเข้าตัวเมืองตรัง ฝนไม่ตกจ้า เริสๆๆๆ หาที่เช่ารถก่อนอันเดับแรก เจอร้านเช่ารถหน้าสถานีรถไฟ แม่ค้ามีแอบหน้าดุหน่อย ยิ่งดูข่าวโกงอะไรแบบนี้เยอะอยู่ พอๆ รีบเอาของไปเก็บที่โรงแรม หิวเลยแค่ว่าจะออกไปหาไรกินดีกว่า ก่อนอื่นเลย ไป“ขาวโอชา”ก่อน ร้านชื่อดัง เอาจริงนี่ไม่ได้ติ่งวง BUS เลยจริงๆ เลยสั่งๆหยิบๆมา ตามรูป อร่อยน้า รู้สึกฟินอ่ะ ได้มากินจริงๆละ
ติ่มซำร้าน “ขาวโอชา”
พอกินเสร็จ ก็เหงาๆ ฝนยังไม่ตก เอายังไงดี โอเครไป📍กันตังกันดีกว่า ก็ออกมาเลย ขับมาได้ระหว่างทาง น้ำท่วม!!! คือตอนเเรกไม่กล้าไปละ มีลุงขับซาเล้งมา แล้วขับไปเลยหน้าตาเฉย ลุงขับได้ นี่ก็ต้องขับได้สิว่ะ! เริ่ม!!! พอขับไปได้สักพัก เดจาวูขึ้นมาเลยคือ เคยขับรถลุยน้ำกับเพื่อนที่บางแสนตอนมันน้ำท่วม รถเพื่อนพังเลย เพราะน้ำเข้าท่อ ละถ้านี่ทำรถเช่าเขาพังหล่ะ จะกี่บาทว่ะหน่ะ แต่มันกลับลำไม่ได้ละไง ต้องไปต่ออย่างเดียว ก็ขับค่อยๆไป โอเครรอดละ ดีใจ
ลุงขับซาเล้งที่กล่าวถึง555
พอถึงกันตัง ไปร้านคาเฟ่ชื่อดังก่อนเลย ร้านนี้มี signature คือ กระป๋องเป็นชื่อจังหวัด ต้องมาละ นี่จัดไป 1 แก้ว ชาเขียวนม อร่อยอยู่ ที่นี่มีของฝากเยอะแวะเลยนะ ทั้ง โปสการ์ด,กระเป๋าผ้า,กระปุกออมสินกระป๋อง,และเสื้อหมวก ต่างๆมากมายเลย
📍Sirichai Cafe & Store
หลังจากนั้นไม่รู้จะไปไหนดี เลยดูในแมพว่ามีที่ไหนให้เที่ยวบ้าง ก็เห็นมีพวกรูปวาดกำแพง ที่อยู่ตามซอกเมือง นี่ขับรถตามแมพ ก็งงๆ เพราะทางวนไปวนมา ได้มาอยู่ 2-3 รูป
ภาพวาดฝาผนัง เมืองกันตัง📍
พอถ่ายเสร็จ ไม่รู้จะไปไหนดีว่ะ ดูในแมพแค่ 30 โล ถึงทะเล นี่ก็แบบเห้ย แค่นี้เอง ไปดีกว่าอยากเห็นทะเลใต้ ทริปที่แล้วขับรถเป็นร้อยโลยังขับได้ งั้นไปกันเลย!!
