ชีวะประวัติในวัยเด็กของลอร์ดเอลิซาเบธ ธอร์สผู้นำสูงสุดแห่งอาณาจักรเซนทอรี่.
ศักราชอวกาศที่81 ตรงกับปีคริสต์ศักราชที่2162 เอลิซาเบธในวัย3ปีเธอได้มีชีวิตมาได้แม้จะต้องเข้าโรงพยาบาลและต้องสวมเครื่องช่วยหายใจอยู่หลายๆครั้งแต่ว่าก็ไม่สามารถช่วยให้คนที่เกลียดตัวเธอมองเธอดีขึ้นได้.
เมื่ออเล็กซานเดอร์พาเธอไปหน้าคฤหาสน์เพราะคุณตาจะเข้ามาเยี่ยมหลานๆในคฤหาสน์ซึ่งระหว่างกำลังเดินเอลิซาเบธที่กำลังหายใจไม่ออกพร้อมเสียงหายใจหนักๆในเครื่องช่วยหายใจอยู่ๆเธอได้พูดกับพี่ชาย
เอลิซาเบธ : พี่คะ มีใครยืนกลางฝนอยู่ตรงนั้นค่ะ.
อเล็กซานเดอร์ : พี่ไม่เห็นใครเลย เขาแต่งตัวยังไง.
เอลิซาเบธ : เขาสวมชุดคลุมยาวถึงเท้าสีดำ ไม่เห็นหัวเขาเลย แล้วเขาเหมือนถือเคียวอยู่นะคะ.
แม้ว่าตัวอเล็กซานเดอร์จะรู้ว่าน้องสาวเขาสติไม่ค่อยจะดีมากแต่เขาหวังว่าน้องสาวเขาจะแค่ตาฝาดไม่ใช่จิตเภทอย่างที่ใครเขาว่ากันเขาเลยบอกกับน้องสาว
อเล็กซานเดอร์ : พี่คิดว่าน้องแค่ตาฝาดเพราะอาจจะนอนน้อยก็ได้.
เอลิซาเบธ : อาจจะจริงก็ได้นะคะ.
อเล็กซานเดอร์ : นั่นไงรถคุณตามาแล้ว.
เมื่อรถจอดหน้าคฤหาสน์ก็มีเจ้าหน้าที่กางร่มให้กับจอมพลออทโทลงมาแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุเท่ากับเอลิซาเบธวิ่งลงมากอดเธอในทันทีโดยเธอคือเอเลร่า ฟอน เอสไชน์เซิน(Aelaera von Escheinsen) เธอเป็นญาติผู้พี่ของอเล็กซานเดอร์และเอลิซาเบธ โดยเอเลร่านั้นมีผิวสีขาว มีผมตรงสีขาว และมีตาสีเขียวมรกต เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างร่าเริงและเธอก็ต้องการที่จะสนิทกับเอลิซาเบธมากๆ.
เอเลร่า : อลิสุสบายดีไหมลำบากแย่เลยที่หายใจลำบากแบบนี้.
เอลิซาเบธ : เธอเป็นใครวันนี้ฉันไม่ค่อยสบายเลย.
เอเลร่า : ขอโทษทียังไม่ได้แนะนำตัวเลย ข้าชื่อเอเลร่า ฟอน เอสไชน์เซินหลานของท่านปู่ออทโท เรียกข้าว่าเอลี่(Aely)ได้เลยนะ.
เอลิซาเบธ : เอเลร่า เอ่อ เอลี่ยินดีที่ได้รู้จัก.
จอมพลออทโท : เอาหละหลานๆ พวกหลานๆไปคุยกันก่อนนะ ส่วนผู้ใหญ่จะคุยกันก่อนนะหลานๆ.
แต่เมื่อคุณตาเดินเข้าไปในคฤหาสน์รถอีกคันก็มาโดยในรถคันนั้นคือร้อยเอกรูดอล์ฟ ฟอน เอสไชน์เซิน วัย23ปี พร้อมภรรยาของเขาแคทารีน ฟอน เอสไชน์เซิน(Catharine von Escheinsen)วัย23ปี และตัวรูดอล์ฟยังมีลูกชาย2คนได้แก่1ฮานส์ ฟอน เอสไชน์เซิน(Hans von Escheinsen) อายุ5ปี และ2ฟรีดริช ฟอน เอสไชน์เซิน(Friedrich von Escheinsen) วัย4ปี ซึ่งอายุมากกว่าเอลิซาเบธ โดยที่รูดอล์ฟนั้นก็ยังไม่ชอบเธอเหมือนเดิม
รูดอล์ฟ : เป็นไงยัยเด็กบ้าเมื่อไหร่จะลงหลุมไปเนี่ย.
