❓จะทำยังไงให้ลดความเสี่ยง
ก็ต้องรู้ก่อนว่าความเสี่ยงมาจากไหน แหล่งที่มาของสารเคมีที่อยู่ในร่างกายเรา มาจากไหน?? ก่อความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ต่อระบบใดของร่างกาย ในระยะเวลาอันใกล้หรือระยะยาว
สารเคมีตกค้าง — จากการบริโภค จากสิ่งแวดล้อม หรือที่รับมาจากอาชีพการงานที่ทำอยู่ ฯลฯ ถึงจะบอกแหล่งที่มาแบบเป๊ะๆไม่ได้ แต่ก็พอจะสันนิษฐานได้จากประเภทของสารเคมีนะคะ แล้วจึงค่อยคิดหาวิธีจำกัดสารเคมีเหล่านั้นตั้งแต่ต้นทางนู่น ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปขั้นนั้น ลองพิ'ณาแนวทางเหล่านี้ไปด้วยจ้ะ
- 1.ถึงจะเป็นบูธของหน่วยงานอะไร น่าเชื่อถือแค่ไหน หรือเจอสารเคมีตกค้าง 9 ใน 10 คน (อาจเป็นหน้าม้าป่าว) **พึงเป็นผู้ไม่ปักใจเชื่อในทันที**
- 2.หา second opinion ควบคู่ไปกับการหาความรู้เชิงวิชาการ "ที่เป็นความรู้จริงๆไม่ใช่ความคิดเห็น"
- 3.ถ้าเทคซีเรียสก็ไปตรวจซ้ำค่ะ ไปตรวจที่รพ.หรือแล็ปเอกชนที่เชื่อถือได้ ที่เค้ามีใบรับรองมาตรฐาน
- 4.ตรวจแล้ว ผลแล็ปออกมา ทางรพ.หรือแล็ปเค้าจะมีคำแนะนำ วิธีการปฏิบัติ หรือจะเข้าสู่กระบวนการรักษาฟื้นฟูอะไรก็ว่าไป
- 5.ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด & 3-6 เดือนหรือ 1 ปีไปตรวจซ้ำอีกที
อ้างอิงจากผลแล็ป ตัวเลขที่จับต้องได้ บวกกับการหมั่นสังเกตร่างกายตัวเอง แต่ไม่ปริวิตกจนเกินเบอร์ ไม่หลอกตัวเอง ไม่มัวแต่ปิดตาข้างนึงแล้วมโนว่าร่างกายจะดีท็อกซ์ตัวเอง เยียวยาตัวเอง
ถึงเราจะไม่ได้คาดหวังว่าอยู่ถึง 100 ปีหรือตุยอย่างสงบศพสีจมปู แต่อย่างน้อยๆช่วงเคาน์ดาวน์ของชีวิต ก็อย่าให้สุขภาพเป็นภาระแก่ตนเองหรือผู้อื่นเลยหนา อะไรที่จัดการได้ในตอนนี้ก็จัดการไปตามความเหมาะสมค่ะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