ตอนแรกๆยังลั้นลาอยู่ พอขับไปสักพัก ป้ายเริ่มบอกว่าใกล้ถึงแล้ว เห็นหลายป้ายละ “ไหนว่ะ! ไม่เห็นเห็น” ก็ขับไปต่อ ป้ายบอกอีก 2 กิโลถึงหาดเจ้าไหม นี่บิดมาเกือบ 100 มันต้องถึงละป่ะ ทำไมยังไม่ถึงสักที หงุดหงิด เลยขอถ่ายคลิปบ่นก่อน555 บ่นอยู่ในหมวกกันน๊อค ตอนนั้นโกรธมาก โดนตั๋วป่ะเนี่ย พอสุดสายตา เริ่มเห็นสีฟ้าๆ ดีใจมากกกก ทะเลเเน่ๆ พอใกล้ๆ เอ้า!! หลังคาบ้าน ตอนนั้นจากโกรธกลายเป็นตลกมาก คือตาฝาดหมดแล้ว ณ จุดๆนั้น555 ขนาดพิมพ์อยู่ยังขำตัวเอง
📍หาดเจ้าไหม
รอบนี้ทะเลจริงๆละ ในที่สุด!!! ก็มาถึงสักที รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะทะเลที่นี่มีภูเขาหินกลางทะเล ปกตินี่ไม่เคยเห็นเยอะขนาดนี้ มีความสุขมาก ดูที่ตราด ที่ชลก็สวยนะ อันนี้ก็สวยอีกแบบ แต่เสียดายน้ำไม่ใส เพราะช่วงนี้มีมรสุม เลยจอดถ่ายรูปสักแปป พร้อมเดินลงไปดู มองวิวซ้ายขวา “โอเคร๊! แล้วไงต่อ555” นี่สินะคำพูดของคนที่ขับรถมาตั้งไกล ….
หลังจากนั้นไปอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตอนขับรถไปเพิ่งนึกได้ว่า“เฮ้ยยังไม่ได้กดตังค์นี่หว่า เอาไงดีว่ะ“ เขารับแต่เงินสด เอาเป็นว่าค่อยคิด เผื่อเจ้าหน้าที่ใจดีให้ยืมตังค์สดได้ พอไปถึงเท่านั้นแหละ นึกได้อีกอันนึงก็คือ ลืมเอาสมุดพาสปอร์ตมาอี๊กกก เพราะว่าก่อนออกมาจากโรงแรม คิดแค่ว่าจะออกไปกินขาวโอชาเฉยๆ แต่อยู่ๆมาโผล่ซะไกลเลยทีนี้ ไม่ได้เตรียมอะไรเลย
เลยขับเข้าไปก่อน เห็นป้ายตัวเบ้อเร่อเลย จากใจคนสายตาสั้นยังเห็น “ไม่รับโอนครับ” พอเห็นปุ๊บโอเคเลยจบ ก็เลยเปิดดู เศษเหรียญในกระเป๋าตังค์ ว่ามีถึง 60 บาทไหม นี่เทเหรียญมากองต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เหมือนเจ้าหน้าที่สงสาร พูดว่า“โอ๊ยหนู เอามา 40 บาทก็ได้” แล้วนี่มีเหรียญสิบอยู่ 60 บาทพอดี พอเขาพูดแบบนี้ก็เลยเก็บหรียญ 2 เหรียญเข้ากระเป๋า รู้สึกเลว555
📍อุทยายแห่งชาติหาดเจ้าไหม
พี่เขาแนะนำว่า ถ้าลืมเอามาให้พี่คนที่ปั๊มพาสปอร์ตอุทยาน ปั๊มใส่กระดาษเอสี่ให้ก็ได้ เพราะว่าน้องไม่ใช่คนแรกที่ลืม นี่ก็รู้สึกอุ่นใจ โอเคไปกันต่อ พอถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก็เลยไปเรียกเขา เหมือนไม่มีใครอยู่เลย เห็นเด็กคนนึงนอนเล่นเกม ก็เลยถามน้องว่ามีใครอยู่ไหม น้องบอกไม่มี สิ้นเสียงน้องไปได้ไม่นาน ก็มีเสียงพี่ผู้หญิงตะโกนมา แสดงว่ามีคนอยู่ ส่วนน้องที่บอกว่าไม่มีนั้นก็ขำ เด็กสมัยนี้โกหกแรงมาก….