แคทารีน : คุณค่ะ อย่าพูดแบบนี้เลยยังไงเธอก็ยังเป็นเด็กเท่านั้นเราเข้าไปประชุมเถอะค่ะ.
มาร์กาเร็ต : รูดอล์ฟพูดถูกแล้วค่ะคุณนาย เมื่อเด็กนี่อายุ4ปีฉันจะจับแต่งกับเสี่ยรวยๆสักคนจะได้ไม่ต้องโผล่มาที่คฤหาสน์นี่อีก.
อเล็กซานเดอร์ : พี่ครับผมไม่เข้าใจว่าน้องไปทำอะไรให้ไม่พอใจกันนักหนา.
มาร์กาเร็ต : เป็นเด็กก็หุบปากไปเลย อเล็กซ์ที่นี่เราคุยด้วยเงินไม่ใช่เด็ก.
แคทารีน : เอลิซาเบธฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ต้องลำบากแบบนี้.
เอลิซาเบธ : ไม่เป็นอะไรฉันชินแล้ว.
เมื่อจบการสนทนาพวกผู้ใหญ่ก็ได้เดินเข้าไปในคฤหาสน์ อเล็กซานเดอร์ได้แต่ปลอบน้องสาว
อเล็กซานเดอร์ : อย่าเสียใจไปเลยนะไม่ใช่ผู้ชายที่เกลียดอลิสุทุกคนหรอก.
เอลิซาเบธ : ฉันรู้ค่ะ พวกเขาแค่กังวลเท่านั้นค่ะ.
อเล็กซานเดอร์ : อลิสุดีแล้วที่เข้าใจ ขนาดพี่มาร์กาเร็ตเขาก็ไม่เข้าใจเลยอย่าโกรธพี่เขาเลยนะ.
เอลิซาเบธ : ใครเรียกฉันนะ.
เอลิซาเบธได้เดินตามไปที่หลังคาตามเสียงเรียกนั้นไปโดยที่อเล็กซานเดอร์ไปเตรียมอาหารให้เอเลร่าและญาติคนอื่นๆแต่เพราะฝนที่ถล่มหนักทำให้หลังคาลื่นมาเอลิซาเบธจงลื่นตกไปที่ระเบียงบาดเจ็บเล็กน้อย ตามด้วยการถูกฟ้าผ่าเต็มๆแต่ก็รอดมาได้โดยไม่บาดเจ็บเลยเมื่อเดินกลับลงมาก็พบว่าตนเองมองเห็นสิ่งที่ไม่มีใครเห็นและได้ยินสิ่งที่ไม่มีใครได้ยินแล้วก็ไม่ได้บอกใครแต่เอเลร่าเห็นทุกอย่าง.
1ปีต่อมาเอลิซาเบธในวัย4ปีมีผู้ชายหลายคนมาสนใจทั้งชายวัย20 ถึงเสี่ยวัย40ขึ้น ต้องการเธอไปเป็นเมียซึ่งมาร์กาเร็ตพี่สาวคนโตต้องการให้เธอไปเป็นเมียเสี่ยสักคนเพื่ออะไรสักอย่าง แต่เพราะเอลิซาเบธเจอกับความน่ากลัวของเปโดตั้งแต่อายุ4ขวบทำให้เธอเกลียดเปโดแม้จะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่มันอยู่ในดวงตาแต่ปัญหาที่ทำให้ครอบครัวอึดอัดแบบนี้ก็จบลงได้เพราะจอมพลออทโทเข้ามาจบเรื่องทำให้ไม่มีการส่งตัวเอลิซาเบธไปเป็นเมียใคร.
ต่อมาในศักราชอวกาศที่83 ตรงกับคริสต์ศักราชที่2164 พลเอกวิคเตอร์พ่อของเอลิซาเบธเสียชีวิตด้วยหลอดเลือดในสมองแตกทำให้ครอบครัวของเธอไม่มีพ่อที่หาเงินทำให้แม่เลยต้องไปทำงานแทนส่งผลให้อเล็กซานเดอร์เป็นคนเลี้ยงเอลิซาเบธในวัย5ปี ซึ่งมีนักธุรกิจหลายๆคนได้สัญญากับเอเรียต่อหน้าจอมพลออทโทว่าหากตระกูลธอร์สประสบกับปัญหาพวกตนจะช่วยเหลือทำให้เอเรียสบายใจขึ้นมาได้.