นี่ให้เขาปั๊มพร้อมเซ็นลายเซ็น รอบนี้ได้ลายเซ็นพยูนมา ตอนแรกมองไม่ออกว่าตัวอะไร เลยถามพี่เค้า พี่เค้าตอบว่า ”พะยูนค่ะ“ แต่ในหัวตอนนั้น อยากจะตอบพี่เค้ากลับไปว่า “ พะยูนไม่ได้*่า5555” โอ้ยอะไรเนี่ยไร้สาระมาก
ลายเซ็นน้องพยูน
พอขับรถเข้าไปในตัวอุทยาน ไม่เจอคนเลยแม้แต่คนเดียว มีนี่ขับเข้าไปคนเดียว แล้วนี่ก็งงว่าไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเลยหรอ นี่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยเดินลงไปในชายหาด อ๋อตรงนี้มันที่เค้ารีวิวกันนี่หว่า ที่เดินสำรวจธรรมชาติรอบเกาะ แต่มันไม่มีคนเลย รู้สึกแอบกลัว แต่ว่าก็ไป555 พอเดินเข้าไปมันจะมีแพลอยที่เป็นสะพานให้เราเดิน นี่เลยตั้งชื่อสะพานนี้ว่า“สะพานแอนโทเนีย“ เพราะว่ามันเดินยากมาก555
สะพานแอนโทเนีย555
พอเดินจบสิ้นสะพานนี้ ก็จะมีสะพานที่ดูดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็แค่นิดเดียว เพราะว่าสะพานดูผุ กลัวเดินไปแล้วมันหักมาก ก็เลยเลือกที่จะเดินตรงคานของสะพาน เดินไปเรื่อยๆ ภาพหรือวิวบรรยากาศเหมือนหนังที่เคยดูในเรื่องน้ำตากามเทพมาก ที่ผู้ชายมันจับตัวเพราะคิดว่าคนนี้คือดีดี๊555 พอเดินไปคิดว่ามันจะมีสะพานรอบเกาะเลย สรุปไม่ใช่!! สะพานเป็นทางตัน ต้องเดินกลับมาอีก ไกลมาก รวมๆไปกลับประมาณ 2.5 กิโล เดินจนหอบ!!!
ระหว่างทางก็ระแวงว่าจะตกสะพานไหม กลัวค้างคาวมาบินใส่อีก แล้วมีคนเคยบอกว่า ภาคใต้เป็นภาคที่ศูนย์รวมของงู นี่กลัวมากว่ามันจะกระโดดลงมา555 ณ ตอนนั้นไม่มีความสุขเลยกับการดูทะเล มีแต่กลัวกับกลัว ถ้าเป็นไรขึ้นมาใครจะช่วยเราวะเนี่ย!!
มีความแอบกรอบเล็กๆ
โอเคเดินถึงฝั่งแล้วเหนื่อยเกือบตุย แต่ก็รอดมาได้ ไม่มีแรงถ่ายคลิปแล้ว เปิด Maps กลับตัวเมืองเดี๋ยวนี้!!!ระหว่างทาง เลยลองขับไปทางใหม่ใหม่บ้าง ก็ไปเห็นทางที่เค้าถ่ายกันในติ๊กต่อก นี้ลองถ่ายบ้าง ทำไมไม่เห็นสวยแบบเขา ตาเนื้อจริงเห็นสวยกว่าอีก
ทางที่เขาชอบถ่ายลงTIKTOKกัน
พอกลับมาถึงที่พัก รู้สึกหิว ก็เลยว่าจะไปกินสมบัติติ่มซำ แต่ร้านเปิด 5 โมงตอนเย็น ตอนนั้นเพิ่ง 4 โมงก็เลยว่านอนก่อน โอเคตื่นมาตอน 5 โมง รีบขับรถไปที่ร้าน ตอนขับรถมีแต่คำว่า”อะไรว่ะ”ในหัว เพราะว่าคนที่นี่ขับรถกันแบบว่า เลี้ยหู้มาก คือแอบงง 555 สรุปจะไปหรือไม่ไป จะเลี้ยวหรือไม่เลี้ยว อ่านใจคนที่นี่ไม่ออกเลย
พอถึงร้านสมบัติ โอเคร้านปิด จบ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่ามันมีร้านชื่อดังร้านนึงอยู่ ชื่อว่า“กาแฟโกวอ” ก็เลยขับรถไปที่ร้าน โอเคร้านเปิด รีบเข้าไปหยิบติ่มซำ และสั่งก๋วยเตี๋ยวอย่างไว เพราะหิวมาก นี่ก็ไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นอะไร ก็เลยตอบตอบเอาๆไปก่อน และมาลองซิกเนเจอร์สังขยาปาท่องโก๋ของคนที่นี่ ที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่น
ติ่มซำที่นี่อร่อยมาก ปาท่องโก๋ก็อร่อยโดยเฉพาะสังขยา ไม่เคยกินมาก่อนเลย มันหอมมาก
กับอีกเครื่องจิ้มนึงที่ขึ้นชื่อของจังหวัดตรัง เหมือนคนที่นี่เค้าจะกินทุกอย่างและจิ้มกับน้ำจิ้มตัวนี้ ซึ่งมันอร่อยจริง เหมือนซอสพริกก็ไม่ใช่ จะเหมือนซอสเย็นตาโฟก็ไม่เชิง ชื่อซอสว่า“กำเจือง หรือ ส้มเจือง“ อร่อยมาก กินกับก๋วยเตี๋ยวกินกับติ่มซำ กินกับซาลาเปา ได้ทุกอย่าง นี่กินแซ่บจนกระทั่งเจ้าของร้านหันมามอง5555 ตลกมาก
อาหารที่สั่ง กับ ส้มเจือง
หลังจากกินเสร็จก็กลับไปที่พักอาบน้ำ พร้อมนอน
  • DAY 2
เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นสายจ้า ตั้งนาฬิกาปลุก 05:00 ตื่น 7:00 เออเริส รีบลุกไปอาบน้ำแปรงฟัน วันนี้มีแพลนจะไปกินร้านโปปิ๊สมบัติ วันนี้ต้องได้กิน เพราะเมื่อวานปิดร้านหนีฉัน รีบขับรถออกไป เจอร้านแล้ว!
วันนี้วันธรรมดาคนไม่เยอะ เดินไปดูเขาทอดปลาท่องโก๋ ไม่สิ? เขาเรียกว่า “อิ่วจาก้วย“ ที่เราเรียกปลาท่องโก๋ๆ นี่ผิดมาตลอดเลยหรอเนี่ย โอเครงั้นเอา อิ่วจาก้วย 1 ครับ พี่เขาก็จะหยิบตัวเล็กๆให้(แต่ก็ใหญ่อยู่นะ) แต่นี่อยากกินตัวใหญ่ไง ดูรีวิวมา เขาบอกว่าใหญ่มาก นี่ก็ว่ามันจะแค่ไหนกันเชียวว่ะ! เขาก็บอกคนเดียวกินหมดหรอลูก นี่ก็ไม่มั่นใจหรอกว่าจะหมดไหม555
ที่เห็นในกระทะนั้นคือ ไซด์ปกติ
ระหว่างรอทอด ก็สั่งโจ๊กปลา ปกติเคยกินแต่โจ๊กหมูอยากลองกินแบบปลาบ้าง อะไรใหม่ๆ แล้วก็สั่งชาเย็นไป 1 ระหว่างรอที่โต๊ะพี่พนักงานก็เอาติ่มซำ มาให้เลือกถึงที่นั่งเลย แบบพร้อมกิน นี่ชอบมาก เพราะเหมือนรู้สึกว่า เหมือนคนเอาอาหารมาถวาย555 ก็หยิบหยิบมา ถ้วยละ 15 บาท ถูกกว่าร้านอื่น 5 บาท ลืมรีวิวโจ๊กปลาเลย นี่ชอบโจ๊กปลามากมันหอม ตัวน้ำซุปมันเหมือนกินน้ำต้มยำอ่อนๆ
อาหารที่สั่งไป
หลังจากกินไปได้ไม่นาน อิ่วจาก้วยก็มาเสิร์ฟ คุณพระ!! ตัวใหญ่มากแม่ คือไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ ดูจากสภาพแล้วกินไม่หมดแน่นอน ระหว่างทางที่กิน คนมองเยอะมาก เขาเดินมาแล้วถามว่ากินหมดหรอ นี่ตอบว่า “กินไม่หมดแน่นอนครับ555” เขาก็ขำ แต่รู้สึกว่าอร่อยนะ แป้งมันเหมือนหมั่นโถที่กรอบนอกนุ่มใน
เลยลองเอามากินตามแบบฉบับคนตรังที่ดูรีวิวมา ที่จะฉีกออกมา แล้วนำขนมจีบหรือติ่มซำใส่เข้าไปเป็นไส้ พร้อมบีบน้ำส้มเจือเป็นน้ำราด พอได้กินเข้าไปอร่อยมาก เป็นสัมผัสเหมือนเรากินขนมปังแซนด์วิช แต่ด้วยความอิ่มเลยกินได้ไม่เยอะ ต้องเรียกพี่เขามาห่อให้ ก็คือหนักมาก ใส่ถุงแล้วหนักตึ๋งเลย ไม่รู้ว่าจะเอาขึ้นเครื่องได้ไหม555
โค-ตะ-ระ ใหญ่มาก!!!