เมื่อเอลิซาเบธและเอเลร่าอายุ7ปี ในปีศักราชอวกาศที่85ตรงกับคริสต์ศักราชที่2166 ในปีนี้เอลิซาเบธและเอเลร่านั้นค่อนข้างจะมีความสามารถในการเรียนรู้สูงมาก เพราะสามารถทำข้อสอบมหาวิทยาลัยระดับปริญญาโทได้ทั้งที่เพิ่งเข้าประถมศึกษาปีที่1 ทำให้จอมพลออทโทจึงมอบหลอดของเหลวสีฟ้าให้ทั้ง2คน
จอมพลออทโท : หลานๆ ปู่จะให้พวกหลานๆใช้นะ.
เอเลร่า : มันคืออะไรเหรอค่ะคุณปู่.
เอลิซาเบธ : แต่ฉันรู้นะคะว่ามันคืออะไร มันคือเฮิร์บ(H.E.R.B) มาจากสมุนไพรสักอย่างถูกต้องใช่ไหมค่ะคุณตา.
จอมพลออทโท :น่าเสียดายเพราะผิด สิ่งนี้ชื่อว่าH.E.R.Bถูกต้อง แต่ว่าไม่ใช่สมุนไพรแต่H.E.R.Bมาจากคำว่าการพัฒนาและการวิจัยสมองขั้นสูง(Hyper Enhancement and Research of Brain) เป็นโครงการลับของรัฐบาลที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน.
ซึ่งตัวของH.E.R.Bนั้นตามที่รัฐบาลอ้างนั้นสามารถส่งผลให้สมองพัฒนาได้มากถึง20% ฉลาดขึ้น มีIQเพิ่มจากปกติได้มากถึง30IQ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างทำให้ไม่สามารถบอกได้แต่เท่าที่รัฐบาลรู้ทั้ง2คนเหมาะสมกับH.E.R.B มากที่สุดในประเทศซึ่งเอลิซาเบธได้ถึงจับเข็มแทงตัวเองเข้าที่แขนขวาในทันทีโดยไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ทำให้เอเลร่ายิ้มออกมาและฉีดเข้าตัวเองเหมือนกัน.
ผลที่ได้คือเอเลร่าฉลาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเข้าขั้นอัฉริยะ ในขณะที่เอลิซาเบธล้มป่วยลงอย่างรวดเร็วอย่างหนักจนต้องนอนโรงพยาบาลในห้องฉุกเฉิน ซึ่งจอมพลออทโทก็ยืนดูอย่างทุกข์ใจกับหลานสาวแต่รัฐบาลนั้นบอกว่าสมบูรณ์แบบเลยครับท่านจอมพลและได้นำตัวเอลิซาเบธไปรักษาในโครงการของรัฐบาล.
ในห้องทดลองใต้ดิน วันX เดือนสิงหาคม ศักราชอวกาศที่85 เวลาXX.XX.XX เอลิซาเบธนอนอยู่บนเตียงรักษาซึ่งอยู่ในสภาพที่มีการนอนขยับตัวไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรดวงตายังกึ่งหลับกึ่งตื่นและได้มีการหยอดสารสีดำสนิทลงในใส่ดวงตาทั้ง2ข้าง หลายวันต่อมาเอลิซาเบธได้กลับคฤหาสน์ในสภาพที่จิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตาทั้ง2ข้างเปลี่ยนเป็นสีแดง และเห็นภาพหลอนและเสียงหลอนตลอดเวลาแบบผู้ป่วยจิตเภทและพูดคนเดียวแบบคาดเดาไม่ได้.
แต่รัฐบาลยังบอกว่าปกติดีแต่ทางรัฐบาลนั้นต้องการให้เอลิซาเบธเรียนในสถานีวิจัยแบบโรงเรียนประจำเพราะเชื่อว่าเป็นการศึกษาที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะมอบให้เด็กสาวได้แม้ว่าเอเรียจะไม่ต้องการแต่ก็ขัดรัฐบาลไม่ได้เช่นเดียวกับเอเลร่าที่รัฐบาลได้พาตัวไปเรียนที่สถานีวิจัยเช่นกัน.
เอเลร่า ฟอน เอสไชน์เซินสมัยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนลอร์ดแห่งเซนทอรี่.
เป็นญาติผู้น้องของรูดอล์ฟ โดยเป็นลูกสาวคนที่7ของนาวาอากาศเอก ฟริดริช ฟอน เอสไชน์เซิน แห่งนิวโฮป ลูกชายคนที่4 ของจอมพลออทโท ลุงของเอลิซาเบธ ธอร์ส.
ซึ่งลอร์ดเอลิซาเบธ ธอร์สกับผู้สำเร็จราชการพลเอกเอเลร่า ฟอน เอสไชน์เซินมีความชอบในด้านวิทยาศาสตร์เหมือนกันแต่ลอร์ดเอลิซาเบธ ธอร์สจะสุดโต่งมากกว่าและจะคลั่งชาติมากกว่าเอเลร่าที่เป็นชาตินิยม.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