ลืมเล่าว่าระหว่างที่กิน คุณลงที่นั่งหลังโต๊ะเรา ไม่รู้เกิดคิดอะไร อยู่ๆก็อยากไปให้อาหารนกพิราบเฉยเลย แล้วพอนกมันได้กินอาหาร+กับคนที่เดินผ่านไปมา นกมันก็บินว่อน เกือบบินมาที่โต๊ะอาหารที่เรากำลังกินอยู่ ในใจคิดว่าลุงจะอยากไปให้อาหารนกตอนนี้ทำไม มีแต่คนมองลุง แต่ลุงไม่สนใจ-.-
ระหว่างนั้นเลยไปเดินตลาดสด ที่อยู่ใกล้ๆกัน ของกินเยอะมาก แถมได้ไปเจอร้านชื่อดัง หมูย่างเมืองตรัง ชื่อร้านว่า หมูย่างโกเภา เห็นมีคนมารีวิวร้านที่นี่บ่อยมาก แต่มีไม่ได้ซื้อกลับไปเพราะว่า อิ่มแล้ว มาถึงนี่ยังไม่ได้กินเลย แต่พุงมันไม่ไหวจริงๆ แล้วระหว่างเดินก็ได้ไปเจอคนท้องถิ่น เค้ากำลังนั่งเม้าท์กันเรื่องนายก ที่มาลงพื้นที่น้ำท่วมหาดใหญ่ เหมือนเค้าพูดทำนองว่า
“นายกมาลงพื้นที่น้ำท่วมหาดใหญ่ โดนด่าซะหรอยแรง มาแล้วกะว่า ไม่มากะด่าอีก คนบางคนนี่ปากไวกว่าเรือหางยาว บ่นเหม็ดวันเหม็ดคืน เอาใจยากจังฮู้”
ฟิวประมาณนี้ เราที่ได้ยินก็พอฟังออก แล้วด้วยสำเนียงที่เขาคุยกัน มันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังเทลาะกันอ่ะ แต่เขาแค่คุยกันปกติ555
จากนั้นก็กลับมาโรงแรม รู้สึกว่าไม่อยากแบกกระเป๋าหนัก ด้วยความที่ไปรษณีย์อยู่ข้างที่พัก ก็เลยขนเสื้อผ้าไปส่งของดีกว่า หมดค่าส่งไป 100 นึง แลกกับความสบายแหละว่ะ ลืมบอกว่าครั้งนี้จะเป็นการนั่งเครื่องบินครั้งแรกของเรา ตื่นเต้นมากไม่รู้จะไปถูกไหม แต่เอาว่ะทุกคนย่อมมีครั้งแรก ดูรีวิวมาเยอะมาก ดูสิ๊! ว่าจะรอดไหม
เออลืมเล่า ตั้งแต่เมื่อวานละ เห็นคนไปต่อแถวเต่าบินกันเยอะมาก ระหว่างทางก็เจอคนจะถือแก้วเต่าบิน นี่ก็งงว่าทำไมคนที่นี่กินเยอะจัง ทั้งที่ มีชาที่อร่อยกว่าอยู่แล้ว พึ่งมาเข้าใจ อ๋อ เต่าบินเค้าแจกฟรี สำหรับคนภาคใต้ เออเริส! ฟรีแบบฟรีจริงๆ บางคนกดมาสองสามแก้วเลย
หลังจากนอนเปื่อยๆรอเวลา ก็ได้เวลาเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ต้องไปเติมน้ำมันคืนรถเช่าอีก นี่เช่ารถเกินเวลามา เขาไม่ได้ว่าอะไร แค่ดูน้ำมันว่าเติมเต็มถังจริงไหม แล้วก็คืนกุญแจ โอเครถือว่าเริสอยู่สำหรับค่าเช่าแค่นี้
บายๆน้องขาวนวล555
ระหว่างเอารถไปคืน พี่คนที่เราจองให้ไปส่งสนามบินก็โทรมา โอเครนี่ก็รอที่สถานีรถไฟ เพราะว่าไม่ไกลกัน แปปเดียวรถก็มาถึง พี่เขาบอกว่า มีแค่เราคนเดียว รู้สึกคุ้มเวอร์ เพราะจ่ายราคาต่อคน แต่ได้บริการแบบราคาเหมา555
พี่คนขับจอยมาก คุยกันถูกคอ พี่เขาโม้ให้ฟังว่าพี่จองคัลแลนก็เคยมาเช่ารถกังเขา เขาว่าเขาไม่รู้จัก แต่ตะหงิดๆเพราะว่าดูหล่อ ตัวหอม รักสะอาด ไม่รู้ว่าเป็นคนดัง พึ่งมารูัทีหลัง เขาเล่าว่า พี่จองกัยคับแลนให้ตั๋วหรืออะไรสักอย่างกับพี่เขาแหละ ทีนี่แฟนคลับรูั มาขอซื้อต่อเขา 1000++ พี่เขาให้ฟรีไปเลย ก่อนลงจากรถนี่ก็บอกว่า เดี้ยววันไหนผมดังเหมือนพี่จองคัลแลน ลุงเตรียมดังต่อได้เลย555 (มั่นมากกก)
พอมาถึงสนามบิน เดินเข้ามาสำรวจ นี่เดินไปทั่วเลย อยากรู้ว่าสนามบินใหม่เป็นไง เดินดูเสร็จก็มากินอิ่มจาก้วยที่ห่อกลับมาเมื่อเช้า ยังอร่อยเหมือนเดิม
นั่งๆไปจนถึงเวลาเช็คอิน นี่ไปขอเขาปริ้นตั๋วให้หน่อย พี่เขาว่าเราใส่ชื่อนามสกุลสลับกัน เขาบอกว่าถ้าผิด 3 ตัว ค่าแก้ไข 9** บาทเลย ดีน้านี่แค่สลับกัน เลยได้ตั๋วลิมิเต็ตมา คือตั๋วเขียนมือ ไม่ใช่ตั๋วพิมพ์ ได้ตั๋วเสร็จ ก็จึ้นไปตรวจสัมภาระ นี่แหละสื่งที่กลัวที่สุด แต่นี่มั่นไง ต้องมั่นใจไว้ก่อน เดี่ยวเขาหาว่าบ้านนอก555 ก็ทำๆตามคนข้างหน้าไป โอเครผ่านออกมาได้แล้ว เย้! เหลือรอขึ้นเครื่อง
มีไปกดเต่าบินด้วย >.<
พอเขาเรียกขึ้นเครื่อง ตื่นเต้นเวอร์ ระหว่างขึ้นเครื่อง แอ๊บๆเดินมั่นๆ เหมือนรู้ พอถึงบนเครื่อง นี่แหละวิชาที่เราต้องได้ใช้แล้ว คือดูรีวิวมาเยอะมาก เรื่องการดูที่นั่ง เจอที่นั่งแล้ว!
พอถึงเวลา เครื่องออกตรงเวลาพอดี ตอนเครื่องกำลังขึ้น นี่แหละๆ พยายามดูว่าเครื่องบินมันลอยขึ้นหรือยัง พอลอยขึ้น ตื่นเต้นมาก รู้สึกเหมือนปลดล็อค เครื่องเริ่มใต่ขึ้นเรื่อยๆ จากใต้เมฆ ก็เริ่มขึ้นไปเหนือเมฆ ละก็เหนือเมฆอีกที บินสูงกว่าที่คิดไว้มาก นี่ดูไม่พักเลย
เรื่องปวดหูตอนขึ้นไม่ปวดหูนะ แต่ตอนจะลงนี่สิ เหมือนนั่งไปแปปเดียวเองถึงแล้ว เครื่องกำลังลง หูเริ่มปวดขึ้นเรื่อยๆ แรกๆทนไหว ฟินๆ พอเริ่มลงอีก เริ่มปวดมากละ นวดหูก็ไม่หาย ตอนนั้นคือ กูจะหูหนวกไหวว่ะ! ลำพังก็ไม่ค่อยจะได้ยินอยู่ละ555 แล้วมันปวดขึ้นเรื่อยๆ ทรมานมาก ฮือๆ พอเครื่องถึงดอนเมือง รู้สึกว่าไวมาก เหมือนนั่งไม่ถึง ชั่วโมง เหมือนแค่ 30 นาทีเอง แล้วคือไร ตอนไปนั่งรถไฟไปตั้ง 14 ชั่วโมง ห่าขั่วมึงง555 ขากลับ ชั่วโมงเดียวถึง รู้สึกเหมือนโกงเวลามาก แต่ก็ดี ถึงเร็วดี
เดินทางกับน้องทับทิมสยาม ชื่อพลอยบ้านเราเอง ิิ
พอถึงดอนเมืองตอนแรกว่าจะไปขึ้ยรถเมย์ A1 ที่ดูรีวิวมา เดินไปผิดทางไปสถานีรถไฟฟ้าสีแดง… เดินกลับมาที่จุดรถเมล A1 ซึ้งคือคนละฟาก! พอถึงก็รอรถไป โอยสูคือนานแท้~ ขี้เกียจรออ่ะ ไปขึ้นรถไฟละกันว่ะ ไม่เคยขึ้นซะด้วย แต่ลองๆทำไปก่อน ก็เดินกลับไปจุดเดิมที่เคยไปผิดตอนเเรก…. พอถึงก็พอๆดูวิธีสอนมาบ้างแบบลางๆ ก็มั่วๆไป เดินๆตามเขาไป
รถไฟฟ้าสายสีแดง
นั่งถึงบางซื่ิอแล้ว!! ก็เดินไปรอรถที่หน้าสถานีรถไฟเรียกแกร๊บเรียกโบว์ ไม่มีใครรับเลย เลยรอรถเมล์ ป่ายมันบอกว่าไปหมอชิต 2 ด้วย ก็เลยขึ้นไป กระเป๋ารถเมล์บอกไปบิ๊กซีนะคะ นี่หูยังไม่หายอื้อเลยฟังไม่ออก ตอนเขามาเก็บตังก็ถามเขาอีกที ไปหมอชิตไหมครับ เขาบอกไม่ได้ไปจ้า นี่ก็บอกไปที่ไหนก็ได้ที่ใกล้ที่สุด เขาบอก งั้นลงตรงนี้แหละ นี่แบบ เอ้า!!555 โอเคร ตลกตัวเองอ่ะ555 สรุปได้ลงไปเรียกโบว๋เหมือนเดิม นานแค่ไหนก็จะรอ~
มีคนรับแล้ว 1 คัน รถพี่เขาคือสูงมาก รถรุ่นไรเนี่ย เห็นแบบ 180 องศาเลย คือไม่เคยนั่งรถสูงแบบนี้มาก่อน อันนี้คือที่สุด ลืมดูชื่อยี่ห้อรถเลย
นั่งจริงๆดูสูงกว่าในรูปอีก*-*
พอถึงหมอชิต ไปซื้อตั๋วไปลงหนองมน รอบนี้ดูรีวิวมาว่าสายนี้ดี เลยไปซืัอ พี่คนขายตัวคือเหมือนไม่อยากขายเวอร์ ตอบส่งๆ นี่ก็ไม่ได้อะไรหรอก เขาคงเหนื่อย คนทำงานบริการเหมือนกัน เข้าใจอยู่ พอจะขึันรถ พี่คนขับถามว่า ไปลงไหนครับ สี่หูอื้ออยู่ ห้ะ! เลยตอบส่งๆไปว่า 1 คนครับ พี่เขาก็ย้ำอีกว่า ไปลงไหนครับ นี่ก็ไม่ได้ยินอีก เขาก็บอกว่าใจเย็นๆ นี่เลยบอกเขาไปว่าพึ่งลงเครื่องมาหูอื้อ พี่เขาก็เข้าใจ ให้ยืนนิ่งๆก่อน รอบนี้พอได้ยินละ เลยคุยด้วยกันถูก
โอเครพอขึ้นรถ หาเลขที่นั่งตัวเองไม่เจอ ป้ายก็ลาง ตาก็ลาย หูก็ไม่ดี ยืนหาจนพี่ที่เขานั่งอยู่ ถามว่านั่งไหนครับ นี่ก็ตอบไป เขาเลยชี้ให้ ขอบคุณพี่เขามากกกก ละก็ถึงหอโดยสวัสดิภาพ
ขอมาพูดความรู้สึกเกี่ยวกับทริปนี้หน่อยนะ
รู้สึกว่าทริปนี้เป็นทริปง่ายๆสบายๆของเรามาก เพราะนี่ไปแค่ไปอยากกินติ่มซำเฉย พอได้กินแล้วก็เที่ยวต่อแบบโนแพลน ได้เจอคนพูดใต้ ได้กินอาหารอร่อยๆ ได้เจอทะเลสวยๆ
ลืมบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่เราทำอะไรเองครั้งแรกหลายๆอย่างเลย ขาไปได้นั่งรถไฟทางไกลครั้งแรก ลงใต้ตั้งเกือบ 1,000 โลแหนะ ขากลับได้นั่งเครื่องบินครั้งแรกอีก ชอบมาก ช้าไปไหมสำหรับนั่งเครื่องบินครั้งแรกในอายุ 20 เพื่อนๆขึ้นกันเป็นหมดแล้ว ขากลับจากกรุงเทพ ก็ได้นั่งรถไฟฟ้าเองครั้งแรก555 ตลกอ่ะ เขินๆ ละก็ได้เห็นทะเลฝั่งอันดามันครั้งแรก ถึงมันเป็นช่วงมรสุม แต่ก็รู้สึกดีใจ
พี่ชมเราว่า เก่ง ที่กล้าทำอะไรครั้งแรกด้วยตัวเอง กล้าที่จะเอาตัวเองออกไปเจออะไรใหม่ๆ รู้สึกเขินมาก เพราะชอบคิดว่าตัวเองไม่เก่งอะไรเลย ฮือๆ เริ่มเข้าโหมดดร่าม่าเวอร์ พอๆ
แล้วอีกอย่างคือ ทริปนี้เป็นทริปที่เป็นใจไปหมดทุกอย่าง เพราะอะไรหน่ะหรอ ก็เพราะ ตอนแรกจะไปหาดใหญ่ อยู่ๆด้วยความอะไรไม่รู้ ก็ไปจองตั๋วไปตรังเฉย สรุป 2 วันต่อมา หาดใหญ่น้ำท่วมหนักมาก
นี่คิดว่าถ้านี่จองตั๋วไปหาดใหญ่ ทุกอย่างคงต้องถูกยกเลิก อะไรๆที่พิมพ์อยู่ตอนนี้คงไม่มีการเกิดขึ้น แล้วอีกอย่างนึงคือ ตรังก็มีฝนตกตลอดทั้งวัน ก่อนที่เราจะไป ฝนตกจนน้ำท่วม เขื่อนกั้นน้ำพัง คือเราไปก็คงไปเจอน้ำท่วม ไม่ได้เที่ยวแน่ๆ
พอเราไปถึง ทุกอย่างก็ดีขึันแบบพอดีแป๊ะ! ฝนไม่ตก น้ำลดลง จนถึงขั้นไม่ท่วม แดดเริ่มมา จนสามารถทำให้เที่ยวได้ มันอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ แต่รู้สึกโชคดีมาก เรื่องที่พัก มีเราเข้ามาพักคนเดียว ไม่มีคนมาพัก เลยนี่ได้ห้องไพรเวทไปเลย เริสๆ เรื่องจองคิวรถไปสนามบิน ไม่มีคนอีก เลยได้ไปสนามบินด้วยเซอร์วิชแบบราคาเหมา เริสๆ555 แต่ก็อย่างว่าเเหละ ใครเขาจะมาเที่ยวใต้ช่วงนี้ ออกข่าวโคมๆเรื่องน้ำท่วม บลาๆ แต่นี่เลือกที่จะมา เพราะลั้นไง
ก็ถือว่าทริปนี้จบด้วยความแฮปปี้ทุกอย่าง รอบต่อไปต้องมีแน่นอน อยากไปเที่ยวเกาะบ้าง อยากไปกินติ่มซำอีก รอบหน้าต้องได้กินหมูย่างเมืองตรัง เพราะมารอบนี้ไม่มีท้องว่างให้กินเลย อิ่ม555 อาหารที่นี่เริสจริงๆ
ไว้เจอกันใหม่ ตรัง:)
โฆษณา